|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนาความสามารถด้านกีฬาวอลเลย์บอล ด้วยวิธีการเรียนแบบร่วมมือ
โดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการโรงเรียนลำปาววิทยาคม
ผู้ศึกษาค้นคว้า นายพิชิต เนาวพันธุ์กุล
ปีที่ศึกษา 2558
บทคัดย่อ
วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาแก่ ผู้เล่น ที่ต้องการให้ผู้เรียนมีทักษะการเคลื่อนไหวพื้นฐานและสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทางกายได้อย่างปลอดภัยและสนุกสนาน แสดงความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา และปฏิบัติตามกฎกติกา การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนกีฬาวอลเลย์บอล โรงเรียนลำปาววิทยาคม อำเภอ ยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ตามรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือกันเรียนรู้ (Co-operative Learning) เทคนิค STAD โดยเลือกหลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action research) ตามแนวคิดของ (Kemmis and McTaggart) โดยดำเนินการ 2 วงรอบ วงรอบละ 4 แผน แต่ละวงรอบประกอบด้วย การวางแผน (Planning) การปฏิบัติตามแผน (Action) สังเกต (Observation) และการสะท้อนผล (Reflection) กลุ่มผู้ศึกษาค้นคว้ามีจำนวน 3 คน กลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียนโรงเรียนลำปาววิทยาคม จำนวน 25 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบเพื่อจัดแบ่งกลุ่มนักเรียนตามเทคนิค STAD แบบทดสอบเพื่อวัดความรู้กีฬาวอลเลย์บอล ก่อน-หลังเรียน แบบทดสอบท้ายแผน แบบสังเกตพฤติกรรมการสอนของครู แบบสังเกตพฤติกรรม การเรียนของนักเรียน แบบสัมภาษณ์นักเรียน แบบบันทึกประจำวันของครูผู้สอนและแบบบันทึก การประชุม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงบรรยาย
ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏผล ดังนี้
ก่อนการดำเนินการพัฒนาการเรียนการสอนกีฬาวอลเลย์บอล พบว่า นักเรียนขาดทักษะพื้นฐานกีฬาวอลเลย์บอลที่สำคัญ ประกอบด้วย ทักษะการเล่นลูกสองมือล่าง การเสิร์ฟลูกมือล่าง การเสิร์ฟลูกมือบน การแตะชูลูกบอล การสกัดกั้น และการตบเพื่อรุก เพราะว่าการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของครูไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กล่าวคือ ให้นักเรียนฝึกเล่นเอง มีการจัดกลุ่มกันฝึกไม่เป็นระบบ ดังนั้นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อย 5 คน ประกอบด้วยนักเรียนกลุ่มละ 5 คน ประกอบด้วย นักเรียนกลุ่มเก่ง 1 คน กลุ่มปานกลาง 3 คน และกลุ่มอ่อน 1 คน ทดสอบก่อนเรียนเพื่อวัดทักษะพื้นฐานกีฬาวอลเลย์บอล ผลการพัฒนาวงรอบที่ 1 พบว่า นักเรียนมีการพัฒนาทักษะการเล่นลูกสองมือล่างและทักษะการเสิร์ฟลูกมือล่างผ่านเกณฑ์ที่กำหนด เพราะว่านักเรียนมีสมรรถภาพทางกายที่พร้อมและเป็นทักษะที่นักเรียนส่วนใหญ่มีพื้นฐานมาก่อนแล้ว นักเรียนจึงตั้งใจฝึกทักษะเป็นอย่างดี ส่วนทักษะการเสิร์ฟลูกมือบน การสกัดกั้น การแตะชูลูกบอลและการตบเพื่อรุก ไม่ผ่านเกณฑ์ เพราะการแบ่งกลุ่มในวงรอบที่ 1 มีขนาดใหญ่เกินไปทำให้นักเรียนบางคนไม่ตั้งใจฝึก บางคนพูดน้อยให้ความรู้กับเพื่อนในกลุ่มได้ไม่เต็มที่ทุกคน จึงได้ดำเนินการใช้กลยุทธ์การเรียนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TGTการพัฒนาการเรียนการสอนวอลเลย์บอลในวงรอบที่ 2 โดยแบ่งกลุ่มนักเรียนให้มีขนาดกลุ่มโดยใช้เทคนิค TGT มีลักษณะการแบ่งกลุ่มเหมือนกับ STAD แต่มีขนาดกลุ่มเล็กกว่า การดำเนินการในวงรอบที่ 2 ผลการประเมิน พบว่า นักเรียนมีการพัฒนาทักษะกีฬาวอลเลย์บอลสูงขึ้น เพราะมี การแบ่งกลุ่มนักเรียนให้มีขนาดเล็กลง ทำให้นักเรียนได้ช่วยเหลือกันเต็มที่ จึงทำให้นักเรียนตั้งใจฝึกทักษะเป็นอย่างดี ยกเว้นทักษะการตบเพื่อรุกนักเรียนกระโดดไม่สูงและการสัมผัสลูกบอลของข้อมือขณะตบ จึงทำให้ไม่ผ่านเกณฑ์ เพราะถึงแม้ว่านักเรียนจะช่วยเหลือกันภายในกลุ่มมากเพียงใด สมรรถภาพทางกาย รวมทั้งทักษะการกระโดดมีส่วนสำคัญในการตบเพื่อรุก
โดยสรุป การพัฒนาการสอนกีฬาวอลเลย์บอล โรงเรียนลำปาววิทยาคม โดยใช้วิธีสอนแบบกลุ่มร่วมมือกันเทคนิค STAD ทำให้นักเรียนมีการพัฒนาทักษะพื้นฐานกีฬาวอลเลย์บอลดีขึ้น เช่น ทักษะการเล่นลูกสองมือล่าง การเสิร์ฟลูกมือล่าง การเสิร์ฟลูกมือบน การสกัดกั้น และการแตะชูลูกบอล เพราะนักเรียนได้ร่วมมือกันเรียนรู้ภายในกลุ่มของตนเอง ซึ่งมีการจัดแบ่งกลุ่มการเรียนรู้อย่างมีระบบ นักเรียนที่เก่งกว่าคอยช่วยเหลือเพื่อนนักเรียนที่อ่อนกว่า ส่วนทักษะการตบเพื่อรุกนั้นยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรเพราะว่านักเรียนขาดทักษะการกระโดดสูงและขาดการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจุดสัมผัสของลูกบอลและข้อมือ ดังนั้นควรสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายของผู้เรียนให้มีความแข็งแรงโดยเฉพาะข้อเท้า ทักษะการกระโดดสูง และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจุดสัมผัสของลูกบอลกับข้อมือ
|
โพสต์โดย หมอก : [4 มี.ค. 2560 เวลา 12:47 น.] อ่าน [2364] ไอพี : 103.14.8.116
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 12,161 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,541 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,711 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 40,432 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,530 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,583 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 8,455 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,888 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 381,091 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,634 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 8,056 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,263 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,950 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,940 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,413 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 11,698 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 7,045 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,824 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,054 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,387 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|