ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก
เล่น... พัฒนาอัจฉริยภาพ
ความรู้ทั่วไป 10 พ.ย. 2552 เปิดอ่าน : 10,323 ครั้ง
☰แชร์เลย >  
เพิ่มเพื่อน
Advertisement

❝ การเล่นพัฒนาอัฉริยภาพลูกน้อย ❞
เล่น... พัฒนาอัจฉริยภาพ
Advertisement

        การเล่นเป็นธรรมชาติของเด็ก การเล่นเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเด็ก ประสบการณ์ที่ได้รับจากการเล่นจะช่วยพัฒนาศักยภาพของเด็กในด้านต่างๆ เพราะการเล่นเป็นการตอบสนองความต้องการของจิตใจและได้รับความสนุกสนานความพึงพอใจ เด็กจะได้พบกับการแก้ปัญหา การแบ่งปัน การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น รู้จักการเป็นผู้นำและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การเล่นยังช่วยให้เด็กได้ใช้พลังงานและจินตนาการ ของเล่นมีมากมายหลากหลายชนิดที่จะทำให้เด็กได้เรียนรู้ และค้นพบว่าจะเล่นวิธีไหน อย่างไร เล่นแล้วออกมาเป็นรูปแบบใด ทำให้เกิดการค้นพบสิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการเล่นจึงมีบทบาททำให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสุข และเต็มไปด้วยจินตนาการ
        การเล่นมีผลต่อการพัฒนาสมอง การเล่นที่ให้เด็กได้รับประสบการณ์เองโดยตรง ได้แก่ การหยิบจับ สัมผัส จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทางสมอง ให้มีคุณภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น การเล่นจึงเป็นการป้อนข้อมูลเข้าไปในสมอง แต่การเจริญเติบโตของตัวสมองเองนั้นได้มาจากอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็ก รวมทั้งการดูแลเอาใจใส่ในตัวเด็ก ได้แก่ ความรัก ความอบอุ่นจากพ่อแม่ผู้เลี้ยงดูด้วย การเล่นที่เหมาะสมต่อพัฒนาการเด็กในแต่ละวัยมีความสำคัญมาก สามารถกระตุ้นใยสมองและจุดเชื่อมต่อทำให้สมองเกิดการพัฒนาการเติบโตได้เป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาอัฉริยะ

ความสำคัญของการเล่น
การเล่นช่วยส่งเสริมพัฒนาการในด้านต่างๆ
        ด้านร่างกาย (Physical Development) การเล่นช่วยพัฒนากล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย เกิดการทำงานที่ประสานสัมพันธ์กันระหว่างระบบประสาทและมัดกล้ามเนื้อ
        ด้านสติปัญญา (Cognitive Development) การเล่นช่วยให้เด็กเกิดการปรับตัว พัฒนาเปลี่ยนแปลงความคิด เกิดการแก้ปัญหาจากการคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์ เปลี่ยนแปลงความคิดความเข้าใจในเนื้อหาที่มีต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็ก
        ด้านภาษา (Language Development) การอ่านและการเขียน การเล่น เด็กจะรู้คำศัพท์ใหม่เพิ่มขึ้นจากการใช้ภาษาในการสื่อสารระหว่างผู้เล่น
        ด้านสังคม (Social Development) การเล่นช่วยสอนให้เด็กรู้จักความอดทนและการรอคอย การแบ่งปันและรู้จักกฎเกณฑ์ของสังคม การอยู่ร่วมกับผู้อื่น การเสียสละ ความสามัคคีจะทำให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
        ด้านอารมณ์ (Emotional Development) การเล่นช่วยให้เด็กเกิดการแสดงอารมณ์ในรูปแบบต่างๆ เช่น กลัว โกรธ อิจฉา คับข้องใจ เครียด เป็นต้น ซึ่งอารมณ์ที่เป็นลบเหล่านี้จะแสดงออกผ่านการเล่น การเล่นสามารถทำให้เกิดความมั่นใจในตนเองเด็กจะเกิดความสุขเมื่อการเล่นประสบความสำเร็จ
        ด้านความคิดและจินตนาการ (Creativity and Imaginary Development) การเล่นสามารถต่อยอดและส่งเสริมจินตนาการให้เด็กได้อย่างแน่นอน
        พ่อแม่นับเป็นเพื่อนเล่นคนแรกของลูกและเป็นเพื่อนเล่นที่ดีที่สุด เพราะเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการเลือกของเล่นและชนิดของการเล่นแต่ละประเภทให้แก่ลูก สอนวิธีการเล่นและแนะนำสิ่งที่ถูกต้องให้แก่ลูก มีการศึกษาค้นคว้าว่า “เด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด มักเป็นเด็กที่มีผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในการเล่น”หมายความว่าพ่อแม่จะเป็นบุคคลที่ดีและสำคัญที่สุดที่จะเล่นกับลูก ยังรวมถึงญาติและคนอื่นๆ ที่มีส่วนร่วมในการเล่นกับลูก การเล่นยังสามารถสร้างบรรยากาศที่เพลิดเพลินและก่อให้เกิดความสนุกสนานและความอบอุ่นภายในบ้านได้อีกด้วย สิ่งที่พ่อแม่ควรกระทำระหว่างเล่นกับลูกคือ ให้คำชมเชย แสดงออกถึงความภาคภูมิใจ จะทำให้การเล่นของเด็กเกิดประโยชน์สูงที่สุด
การเล่นควรคำนึงถึง
        * ความปลอดภัย ตั้งแต่ของเล่น สถานที่ที่จะอนุญาตให้เด็กเล่น การร่วมเล่นของพ่อแม่หรือการเล่นอย่างเสรี เด็กควรจะมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความสนใจและแสดงความสามารถที่มีต่อการเล่น
        * ความเหมาะสมต่อพัฒนาการตามวัย การเล่นต้องเหมาะกับระดับอายุและวัยของเด็ก เพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเด็กไม่ควรเล่นกับของเล่นที่มีระดับความยากที่มากหรือน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับวัยของเด็กเอง เพราะของเล่นที่ซับซ้อนและยากเกินความสามารถตามวัยของเด็กก็จะบั่นทอนกำลังใจและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในตัวเด็กเอง หรือหากมีระดับความง่ายจนเกินไปก็อาจจะทำให้การเล่นน่าเบื่อ เด็กขาดความสนใจ เกิดความรู้สึกว่าไม่ท้าทายความสามารถ ไม่เกิดแรงจูงใจในการเล่น จึงทำให้รู้สึกว่าการเล่นไม่ก่อให้เกิดความสนุกสนาน
        * การจัดสิ่งแวดล้อม บรรยากาศที่สบายๆ มีการเลือกจัดมุมบริเวณสำหรับการเล่น จัดหมวดหมู่ให้เป็นระเบียบ มีระบบการจัดเก็บที่เป็นระเบียบ ก็จะทำให้เล่นได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ยังส่งเสริมฝึกให้เด็กมีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบ “ของเล่นที่ดีมีคุณภาพนั้นไม่ได้อยู่ที่ราคาแพง แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำของเล่นนั้นมาใช้ประโยชน์ได้มากน้อยเพียงใด”
        * บุคคลที่เล่นกับลูกคือพ่อแม่ “พ่อแม่ควรเล่นกับลูก” ปฏิสัมพันธ์และสายใยรักที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดความผูกพัน รักใคร่ ซึมซับ และเกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครอบครัวด้วย
ในเมื่อการเล่นต้องเหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของเด็ก ดังนั้นพ่อแม่ที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กเป็นพื้นฐาน เพื่อช่วยประมาณและประเมินความสามารถของเด็กได้ว่ามีความพร้อมและวุฒิภาวะที่จะแสดงพฤติกรรมและเสนออะไรเบ้าง การเข้าใจระดับความสามารถของเด็กจะทำให้ “การเล่นเกิดประโยชน์สูงสุด” เด็กจะทำได้สำเร็จ เกิดความภาคภูมิใจ จะก่อผลดีต่อการพัฒนาบุคลิกภาพและพัฒนาการด้านอื่นๆ ตามมาเมื่อเด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่

ตารางแสดงการเล่นที่เด็กควรทำอย่างเหมาะสมในวัยทารก

อายุวัยทารก
การเล่น
1-3 เดือน
ของเล่นที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้สายตา เช่น โมบาย เครื่องเขย่าที่ก่อให้เกิดเสียง เป็นต้น
3-4 เดือน
ของเล่นแตะจับสิ่งของต่างๆ ของเล่นชนิดนี้มีหลากหลาย ฝึกให้เด็กรู้จักการสังเกตด้วยการสัมผัสความแข็งความนุ่ม เช่น ลูกบอลแบบนิ่มมีระบบแสงเสียง เป็นต้น
5-6 เดือน
วัยนี้ชอบนำสิ่งของเข้าปากและอมสิ่งของ ชอบปาของลงบนพื้น ของเล่นที่มีเสียงดนตรี ตุ๊กตามีเสียง รู้จักเล่นของเล่นเมื่อเห็นการสะท้อนในกระจก
6-7 เดือน
ของเล่นประเภทมีเสียงป๋องแป๋ง ตุ๊กตาผ้า ตุ๊กตาล้มลุก รถลาก ตุ๊กตาไขลาน ฟังเพลงจังหวะง่ายๆ เมื่อเด็กได้ยินเสียงดังกล่าวก็จะหัวเราะพึงพอใจ
7-8 เดือน
ของเล่นประเภทที่มีล้อเลื่อน มีสีสันลากไปมาได้ และตุ๊กตารูปสวยงาม แต่ต้องระวังของภายในบ้าน เช่น สายไฟ กลอนประตู บานพับประตู พัดลม วิทยุ โทรศัพท์ เป็นต้น
8-9 เดือน
เด็กชอบเคาะกลอง เคาะระนาด เคาะดนตรี บางคนชอบให้จับโยนจะหัวเราะชอบใจ
9-10 เดือน
ชอบเล่นอยู่คนเดียว สนใจการเล่นกับของใช้ เช่น เครื่องครัว ช้อน ชาม ปลั๊กไฟ สวิตช์ไฟและอื่นๆ
10-11 เดือน
ชอบเล่นไม้บล๊อคและต่อบล๊อค ชอบเคาะทำให้เกิดเสียง ชอบต่อของเล่น ชอบดูรูปนิทานต่างๆ
11-12 เดือน

เล่นของเล่นที่มีการสำรวจ อยากรู้อยากเห็น และดีใจเมื่อได้อยู่ในกลุ่มที่โตกว่าเล็กน้อย



ตารางแสดงการเล่นที่เด็กควรทำอย่างเหมาะสมในเตาะแตะ (1-3 ปี)

อายุวัยเตาะแตะ
การเล่น
1-1ปีครึ่ง
ชอบเล่นชิงช้า กระดานลื่น รถเข็น ลูกบอล เล่นทราย สีและกระดาษเขียนตามใจชอบ ชอบตุ๊กตารูปคนและรูปสัตว์ รถยนต์ เครื่องบิน การอ่านหนังสืออย่างง่ายๆ เช่น หนังสือภาพ
1ปีครึ่ง -2 ปี
ชอบเล่นออกแรง เช่น เตะลูกบอล ตอกด้วยค้อน ดึงออกมาสวมใส่แท่งไม้ที่ซ้อนกัน
ชอบดนตรีที่โยกตัวตามจังหวะเสียงเพลง
ชอบวาดรูปโดยใช้สีเทียน
ชอบหนังสือดูภาพสวยงาม และกระโดดโลดเต้นทั้งวัน
2-3 ปี
ขี่จักรยาน
ต่อบล๊อค วาดภาพ ดูหนังสือประกอบ เล่นตุ๊กตา ต้องการเพื่อนเล่นมากกว่าของเล่น

 

อุปกรณ์ของเล่นเด็กวัย 1-3 ปี
        * บล๊อคไม้ขนาดใหญ่หรือเล็ก 5-6 ชิ้นหรือด้วยกล่องหลายๆ ใบจากไม้ พลาสติก หรือกระดาษแข็ง
        * กระดานค้อนตอกอาจทำด้วยไม้
        * ของเล่นเป็นชิ้นขนาดต่างๆ เล็กใหญ่หรือสั้นยาวไม่เท่ากัน
        * ของเล่นที่ทำให้เกิดเสียง
        * กล่องดนตรี
        * ขั้นบันได
        * ลูกบอลที่ทำด้วยพลาสติกหรือผ้า
        * ตุ๊กตายางลอยน้ำได้
        * ของลากจูง เช่น เรือ รถ หรือสิ่งของที่มีเชือกร้อยให้เด็กได้ลากจูงเล่น
        * อุปกรณ์เล่นกับทราย เช่น พลั่ว ช้อน ที่ทำมาจากพลาสติก
        * หนังสือ รูปภาพที่ทำด้วยกระดาษ ผ้า พลาสติก
        * ภาพตัดต่อ 3-6 ชิ้น ทำด้วยไม้ พลาสติก หรือผ้า

        การเล่นนอกจากจะเลือกของเล่นอย่างปลอดภัยแล้ว สิ่งสำคัญคือการใช้และการเก็บรักษาอย่างเหมาะสม หากของเล่นชำรุดเสียหายเกินกว่าที่จะใช้งานได้ก็ควรทิ้งหรือเปลี่ยนใหม่ ควรสอนให้เด็กรู้จักการเก็บของเล่นเองหลังจากเล่นเสร็จ ผู้ใหญ่ไม่ควรคิดว่าของเล่นเด็กเป็นสิ่งไร้สาระ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ แต่การเล่นของเด็กมีคุณค่าอย่างมหาศาลในการพัฒนาเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าได้ผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน ส่งเสริม และมีส่วนร่วมในการเล่นกับเด็กด้วย เด็กก็จะเกิดการพัฒนาการทางอารมณ์ มีความสุข ประสบความสำเร็จ สร้างเสริมความคิดริเริ่ม จินตนาการใหม่ๆ ออกมา นั่นคือในระหว่างเล่นกับลูกน้อย ลูกน้อยอาจจะฉายแววอัฉริยะให้คุณพ่อคุณแม่เห็นก็ได้ค่ะ

“วันนี้คุณเล่นกับลูกแล้วหรือยังคะ”

ที่มา : Healthtoday


TAGS ที่เกี่ยวข้อง >> เล่น... พัฒนาอัจฉริยภาพเล่น...พัฒนาอัจฉริยภาพ << คลิกอ่านเพิ่มเติม

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

"พระโค"เสี่ยงทายกินหญ้าน้ำท่า-อาหารบริบูรณ์

"พระโค"เสี่ยงทายกินหญ้าน้ำท่า-อาหารบริบูรณ์
เปิดอ่าน 10,355 ครั้ง
รู้หรือยัง? เจ้าของเสียงประกาศบน BTS คือใคร

รู้หรือยัง? เจ้าของเสียงประกาศบน BTS คือใคร
เปิดอ่าน 6,373 ครั้ง
เกาหลีแพลนสร้าง แดจังกึม 2

เกาหลีแพลนสร้าง แดจังกึม 2
เปิดอ่าน 9,767 ครั้ง
7 อาหารอร่อยช่วยเยียวยา

7 อาหารอร่อยช่วยเยียวยา
เปิดอ่าน 13,174 ครั้ง
สักการะเกจิชื่อดัง... ตามหาผู้นำต้นยางต้นแรกมาปลูกในตรัง แวะชิมหมูย่างเมืองตรัง

สักการะเกจิชื่อดัง... ตามหาผู้นำต้นยางต้นแรกมาปลูกในตรัง แวะชิมหมูย่างเมืองตรัง
เปิดอ่าน 10,077 ครั้ง
ปวดหัว แก้ด้วยวารีบำบัด

ปวดหัว แก้ด้วยวารีบำบัด
เปิดอ่าน 30,365 ครั้ง
"โกสน" ช่วยดูดพิษในอากาศ

"โกสน" ช่วยดูดพิษในอากาศ
เปิดอ่าน 12,079 ครั้ง
วิตามินอี ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

วิตามินอี ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
เปิดอ่าน 10,059 ครั้ง
ภัยเงียบของเด็กไทย

ภัยเงียบของเด็กไทย
เปิดอ่าน 11,468 ครั้ง
แม่ยุคใหม่ ที่ลูกต้องการ

แม่ยุคใหม่ ที่ลูกต้องการ
เปิดอ่าน 10,406 ครั้ง
ทำไมแมวไม่ชอบน้ำ

ทำไมแมวไม่ชอบน้ำ
เปิดอ่าน 8,202 ครั้ง
ลูกน้อยทานยาลดไข้หลายวัน เป็นอันตรายไหม

ลูกน้อยทานยาลดไข้หลายวัน เป็นอันตรายไหม
เปิดอ่าน 10,712 ครั้ง
กลูต้าไทโอน ทำให้ผิวขาวจริงหรือไม่?

กลูต้าไทโอน ทำให้ผิวขาวจริงหรือไม่?
เปิดอ่าน 9,411 ครั้ง
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี

นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี
เปิดอ่าน 1,594 ครั้ง
"ย่านาง" ตำรับยาแก้ไข้ สมุนไพรอายุวัฒนะ

"ย่านาง" ตำรับยาแก้ไข้ สมุนไพรอายุวัฒนะ
เปิดอ่าน 21,358 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เตาอบไมโครเวฟ ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ไหม
เตาอบไมโครเวฟ ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ไหม
เปิดอ่าน 12,501 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
10 อันดับ ปริศนาของโลก
10 อันดับ ปริศนาของโลก
เปิดอ่าน 15,239 ☕ คลิกอ่านเลย

ชุดประจำชาติที่ ‘น้องไข่มุก’ ใส่ประกวดมิสยูนิเวิร์สปีนี้
ชุดประจำชาติที่ ‘น้องไข่มุก’ ใส่ประกวดมิสยูนิเวิร์สปีนี้
เปิดอ่าน 17,993 ☕ คลิกอ่านเลย

หมอเตือนอย่ากิน"แมลงทอด"กับ"เหล้า-เบียร์"
หมอเตือนอย่ากิน"แมลงทอด"กับ"เหล้า-เบียร์"
เปิดอ่าน 20,120 ☕ คลิกอ่านเลย

10 ข้อดีของการนอนเร็ว รู้แล้วเปลี่ยนพฤติกรรมด่วน
10 ข้อดีของการนอนเร็ว รู้แล้วเปลี่ยนพฤติกรรมด่วน
เปิดอ่าน 13,753 ☕ คลิกอ่านเลย

อาหารมงคลในงานแต่งแบบไทย
อาหารมงคลในงานแต่งแบบไทย
เปิดอ่าน 24,476 ☕ คลิกอ่านเลย

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! 3 ข้อห้าม ห้ามทำในวันหวยออก หากอยากถูกหวย!
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! 3 ข้อห้าม ห้ามทำในวันหวยออก หากอยากถูกหวย!
เปิดอ่าน 5,499 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

วิธีใช้สายตาอย่างถูกต้อง
วิธีใช้สายตาอย่างถูกต้อง
เปิดอ่าน 8,693 ครั้ง

บทบาทผู้นำองค์กร 2020
บทบาทผู้นำองค์กร 2020
เปิดอ่าน 8,043 ครั้ง

ม่วงส่าหรี
ม่วงส่าหรี
เปิดอ่าน 26,057 ครั้ง

หนอนคืบ
หนอนคืบ
เปิดอ่าน 12,291 ครั้ง

รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว
เปิดอ่าน 9,471 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย


เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

  • IELTS Test
  • SAT Test
  • สอบ IELTS
  • สอบ TOEIC
  • สอบ SAT
  • เว็บไซต์พันธมิตร

  • IELTS
  • TOEIC Online
  • chulatutor
  • เพลงเด็กอนุบาล
  •  
    หมวดหมู่เนื้อหา
    เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


    · Technology
    · บทความเทคโนโลยีการศึกษา
    · e-Learning
    · Graphics & Multimedia
    · OpenSource & Freeware
    · ซอฟต์แวร์แนะนำ
    · การถ่ายภาพ
    · Hot Issue
    · Research Library
    · Questions in ETC
    · แวดวงนักเทคโนฯ

    · ความรู้ทั่วไป
    · คณิตศาสตร์
    · วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    · ภาษาต่างประเทศ
    · ภาษาไทย
    · สุขศึกษาและพลศึกษา
    · สังคมศึกษา ศาสนาฯ
    · ศิลปศึกษาและดนตรี
    · การงานอาชีพ

    · ข่าวการศึกษา
    · ข่าวตามกระแสสังคม
    · งาน/บริการสังคม
    · คลิปวิดีโอยอดนิยม
    · เกมส์
    · เกมส์ฝึกสมอง

    · ทฤษฎีทางการศึกษา
    · บทความการศึกษา
    · การวิจัยทางการศึกษา
    · คุณครูควรรู้ไว้
    · เตรียมประเมินวิทยฐานะ
    · ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
    · เครื่องมือสำหรับครู

    ครูบ้านนอกดอทคอม

    เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

          kroobannok.com

    © 2000-2020 Kroobannok.com  
    All rights reserved.


    Design by : kroobannok.com


    ครูบ้านนอกดอทคอม
    การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

    วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
     

    ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

    เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

    Email : kornkham@hotmail.com
    Tel : 081-3431047

    สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
    คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ