บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำคล้องจอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีคุณภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำคล้องจอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เพื่อศึกษาความก้าวหน้าของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำคล้องจอง และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำคล้องจอง กลุ่มประชากรที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนสำราญ-ประภาศรี ตำบลดงมูล อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 จำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำคล้องจอง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 4 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่านและเขียนคำคล้องจอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 22 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่ใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำคล้องจอง สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ การหาค่า E1/E2 ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้

1. แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำคล้องจอง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 80.25/81.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. ความก้าวหน้าของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำคล้องจอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีค่าคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าค่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 8.50 คิดเป็นร้อยละ 53.13

3. นักเรียนกลุ่มเป้าหมายมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำคล้องจองและกลอนสี่ ทั้ง 5 เล่ม โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.77

เว็บน่าสนใจ