ชื่อเรื่อง ผลการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ CIPPA เรื่อง เศรษฐศาสตร์

กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

ผู้ศึกษา นางสาวรมณีย์ บุตรจันทรา

สถานที่ โรงเรียนบ้านสิริขุนหาญ องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

ปีที่ศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของผลการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ CIPPA เรื่อง เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80 / 80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของผลการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ CIPPA เรื่อง เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ CIPPA เรื่อง เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ CIPPA เรื่อง เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการศึกษาในครั้งคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/3 โรงเรียนบ้านสิริขุนหาญ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 นักเรียนจำนวน 34 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบง่าย (Simple Random Sampling) ซึ่งใช้หน่วยการสุ่มเป็นห้องเรียน โดยนักเรียนแต่ละห้องมีความรู้ความสามารถ เก่ง ปานกลาง อ่อน คละกันอยู่แล้ว เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ CIPPA เรื่อง เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 20 แผน มีความเหมาะสมในระดับมาก ค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.48 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง เศรษฐศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ CIPPA เรื่อง เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ การศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงทดลองใช้รูปแบบ Pre-experimental Design แบบ One Group Pre-test-Post-test Design มีการทดสอบก่อนเรียน และวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ CIPPA เรื่อง เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติ t – test (Dependent Samples )

ผลการศึกษาพบว่า

1. การจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ CIPPA เรื่อง เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.50/86.57 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80

2. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ CIPPA เรื่อง เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.7276 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7276 หรือ คิดเป็นร้อยละ 72.76

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ CIPPA เรื่อง เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ CIPPA เรื่อง เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โดยรวม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.53 อยู่ในระดับมากที่สุด

เว็บน่าสนใจ