ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้วรรณคดีไทย โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ ด้วยตนเอง (Constructivism) แ

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้วรรณคดีไทย โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้

ด้วยตนเอง (Constructivism) แบบเบญจวิถี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

โรงเรียนแกลง “วิทยสถาวร”

ชื่อผู้วิจัย นายสุภัทรพงศ์ รวงผึ้งรุ่งโรจน์

ปีที่วิจัย 2560

การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ (1) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนรู้วรรณคดีไทย

โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) แบบเบญจวิถี สำหรับนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแกลง “วิทยสถาวร” (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

วรรณคดีไทยระหว่างก่อนและหลังการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้

วรรณคดีไทย โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) แบบเบญจวิถี

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแกลง “วิทยสถาวร” (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแกลง “วิทยสถาวร” จังหวัดระยอง ที่มีต่อรูปแบบ

การเรียนรู้วรรณคดีไทย โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism)

แบบเบญจวิถี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแกลง “วิทยสถาวร”

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแกลง

“วิทยสถาวร” จังหวัดระยอง ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน รวม 43 คน เป็นการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (purposive sample) ซึ่งผู้วิจัยเป็นผู้รับผิดชอบสอน

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยรูปแบบการเรียนรู้วรรณคดีไทย โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) แบบเบญจวิถี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแกลง “วิทยสถาวร” โดยมีขั้นตอนการเรียนรู้ดังนี้ ขั้นที่ 1 ฝึกฝนตั้งคำถาม ขั้นที่ 2 แสวงหาความรู้ใหม่ ขั้นที่ 3 ก้าวไกลเกิดประสบการณ์ ขั้นที่ 4 สื่อสารนำเสนอความรู้ ขั้นที่ 5 ควบคู่ให้บริการสังคม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วรรณคดีไทย และแบบประเมินความพึงพอใจโดย

ผ่านการตรวจสอบจากครูผู้เชี่ยวชาญ และหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) รูปแบบการวิจัยใช้

แบบแผนการวิจัยแบบ one group pretest-posttest design ดำเนินการวิจัยโดยผู้วิจัยชี้แจงจุดประสงค์และรายละเอียดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนรู้วรรณคดีไทย

แบบเบญจวิถี ให้นักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 43 คน ได้ทราบ แล้วจึงทดสอบก่อนเรียน

ด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แล้วนำมาตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ผู้วิจัย

จัดกระบวนการเรียนรู้ตามรูปแบบการเรียนรู้วรรณคดีไทย แบบเบญจวิถี ที่ได้สร้างขึ้น จำนวน

3 หน่วยการเรียนรู้ รวมเวลา 23 ชั่วโมง กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง ใช้เวลา

ในการดำเนินการวิจัยสัปดาห์ละ 2 วัน รวม 12 สัปดาห์ ผู้วิจัยเป็นผู้ดำเนินการวิจัยด้วยตนเอง

โดยให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน แล้วเรียนรู้ตามขั้นตอนจากรูปแบบการเรียนรู้วรรณคดีไทย แบบเบญจวิถี ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ทำแบบทดสอบก่อนและหลังการเรียนรู้ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ หลังจากนั้นนักเรียนทดสอบหลังเรียนด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ชุดเดียวกับที่ใช้ทดสอบก่อนการเรียน หลังจากนั้นนักเรียนกลุ่มตัวอย่างทำแบบประเมินความพึงพอใจหลังจากการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนรู้วรรณคดีไทย แบบเบญจวิถี ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลโดย

การหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้วรรณคดีไทย แบบเบญจวิถี ตามเกณฑ์มาตรฐานโดยใช้

ค่าร้อยละ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ

การเรียนรู้วรรณคดีไทย แบบเบญจวิถี ด้วยการทดสอบค่าที (t-test for dependent sample)

และศึกษาผลการประเมินความพึงพอใจ โดยการหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. ได้รูปแบบการเรียนรู้วรรณคดีไทยที่พัฒนาแล้ว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา-

ปีที่ 6 โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) ที่มีองค์ประกอบ

5 องค์ประกอบ คือ หลักการ จุดมุ่งหมาย เนื้อหา กระบวนการจัดการเรียนการสอน การวัดและ

การประเมินผล โดยดัชนีการประเมินคุณภาพรูปแบบการสอน โดยครูผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มสาระ-

การเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนแกลง “วิทยสถาวร” อยู่ในระดับดีมาก

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ

การเรียนรู้วรรณคดีไทย โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism)

แบบเบญจวิถี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแกลง “วิทยสถาวร” อย่างมีนัยสำคัญ

ทางสถิติที่ระดับ .01

3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนกลุ่มที่เรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้

วรรณคดีไทย โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) แบบเบญจวิถี

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแกลง “วิทยสถาวร” โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ

มากที่สุด

โพสต์โดย สุภัทรพงศ์ : [4 พ.ย. 2560 เวลา 20:27 น.]
อ่าน [2997] ไอพี : 119.76.42.20
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 3,790 ครั้ง
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ

เปิดอ่าน 16,595 ครั้ง
แคะกระปุกเช็กด่วน! ใครมีเหรียญ 5 บาทผลิตปี 2540 ขายได้เหรียญละ 1,500 บาท
แคะกระปุกเช็กด่วน! ใครมีเหรียญ 5 บาทผลิตปี 2540 ขายได้เหรียญละ 1,500 บาท

เปิดอ่าน 21,660 ครั้ง
สรรพคุณทางยาของ "บวบหอม"
สรรพคุณทางยาของ "บวบหอม"

เปิดอ่าน 1,058 ครั้ง
ส่อง 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ ปี 2023
ส่อง 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ ปี 2023

เปิดอ่าน 8,818 ครั้ง
กังนัมสไตล์เริ่ด ฮิตยันไฮโซอังกฤษ เด็กอีตันยังเลียนแบบ
กังนัมสไตล์เริ่ด ฮิตยันไฮโซอังกฤษ เด็กอีตันยังเลียนแบบ

เปิดอ่าน 21,848 ครั้ง
แกว่งแขนลดพุง แถมรักษาโรคได้เพียบ!
แกว่งแขนลดพุง แถมรักษาโรคได้เพียบ!

เปิดอ่าน 19,847 ครั้ง
เงินเดือนเป็นความลับ
เงินเดือนเป็นความลับ

เปิดอ่าน 40,986 ครั้ง
4 พฤติกรรมเสี่ยง ทำสิ่งเหล่านี้ในอนาคตปวดหลังเรื้อรังแน่นอน
4 พฤติกรรมเสี่ยง ทำสิ่งเหล่านี้ในอนาคตปวดหลังเรื้อรังแน่นอน

เปิดอ่าน 9,442 ครั้ง
แบบเรียนที่ไม่ได้มีไว้เลียนแบบ : นิ้วกลม
แบบเรียนที่ไม่ได้มีไว้เลียนแบบ : นิ้วกลม

เปิดอ่าน 22,836 ครั้ง
"กำจัดจุดอ่อน" ผลงานทางวิชาการ สาขาภาษาไทย
"กำจัดจุดอ่อน" ผลงานทางวิชาการ สาขาภาษาไทย

เปิดอ่าน 10,065 ครั้ง
Apink - Hush คลิปนี้คนดูล้านกว่าวิว (HD)
Apink - Hush คลิปนี้คนดูล้านกว่าวิว (HD)

เปิดอ่าน 11,872 ครั้ง
"คราวหน้า พับเล็กๆนะครับ" คลิปฉาวตำรวจจราจรรับเงิน
"คราวหน้า พับเล็กๆนะครับ" คลิปฉาวตำรวจจราจรรับเงิน

เปิดอ่าน 440,867 ครั้ง
วิธีนำข่าวการศึกษาจากครูบ้านนอก ไปแปะในเว็บท่าน
วิธีนำข่าวการศึกษาจากครูบ้านนอก ไปแปะในเว็บท่าน

เปิดอ่าน 5,216 ครั้ง
10 เทคนิค ฝึกพูดภาษาอังกฤษให้คล่อง สำเนียงเป๊ะ!
10 เทคนิค ฝึกพูดภาษาอังกฤษให้คล่อง สำเนียงเป๊ะ!

เปิดอ่าน 15,124 ครั้ง
เด็กๆ นี่มีเสน่ห์ คนนี้ชอบพูด NO น่ารักดี
เด็กๆ นี่มีเสน่ห์ คนนี้ชอบพูด NO น่ารักดี

เปิดอ่าน 21,512 ครั้ง
วิธีระงับความโกรธ
วิธีระงับความโกรธ
เปิดอ่าน 18,456 ครั้ง
การศึกษากับมุมมองของคนเวียดนาม
การศึกษากับมุมมองของคนเวียดนาม
เปิดอ่าน 15,635 ครั้ง
วอยเอเจอร์ 2 เผยระบบสุริยะไม่กลม
วอยเอเจอร์ 2 เผยระบบสุริยะไม่กลม
เปิดอ่าน 18,044 ครั้ง
บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ
บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ
เปิดอ่าน 23,680 ครั้ง
กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ.๒๕๕๐
กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ.๒๕๕๐

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
Koi360
คลินิกเสริมความงาม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 081-3431047

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ