ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคอนสตรัคติวิสซึมเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด เรื่อง แรงในชีวิตประจ

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

หน่วยการเรียนรู้ แรงในชีวิตประจำวัน

เรื่อง แรงลัพธ์ (1) เวลา 1 ชั่วโมง

สอนวันที่ เดือน พ.ศ. ผู้สอนนางสาวแวโรสณา เจ๊ะสมาแอ

สาระสำคัญ

เมื่อมีแรงสองแรงกระทำต่อวัตถุในทิศทางเดียวกัน แรงลัพธ์ คือ ผลรวมของแรงทั้ง 2 แรงซึ่งมีทิศทางเดียวกับแรงที่มากระทำ และเมื่อแรงสองแรงกระทำต่อวัตถุในทิศทางตรงกันข้าม แรงลัพธ์ คือ แรงทั้งสองแรงหักล้างกันซึ่งมีทิศทางเดียวกับแรงที่มากกว่า

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจธรรมชาติของแรงแม่เหล็กไฟฟ้า แรงโน้มถ่วง และแรงนิวเคลียร์ มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์อย่างถูกต้องและ

มีคุณธรรม

มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา รู้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ภายใต้ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ เข้าใจว่าวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมและสิ่งแวดล้อม มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน

ตัวชี้วัด

มฐ.ว 4.1 ป.5/1 ทดลองและอธิบายการหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงซึ่งอยู่ในแนวเดียวกันที่กระทำต่อวัตถุ

มฐ.ว 8.1 ป.5/1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็น หรือเรื่อง หรือสถานการณ์ ที่จะศึกษาตามที่กำหนดให้และตามความสนใจ

มฐ.ว 8.1 ป.5/2 วางแผนการสังเกต เสนอการสำรวจตรวจสอบ หรือศึกษาค้นคว้า และคาดการณ์สิ่งที่จะพบจากการสำรวจตรวจสอบ

มฐ.ว 8.1 ป.5/3 เลือกอุปกรณ์ที่ถูกต้องเหมาะสมในการสำรวจตรวจสอบให้ได้ข้อมูลที่เชื่อถือได้

มฐ.ว 8.1 ป.5/4 บันทึกข้อมูลในเชิงปริมาณและคุณภาพ และตรวจสอบผลกับสิ่งที่คาดการณ์ไว้ นำเสนอผลและข้อสรุป

มฐ.ว 8.1 ป.5/5 สร้างคำถามใหม่เพื่อการสำรวจตรวจสอบต่อไป

มฐ.ว 8.1 ป.5/6 แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ อธิบาย และสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้

มฐ.ว 8.1 ป.5/7 บันทึกและอธิบายผลการสำรวจตรวจสอบตามความเป็นจริง มีการอ้างอิง

มฐ.ว 8.1 ป.5/8 นำเสนอ จัดแสดงผลงาน โดยอธิบายด้วยวาจา หรือเขียนอธิบายแสดงกระบวนการและผลของงานให้ผู้อื่นเข้าใจ

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. บอกความหมายของแรงได้ (K)

2. อธิบายการหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงที่กระทำต่อวัตถุในแนวเดียวกันได้ (K)

3. ตั้งสมมุติฐานจากปัญหาที่กำหนดได้ (P)

4. ทดลองและสรุปผลการทดลองเกี่ยวกับการหาแรงลัพธ์สองแรงที่อยู่ในแนวเดียวกันที่กระทำต่อวัตถุได้ (P)

5. เป็นคนช่างสังเกต ช่างคิดช่างสงสัย และเป็นผู้ที่มีความกระตือรือร้นในการเสาะแสวงหาความรู้ (A)

สาระการเรียนรู้

แรงลัพธ์

สมรรถนะของเรียน

1. ความสามารถในการคิด

1.1 ทักษะการตั้งสมมุติฐาน

1.2 ทักษะการทดสอบสมมติฐาน

1.3 ทักษะการสำรวจค้นหา

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. ซื่อสัตย์

2. มีวินัย

3. ใฝ่เรียนรู้

4. มุ่งมั่นในการทำงาน

กิจกรรมการเรียนรู้แบบสร้างองค์ความรู้ (Constructivism)

ขั้นที่ 1 ขั้นนำ (Orientation)

1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน

2. ครูถามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดังนี้

2.1 บีบก้อนดินน้ำมัน แล้วก้อนดินน้ำมันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร (รูปทรงเปลี่ยนแปลง)

2.2 ผลักรถเด็กเล่นที่อยู่กับที่ รถเด็กเล่นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร (เคลื่อนที่)

ขั้นที่ 2 ขั้นทบทวนความรู้เดิม (Elicitation of the prior knowledge)

1. ครูซักถามนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องของแรง แล้วสุ่มนักเรียนออกมาอธิบายเกี่ยวกับแรงที่นักเรียนรู้จักหน้าชั้นเรียน

2. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่าแรง หมายถึง สิ่งที่มากระทำต่อวัตถุแล้วส่งผลให้วัตถุเปลี่ยนสภาพ เปลี่ยนทิศทาง หรือเคลื่อนที่

ขั้นที่ 3 ขั้นปรับเปลี่ยนความคิด (Turning restructuring of ideas)

3.1 ทำความกระจ่างและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันและกัน (Clarification and exchange of ideas)

1. ครูนำเชือกมาในชั้นเรียน โดยให้นักเรียนที่มีรูปร่างต่างกัน 4 คนออกมาหน้าชั้นแล้วจับปลายเชือกแต่ละข้าง ข้างละ 2 คน โดยคนตัวเล็กอยู่อีกฝ่ายหนึ่ง ส่วนอีกฝ่ายเป็นคนตัวใหญ่ แล้วถามนักเรียนว่า

1.1 ถ้าเล่นชักเย่อฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะ เพราะเหตุใด

1.2 ถ้าแต่ละฝ่ายมีคนตัวเล็กและคนตัวใหญ่คละกันอยู่จะเกิดอะไรขึ้น

2. นักเรียนช่วยกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเล่นชักเย่อ

3.2 การสร้างความคิดใหม่ (Construction of new ideas)

1. ครูนำภาพหรือวิดีทัศน์เกี่ยวกับคน 2 คนออกแรงเคลื่อนย้ายวัตถุในลักษณะต่างๆ เช่น คน 2 คนออกแรงผลักรถในทิศทางเดียวกันและในทิศทางตรงข้ามกัน คน 2 คนช่วยกันเคลื่อนย้ายโต๊ะในทิศทางเดียวกันและทิศทางตรงข้ามกัน มาให้นักเรียนดู

2. นักเรียนร่วมกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกแรงเคลื่อนย้ายวัตถุในลักษณะต่างๆ

3.3 ประเมินความคิดใหม่ (Evaluation of the new ideas)

1. ครูแบ่งนักเรียนกลุ่มละ 56 คน ปฏิบัติกิจกรรมที่ 1 ดังนี้

1.1 ให้นักเรียนกลุ่มละ 1 คน ออกแรงผลักโต๊ะไปชิดผนังห้อง เพื่อให้เพื่อนๆ สมาชิกในกลุ่มสังเกตทิศทางการออกแรงและผลที่เกิดขึ้น

1.2 ให้นักเรียน กลุ่มละ 2 คน ออกแรงผลักโต๊ะไปชิดผนังห้อง เพื่อให้เพื่อนๆ สมาชิกในกลุ่มสังเกตทิศทางการออกแรงและผลที่เกิดขึ้น

1.3 ให้นักเรียน กลุ่มละ 2 คน ยืนคนละข้าง ออกแรงผลักโต๊ะ โดยให้คนหนึ่งดึง อีกคนหนึ่งดันโต๊ะไปชิดผนัง เพื่อนๆ สมาชิกในกลุ่มสังเกตทิศทางการออกแรงและผลที่เกิดขึ้น

1.4 ให้นักเรียน กลุ่มละ 2 คน ยืนคนละข้าง และต่างออกแรงผลักโต๊ะไปข้างหน้าในทิศทางตรงกันข้าม เพื่อนๆ สมาชิกในกลุ่มสังเกตทิศทางการออกแรงและผลที่เกิดขึ้น

1.5 บันทึกผลการสังเกต โดยเขียนลูกศรแสดงการออกแรง พร้อมทั้งผลของแรงจากการทดลอง 4 ครั้ง

ขั้นที่ 4 ขั้นนำความคิดไปใช้ (Application of ideas)

1. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมหน้าชั้นเรียน

2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการปฏิบัติกิจกรรม

3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับผลที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรมโดยสรุปว่า โต๊ะจะเคลื่อนที่ไปตามแนวแรงที่ออกและตามทิศทางของงการออกแรง ครั้งที่ 1, 2 และ 3 ออกแรงในทิศทางเดียวกันจึงทำให้โต๊ะสามารถเคลื่อนที่ไปได้ ส่วนครั้งที่ 4 ออกแรงตรงข้ามกัน ทำให้แรงหักล้างกันหมด โต๊ะจึงไม่สามารถเคลื่อนที่ได้

ขั้นที่ 5 ขั้นทบทวน (Review)

1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีจุดใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจหรือยังมีข้อสงสัย ถ้ามีครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจ

2. นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไขอย่างไร

3. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรมและการนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์

สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

1. ชุดการสอนวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงในชีวิตประจำวัน ชุดที่ 1 แรงลัพธ์

การวัดผลและประเมินผล

วิธีการวัด

1. ประเมินการทำงานกลุ่ม

2. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์

3. ประเมินทักษะ/กระบวนการ

4. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน

5. ตรวจกิจกรรมที่ 1

เครื่องมือ

1. แบบประเมินการทำงานกลุ่ม

2. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์

3. แบบประเมินทักษะ/กระบวนการ

4. แบบทดสอบก่อนเรียน

5. กิจกรรมที่ 1

เกณฑ์การประเมิน

1. การประเมินการทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80

2. การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80

3. การประเมินทักษะ/กระบวนการ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80

4. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80

5. กิจกรรมที่ 1 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80

บันทึกผลการจัดการเรียนรู้

1. ผลการจัดการเรียนรู้

2. ปัญหาและอุปสรรค

3. ข้อเสนอแนะและแนวทางการปรับปรุงแก้ไข

ลงชื่อ ผู้สอน

(นางสาวแวโรสณา เจ๊ะสมาแอ)

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ

ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหาร

ลงชื่อ ผู้อำนวยการสถานศึกษา

(นายกิตติ รัษฎาวงศ์)

1. แบบประเมินการทำงานกลุ่ม

ชื่อนักเรียน ชั้น

คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียนแล้วขีด 

ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน

ข้อที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน

3 2 1

1. การแสดงความคิดเห็น

2. การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

3. การทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

4. ความมีน้ำใจ

5. การตรงต่อเวลา

ลงชื่อ ผู้ประเมิน

(นางสาวแวโรสณา เจ๊ะสมาแอ)

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ

เกณฑ์การให้คะแนน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การประเมิน ผู้ผ่านการประเมินต้องได้คะแนนรวมร้อยละ 80 ขึ้นไป

ผู้ผ่านการประเมินต้องได้คะแนน 12 คะแนน ขึ้นไป

2. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ชื่อนักเรียน ชั้น

คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียนแล้วขีด 

ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน

ข้อที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน

3 2 1

1. ซื่อสัตย์

2. มีวินัย

3. ใฝ่เรียนรู้

4. มุ่งมั่นในการทำงาน

ลงชื่อ ผู้ประเมิน

(นางสาวแวโรสณา เจ๊ะสมาแอ)

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ

เกณฑ์การให้คะแนน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การประเมิน ผู้ผ่านการประเมินต้องได้คะแนนรวมร้อยละ 80 ขึ้นไป

ผู้ผ่านการประเมินต้องได้คะแนน 10 คะแนน ขึ้นไป

3. แบบประเมินทักษะ/กระบวนการ

ชื่อนักเรียน ชั้น

คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียนแล้วขีด 

ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน

ข้อที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน

3 2 1

1. การสังเกต

2. การสำรวจ

3. การวบรวมข้อมูล

4. การนำเสนอข้อมูล

5. การแสดงความคิดเห็น

6. การนำความรู้ไปใช้

7. การทดลอง

ลงชื่อ ผู้ประเมิน

(นางสาวแวโรสณา เจ๊ะสมาแอ)

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ

เกณฑ์การให้คะแนน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การประเมิน ผู้ผ่านการประเมินต้องได้คะแนนรวมร้อยละ 80 ขึ้นไป

ผู้ผ่านการประเมินต้องได้คะแนน 17 คะแนน ขึ้นไป

4. แบบบันทึกคะแนน

เลขที่ ชื่อ - สกุล การทำงานกลุ่ม (15) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (12) ทดสอบก่อนเรียน (10) กิจกรรมที่ 1 (10)

1.

2.

3.

4.

5.

6.

7.

8.

9.

10.

11.

12.

13.

14.

15.

16.

17.

ลงชื่อ ผู้บันทึก

(นางสาวแวโรสณา เจ๊ะสมาแอ)

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ

โพสต์โดย rose_na : [25 พ.ย. 2560 เวลา 08:33 น.]
อ่าน [2701] ไอพี : 159.192.220.65
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 53,759 ครั้ง
พิชิตคณิตให้เป็นเรื่องง่าย
พิชิตคณิตให้เป็นเรื่องง่าย

เปิดอ่าน 20,890 ครั้ง
แก่นขนุน
แก่นขนุน

เปิดอ่าน 9,558 ครั้ง
เพนต์หน้าพิลึก! กระแสฮิตโจ๋ยุ่น
เพนต์หน้าพิลึก! กระแสฮิตโจ๋ยุ่น

เปิดอ่าน 12,818 ครั้ง
ลายมือมีพลัง
ลายมือมีพลัง

เปิดอ่าน 9,722 ครั้ง
อยากได้งาน ตกงานต้องอ่าน? เทคนิคหางานแบบเซียนตัดเซียน
อยากได้งาน ตกงานต้องอ่าน? เทคนิคหางานแบบเซียนตัดเซียน

เปิดอ่าน 21,111 ครั้ง
ประโยชน์ของน้ำมะนาว ดื่มอุ่น ๆ ยามเช้า ดี
ประโยชน์ของน้ำมะนาว ดื่มอุ่น ๆ ยามเช้า ดี

เปิดอ่าน 11,144 ครั้ง
ลีลาตำรวจโบกรถ เชียงใหม่ ช่วยผู้ขับขี่คลายเครียดได้เยอะ
ลีลาตำรวจโบกรถ เชียงใหม่ ช่วยผู้ขับขี่คลายเครียดได้เยอะ

เปิดอ่าน 18,632 ครั้ง
การมีจินตนาการโดยไม่มีความรู้และความเข้าใจนั้นเรียกว่า การฝันกลางวัน
การมีจินตนาการโดยไม่มีความรู้และความเข้าใจนั้นเรียกว่า การฝันกลางวัน

เปิดอ่าน 20,450 ครั้ง
Adjectives(article) คำนามที่ไม่ต้องใช้ article
Adjectives(article) คำนามที่ไม่ต้องใช้ article

เปิดอ่าน 22,461 ครั้ง
หนัง แวมไพร์ ทไวไลท์ (Twilight - Eclipes)
หนัง แวมไพร์ ทไวไลท์ (Twilight - Eclipes)

เปิดอ่าน 40,136 ครั้ง
เข้าใจการวางแผนสื่อโฆษณา covid-19 ช่วยธุรกิจปรับตัวได้ดีขึ้น
เข้าใจการวางแผนสื่อโฆษณา covid-19 ช่วยธุรกิจปรับตัวได้ดีขึ้น

เปิดอ่าน 17,682 ครั้ง
10 วิธีบำบัดเด็กสมาธิสั้น
10 วิธีบำบัดเด็กสมาธิสั้น

เปิดอ่าน 19,025 ครั้ง
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 29,661 ครั้ง
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ

เปิดอ่าน 4,597 ครั้ง
ความรู้เกี่ยวกับ "สี"
ความรู้เกี่ยวกับ "สี"

เปิดอ่าน 231,793 ครั้ง
เรื่องที่ควรรู้ ก่อนคิดจะเลี้ยง "ไซบีเรียน ฮัสกี้"
เรื่องที่ควรรู้ ก่อนคิดจะเลี้ยง "ไซบีเรียน ฮัสกี้"
เปิดอ่าน 24,404 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาแล้ว ปฏิรูปการลูกเสือด้วยครับ โดย จารึก อะยะวงศ์
ปฏิรูปการศึกษาแล้ว ปฏิรูปการลูกเสือด้วยครับ โดย จารึก อะยะวงศ์
เปิดอ่าน 9,220 ครั้ง
วิธีสร้างความสุขแบบสาวโสด
วิธีสร้างความสุขแบบสาวโสด
เปิดอ่าน 9,077 ครั้ง
ออกกำลังแบบไหน ดีกับโรคอะไร
ออกกำลังแบบไหน ดีกับโรคอะไร
เปิดอ่าน 22,218 ครั้ง
โหมดสี
โหมดสี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
Koi360
คลินิกเสริมความงาม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 081-3431047

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ