รายงานการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะประกอบการสอนซ่อมเสริมวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง เศษส่วน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างก่อนและหลังการให้แบบฝึกเสริมประกอบการสอนซ่อมเสริมวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง เศษส่วน กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลด่านซ้าย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 3 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 15 คน โดยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 6 คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 จำนวน 9 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ซึ่งเป็นนักเรียนที่มีปัญหาทางการเรียนคณิตศาสตร์เรื่อง เศษส่วน และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินตามตัวชี้วัด เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะ แผนการสอนซ่อมเสริม และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้

ผลการศึกษาประสิทธิภาพแบบฝึกเสริมทักษะประกอบการสอนซ่อมเสริมวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลด่านซ้าย ปีการศึกษา 2559 จำนวน 15 คน พบว่า แบบฝึกเสริมทักษะประกอบการสอนซ่อมเสริมวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน มีประสิทธิภาพ 85.92/84.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80 / 80 เมื่อพิจารณาแยกตามรายชุด พบว่า แบบฝึกเสริมทักษะประกอบการสอนซ่อมเสริมวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด คือ ชุดที่ 1 (E1/ E2 = 90.77/88.00) รองลงมาคือชุดที่ 3 (E1/ E2 = 89.78/84.67) ชุดที่ 8 (E1/ E2 = 89.70/84.67) และแบบฝึกเสริมทักษะที่มีประสิทธิภาพต่ำสุดคือชุดที่ 6 (E1/ E2 = 81.14/83.33)

ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะประกอบการสอนซ่อมเสริมวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลด่านซ้าย จำนวน 15 คน พบว่า หลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะประกอบการสอนซ่อมเสริมวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนใช้แบบฝึกเสริมทักษะ

เว็บน่าสนใจ