ช่วงต้นปีถึงกลางปี หลายคนที่มีรายได้ในปีที่ผ่านมาอาจเริ่มมีคำถามในใจว่า “
ยื่นภาษีได้ถึงวันไหน?”, “ต้องเตรียมอะไรบ้าง?”, หรือ “ต้องยื่นยังไง?” ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้นอาจดูเป็นเรื่องวุ่นวาย โดยเฉพาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มทำงานหรือไม่เคยยื่นภาษีมาก่อน บทความนี้จะช่วยตอบคำถามและอธิบายขั้นตอนต่าง ๆ ให้เข้าใจง่าย เพื่อให้คุณสามารถยื่นภาษีได้อย่างถูกต้องและทันเวลา
ยื่นภาษีได้ถึงวันไหน ?
สำหรับคนที่สงสัยว่า ยื่นภาษีได้ถึงวันไหน โดยปกติแล้ว การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะมีช่วงระยะเวลาในการยื่นที่แน่นอนทุกปี โดยแบ่งเป็น 2 ช่องทาง ดังนี้:
1. ยื่นผ่านสำนักงานสรรพากรพื้นที่ (แบบยื่นกระดาษ)
- ยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม ของทุกปี
2.ยื่นผ่านระบบออนไลน์ (เว็บไซต์กรมสรรพากร)
- ยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 8 เมษายน ของทุกปี
- ช่องทางนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสะดวกและสามารถยื่นได้จากทุกที่
หากยื่นหลังจากกำหนดจะต้องเสียค่าปรับและเบี้ยปรับทางภาษี ดังนั้นควรยื่นให้ทันภายในช่วงเวลาที่กำหนด
ใครต้องยื่นภาษีบ้าง ?
เมื่อรู้แล้วว่ายื่นภาษีได้ถึงวันไหน ไปทำความเข้าใจกันว่ามีใครยื่นได้บ้าง โดยหลักแล้ว ผู้ที่มีรายได้ในปีภาษีที่ผ่านมาตามเกณฑ์ต่อไปนี้จะต้องยื่นภาษี:
- รายได้จากเงินเดือน (มาตรา 40(1)) หากมีรายได้เกิน 120,000 บาท/ปี (โสด) หรือ 220,000 บาท/ปี (มีคู่สมรสไม่มีรายได้)
- รายได้จากอาชีพอิสระ, ค่าจ้าง, ค่าบริการ ฯลฯ (มาตรา 40(2)–(8)) หากมีรายได้รวมเกิน 60,000 บาท/ปี (โสด) หรือ 120,000 บาท/ปี (มีคู่สมรสไม่มีรายได้)
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีรายได้ประเภทใด หากเข้าเกณฑ์ก็ต้องยื่นภาษี แม้ว่าอาจจะไม่ได้เสียภาษี (เพราะหักลดหย่อนได้หมด) ก็ยังต้องยื่น
ยื่นภาษีต้องทำอย่างไร ?
การยื่นภาษีสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้:
- รวบรวมเอกสารและหลักฐาน
- หนังสือรับรองเงินเดือน (50 ทวิ)
- เอกสารลดหย่อนภาษี เช่น ค่าประกันชีวิต, ค่าลดหย่อนบุตร, ดอกเบี้ยบ้าน, เงินบริจาค ฯลฯ
- เลขที่บัญชีธนาคารสำหรับกรณีได้เงินคืน
- เข้าสู่ระบบยื่นภาษีออนไลน์
- ไปที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร: www.rd.go.th
- ลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่าน
- กรอกข้อมูลรายได้และรายการลดหย่อน
- ระบบจะคำนวณยอดภาษีที่ต้องชำระหรือคืนให้โดยอัตโนมัติ
- เลือกวิธีการชำระเงินหรือรับเงินคืน
- หากมีภาษีต้องจ่าย สามารถชำระผ่าน Mobile Banking, บัตรเครดิต หรือเคาน์เตอร์ธนาคาร
- หากมีภาษีคืน จะต้องระบุเลขบัญชีเพื่อรับโอนเงินคืน
สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติม
- หากยื่นภาษีไม่ทันกำหนด อาจต้องเสียค่าปรับสูงสุด 2,000 บาท และเบี้ยปรับภาษีตามอัตราที่กฎหมายกำหนด
- การยื่นภาษีออนไลน์จะสะดวกกว่า และยังมีเวลาเพิ่มอีก 8 วันหลังจากวันสุดท้ายของการยื่นแบบกระดาษ
- หากมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้แล้ว (ตามใบ 50 ทวิ) อาจได้ภาษีคืน
การยื่นภาษีไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด เพียงรู้ว่ายื่นภาษีได้ถึงวันไหน และทำตามขั้นตอนให้ถูกต้องก็สามารถจัดการได้ด้วยตนเองอย่างง่ายดาย โดยเฉพาะการยื่นผ่านระบบออนไลน์ที่สะดวกและรวดเร็ว ช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย ที่สำคัญ อย่ารอจนถึงนาทีสุดท้าย เพราะอาจพลาดช่วงเวลาดี ๆ และต้องเสียค่าปรับโดยไม่จำเป็น
ดังนั้น อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อม และยื่นภาษีให้ทันตามกำหนดในทุกปี เพื่อความถูกต้องและสบายใจในด้านการเงินของคุณเอง!