ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การประเมินโครงการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนน้ำรอบวิทยา

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

รายงานการประเมินครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินสภาพแวดล้อม ปัจจัยนำเข้า กระบวนการและผลผลิตของการดำเนินโครงการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนน้ำรอบวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 11 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ CIPP Model กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ครูผู้สอนและนักเรียน จำนวน 100 คน ใช้เครื่องมือเป็นแบบสอบถามประมาณค่า วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมินพบว่า

1. การประเมินโครงการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับดังนี้ ด้านกระบวนการของโครงการ ด้านสภาพแวดล้อมของโครงการ ด้านผลผลิตของโครงการ และด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ

2. การประเมินโครงการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา ด้านสภาพแวดล้อมของโครงการ โดยภาพรวมมีอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละรายข้อพบว่าจุดประสงค์ของโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ได้สร้างความรู้ ความเข้าใจ แนวคิดของการพอเพียงให้กับนักเรียนและบุคลากรได้อย่างแท้จริง (x̄ = 4.53) มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมา เป็นโครงการที่สามารถทำให้สำเร็จภายใน ระยะเวลาที่กำหนด (x̄ = 4.45) วัตถุประสงค์ของโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ตรงตามเป้าหมายและมีความชัดเจน ( x̄= 4.45) และการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปกำหนดในวิสัยทัศน์ของโรงเรียน (x̄ = 4.45)

3. การประเมินโครงการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา ด้านปัจจัยนำเข้าที่ใช้ในการดำเนินโครงการ โดยภาพรวมมีอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละรายข้อพบว่าโรงเรียนมีการวางแผนการบริหารจัดการสถานศึกษาที่สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (x̄ = 4.58) มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาโรงเรียนประสานความร่วมมือกับชุมชน และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อให้การดำเนินงานของกิจกรรมดำเนินไปได้อย่างลุล่วง (x̄ = 4.57) และ โรงเรียนมีแนวทางส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรทุกระดับพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถในการดำเนินโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ( x̄= 4.47)

4. การประเมินโครงการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา ด้าน กระบวนการในการดำเนินโครงการ โดยภาพรวมมีอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละรายข้อพบว่าโรงเรียนบริหารจัดการอาคารสถานที่และแหล่งเรียนรู้ในสถานศึกษา ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยการแต่งตั้งผู้รับผิดชอบอย่างเหมาะสม (x̄ = 4.67) มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เกิดการเรียนรู้การฝึกซื้อ ฝึกขาย การจ่าย การออม โดยการปฏิบัติจริงผ่านกิจกรรมสหกรณ์และชุมนุมธนาคารโรงเรียน (x̄ = 4.56) และ โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ สืบสานวัฒนธรรมประเพณี ดนตรี กีฬา ศิลปะและภูมิปัญญาท้องถิ่น (x̄ = 4.55)

5. การประเมินโครงการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา ด้านผลผลิตการดำเนินโครงการ พบว่า

5.1 การประเมินความรู้ ความเข้าใจปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของครูและนักเรียนโรงเรียนน้ำรอบวิทยา ปีการศึกษา 2559 พบว่า มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ร้อยละ 89.67

5.2 การนำแนวความคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยภาพรวมมีอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละรายข้อพบว่า รักษาสมดุลของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยการดูแลทำความสะอาดหรือปลูกต้นไม้ตามโอกาสต่างๆ (x̄ = 4.61) ค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ มีความกตัญญู รู้คุณและมีความอ่อนน้อมถ่อมตนต่อพ่อแม่ ครูอาจารย์และผู้มีพระคุณ ( x̄= 4.59)และรู้จักประหยัด อดออม โดยมีเสื้อผ้า รองเท้าให้เลือกใส่เท่าที่จำเป็นและถูกกาลเทศะ (x̄ = 4.53)

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

จากผลการประเมิน พบว่า การประเมินโครงการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก สามารถนำผลการวิจัยไปปรับใช้และสรุปเป็นข้อเสนอแนะได้ดังนี้

1. โรงเรียนควรมีการวางแผนและกำหนดกรอบการทำงานให้ชัดเจน มีการนิเทศติดตามการทำงานอย่างต่อเนื่อง

2. โรงเรียนควรประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสนับสนุนด้านงบประมาณ เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลมากที่สุด

3. โรงเรียนควรมีกิจกรรมปลูกฝังให้นักเรียนมีจิตสำนักรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติโดยบูรณาการความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมการเรียนการสอน ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

4. โรงเรียนควรปลูกฝัง สร้างความตระหนักให้กับนักเรียนเกี่ยวกับการมีวินัยในการใช้จ่าย เช่น การออมทรัพย์ การทำบัญชีรายรับ รายจ่าย เป็นต้น

ข้อเสนอแนะสำหรับการประเมินครั้งต่อไป

1. ควรนำรูปแบบการประเมิน CIPP Model ไปประยุกต์ใช้ในการประเมินโครงการอื่นๆ ของโรงเรียน เพื่อตรวจสอบขั้นตอนของกิจกรรมทุกขั้นตอน เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการวางแผน แก้ปัญหาหรือพัฒนาโครงการให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดต่อผู้เรียน

2. โรงเรียนที่มีสภาพพื้นที่ สภาพปัญหา และความต้องการที่คล้ายคลึงกับโรงเรียนน้ำรอบวิทยา เพื่อนำแนวทาง ไปประยุกต์ใช้ได้ในทุกๆ ส่วนของโครงการและกิจกรรม

โพสต์โดย Sopon : [21 มิ.ย. 2560 เวลา 14:35 น.]
อ่าน [64088] ไอพี : 203.159.222.23
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,291 ครั้ง
เทคนิคการคูณด้วยเลข 9 ง่ายๆ โดยนับนิ้วมือ จำไว้สอนเด็กๆ ครับ
เทคนิคการคูณด้วยเลข 9 ง่ายๆ โดยนับนิ้วมือ จำไว้สอนเด็กๆ ครับ

เปิดอ่าน 12,214 ครั้ง
"เจตพังคี" คืออะไร?
"เจตพังคี" คืออะไร?

เปิดอ่าน 34,050 ครั้ง
ประวัติ วัน คริสต์มาส
ประวัติ วัน คริสต์มาส

เปิดอ่าน 25,488 ครั้ง
คลิปดรัมเมเยอร์โรงเรียนชะอวดวิทยาคาร พลิ้วสุด ๆ ยอดวิวหลักแสนแล้ว
คลิปดรัมเมเยอร์โรงเรียนชะอวดวิทยาคาร พลิ้วสุด ๆ ยอดวิวหลักแสนแล้ว

เปิดอ่าน 21,780 ครั้ง
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ

เปิดอ่าน 32,458 ครั้ง
วิธีดูว่าไข่เน่าหรือไม่
วิธีดูว่าไข่เน่าหรือไม่

เปิดอ่าน 13,221 ครั้ง
"เมตา" แนะ 5 เคล็ดลับป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพทางออนไลน์
"เมตา" แนะ 5 เคล็ดลับป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพทางออนไลน์

เปิดอ่าน 12,389 ครั้ง
เอาไฟฉายส่องตา แก้เมาเครื่องบินได้
เอาไฟฉายส่องตา แก้เมาเครื่องบินได้

เปิดอ่าน 11,757 ครั้ง
ระวังเชื้อก่อโรคในน้ำแข็ง
ระวังเชื้อก่อโรคในน้ำแข็ง

เปิดอ่าน 9,734 ครั้ง
เจ้าฟ้ามหาจักรี ต้นแบบของครูทั้งแผ่นดิน
เจ้าฟ้ามหาจักรี ต้นแบบของครูทั้งแผ่นดิน

เปิดอ่าน 11,188 ครั้ง
10 ความเข้าใจผิดๆ กับเรื่องอาหาร
10 ความเข้าใจผิดๆ กับเรื่องอาหาร

เปิดอ่าน 12,320 ครั้ง
คลิปเรื่องเด่นเย็นนี้ กับความเป็นจริงเรื่อง การถอดวิชานาฏศิลป์ ?
คลิปเรื่องเด่นเย็นนี้ กับความเป็นจริงเรื่อง การถอดวิชานาฏศิลป์ ?

เปิดอ่าน 31,172 ครั้ง
มันมือเสือ
มันมือเสือ

เปิดอ่าน 31,200 ครั้ง
อาหาร 7 อย่างที่กินแล้วกระปรี้กระเปร่าสุด ๆ
อาหาร 7 อย่างที่กินแล้วกระปรี้กระเปร่าสุด ๆ

เปิดอ่าน 66,391 ครั้ง
กำจัดแก๊สในร่างกายด้วยท่าง่าย ๆ
กำจัดแก๊สในร่างกายด้วยท่าง่าย ๆ

เปิดอ่าน 323,984 ครั้ง
5 วิธีเช็กเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของใคร รู้ไว้ป้องกันมิจฉาชีพหลอกลวง
5 วิธีเช็กเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของใคร รู้ไว้ป้องกันมิจฉาชีพหลอกลวง
เปิดอ่าน 46,382 ครั้ง
"เสียงกู่จากครูใหญ่" หนังสั้นที่ปลุกพลังผู้เสียสละ เพื่อการศึกษา อนาคตของชาติ
"เสียงกู่จากครูใหญ่" หนังสั้นที่ปลุกพลังผู้เสียสละ เพื่อการศึกษา อนาคตของชาติ
เปิดอ่าน 72,671 ครั้ง
"ซัคเกอร์"..ตัวอันตราย รุกทำลายสัตว์น้ำไทย
"ซัคเกอร์"..ตัวอันตราย รุกทำลายสัตว์น้ำไทย
เปิดอ่าน 20,111 ครั้ง
เหงื่อบอกโรค
เหงื่อบอกโรค
เปิดอ่าน 22,867 ครั้ง
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ