ผู้วิจัย นายสนธยา ดอกประโคน

ปีที่วิจัย 2559

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดการเรียนแบบฝึกปฏิบัติเพื่อพัฒนาทักษะ สาระทัศนศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ศ 21102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดการเรียนแบบฝึกปฏิบัติเพื่อพัฒนาทักษะ ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยชุดการเรียนแบบฝึกปฏิบัติเพื่อพัฒนาทักษะ

ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นโรงเรียนจะกงวิทยา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 อำเภอขุขันธ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 จำนวน 70 คน กลุ่มเป้าหมายหลักของการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนจะกงวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 24 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ( Purposive Sampling ) เครื่องมือ ที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 5 แผน (2) ชุดการเรียนแบบฝึกปฏิบัติ เพื่อพัฒนาทักษะ จำนวน 5 เล่ม (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ แบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจำนวน 50 ข้อ มีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.32 ถึง 0.72 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.20 ถึง 0.70 และค่าความเชื่อมั่น 0.92 และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.54 ถึง 0.76 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.88 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่า t – Test

ผลการวิจัย พบว่า

1. ชุดการเรียนแบบฝึกปฏิบัติเพื่อพัฒนาทักษะ เรื่องสร้างสรรค์งานศิลป์ สาระทัศนศิลป์ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.67/84.42 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80

2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยชุดการเรียนแบบฝึกปฏิบัติเพื่อพัฒนาทักษะ เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์สาระทัศนศิลป์ อยู่ในระดับมาก

เว็บน่าสนใจ