ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก
ปวดหลังรักษาอย่างไรดี
ความรู้ทั่วไป 13 พ.ย. 2553 เปิดอ่าน : 15,027 ครั้ง
☰แชร์เลย >  
เพิ่มเพื่อน
Advertisement

ปวดหลังรักษาอย่างไรดี
Advertisement

อาการปวดหลังเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดโรคหนึ่งในผู้ป่วยที่มีปัญหาของระบบกระดูกและข้อ โดยมากสาเหตุมักเกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อและกระดูกสันหลังส่วนเอวที่ผิดวิธี ทำให้เกิดภาวะเสื่อมหรือเคลื่อนของกระดูกสันหลังหรือหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง

โดยปกติอาการปวดหลังรักษาได้ด้วยวิธีการพักและรับประทานยา ร่วมกับการทำกายบริหารร่างกายที่ถูกวิธี ผู้ป่วยมากกว่าร้อยละ 95 อาการจะดีขึ้น ดังนั้นผู้ป่วยส่วนใหญ่จะสามารถรับการรักษาด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยประมาณร้อยละ 1-3 ที่ยังคงมีอาการปวดมากหรืออาการไม่ทุเลา ไม่สามารถทำงานได้ หรือมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ขาอ่อนแรง เดินลำบาก กลั้นอุจจาระ-ปัสสาวะไม่ได้ อาการเหล่านี้เป็นข้อบ่งชี้ว่า ผู้ป่วยควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี

ปัจจุบันวิทยาการผ่าตัดกระดูกสันหลังได้รับการพัฒนา ทำให้สามารถทำการรักษาด้วยวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัด หรือผ่าตัดแผลเล็กขนาด 0.9 เซนติเมตร ภายใต้การให้ยาชาเฉพาะที่ โดยไม่ต้องดมยาสลบ ประกอบกับมีการพัฒนากล้องส่องกระดูกสันหลังขนาดเล็ก 6.9 มิลลิเมตร และล่าสุดขนาด 2 มิลลิเมตร ทำให้การผ่าตัดเล็กลงมาก ผู้ป่วยจะได้รับการพักฟื้นสังเกตอาการ 1-2 ชั่วโมง ก็สามารถกลับบ้านได้

การรักษาอาการปวดหลังด้วยวิธีการฉีดยาระงับปวดบริเวณเส้นประสาทหลังโดยไม่ต้องผ่าตัด

ในปัจจุบันการรักษาด้วยวิธีการฉีดยาระงับปวดบริเวณเส้นประสาทหลัง เป็นวิธีที่สามารถทำให้ผู้ป่วยลดอาการเจ็บปวดได้ถึงร้อยละ 70-80 ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งก่อนที่จะเลือกเข้ารับการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ได้ผลการรักษาดีและพึงพอใจในการระงับความเจ็บปวดจากการทำวิธีนี้ อาจหลีกเลี่ยงการรักษาโดยการผ่าตัดได้ โดยแนะนำวิธีนี้ในผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยงสูงหากมีการผ่าตัด เช่น ผู้ป่วยที่ มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจชนิดต่าง ๆ ผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้ยารุนแรงหลายชนิด

อาการที่สามารถเข้ารับการรักษาโดยการฉีดยาระงับปวดบริเวณเส้นประสาทหลัง ได้แก่ มีอาการปวดหลัง, โรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือมีอาการปวดร้าวลงขาทั้งสองข้าง, โรคกระดูกสันหลังเสื่อมทับเส้นประสาทขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือปวดขา ชาขาทั้งสองข้าง, ผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลัง ปวดขาจากโรคต่าง ๆ เช่น เนื้องอก ผู้ป่วยมะเร็งกดทับเส้นประสาท วิธีนี้จะช่วยผู้ป่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดได้มาก และอาจลดปริมาณยาที่ใช้บรรเทาอาการเจ็บปวดลงได้ รวมทั้งในผู้ที่เคยได้รับการผ่าตัดบริเวณกระดูกสันหลังแล้วอาการดีขึ้นไม่มาก ยังคงมีอาการอักเสบ อาการปวดหลังเหลืออยู่หลังการผ่าตัด

วิธีการฉีดยาระงับปวดบริเวณเส้นประสาทหลังและผลการรักษา

ใช้ยาฉีดเฉพาะที่ ผู้ป่วยไม่ต้องดมยาสลบหรือระงับความรู้สึกทางประสาทไขสันหลัง ใช้เครื่องมือเอกซเรย์นำร่องเพื่อบอกตำแหน่งได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะทำในห้องผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 20 นาที ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวหรือเดินได้ทันทีหลังการฉีดยาระงับปวดเสร็จ หลังทำวิธีนี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ยกเว้นผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง แนะนำนอนโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการอย่างน้อย 1 วัน ซึ่งผลการรักษา ทำให้มีอาการดีขึ้นภายใน 1-3 วัน หลังได้รับการฉีดยา ซึ่งแพทย์จะใช้เวลาติดตามผลการรักษาต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ ผู้ป่วยร้อยละ 20 ที่อาการยังไม่ดีขึ้นชัดเจน อาจพิจารณาฉีดยาระงับปวดซ้ำได้ เนื่องจากความเสี่ยงต่ำกว่าการผ่าตัด แต่หากติดตามแล้วอาการปวดหลังไม่ดีขึ้น แพทย์จะพิจารณาการรักษาโดยการผ่าตัด ซึ่งในปัจจุบันมีวิธีการ รักษาโดยการผ่าตัดส่องกล้อง กระดูกสันหลัง หรือผ่าตัดด้วยวิธีอื่นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคในผู้ป่วยแต่ละราย

การรักษาภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ขาด้วยวิธีการผ่าตัดผ่าน กล้อง

มี 2 วิธี ได้แก่ 1) วิธีไมโครสโคปิค ลัมบาร์ ดิสเซซโทมี่ เป็นวิธีการผ่าตัดที่นิยมแพร่หลายมานานในต่างประเทศและนิยมมากขึ้นในประเทศไทย ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 45 นาที แผลผ่าตัดประมาณ 2 เซนติเมตร ไม่ต้องตัดกระดูกสันหลัง สามารถหาช่องเข้าสู่หมอนรองกระดูกสันหลังโดยอาศัยกล้องไมโครสโคป ข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนคือ ผู้ป่วยสามารถเดินได้หลังผ่าตัดภายใน 12-24 ชั่วโมง ฟื้นตัวได้เกือบปกติ ภายใน 1-2 วัน และกลับบ้านได้เร็ว

2) ฟูลลี่ เอ็นโดสโคปิค ดิสเซซโทมี่ เป็นการผ่าตัดแผลเล็กที่มีแผลผ่าตัดประมาณ 8 มิลลิเมตร ใช้กล้องส่องเข้าในช่องหมอนรองกระดูกสันหลังและตัดส่วนที่กดทับเส้นประสาทออก โดยไม่ต้องวางยาสลบ ระหว่างผ่าตัดเจาะแผลผู้ป่วยจะรู้สึกตัวตลอดเวลา ดังนั้นจะบอกอาการและสื่อสารกับแพทย์ได้ตลอดเวลา นับเป็นการผ่าตัดเจาะที่ปลอดภัย ประสิทธิภาพสูงและได้ผลดี อาการปวดแผลน้อย นับเป็นทางเลือกที่ดีวิธีหนึ่งในปัจจุบัน

ข้อดีของการผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาทขาด้วยวิธีส่องกล้อง ได้แก่ แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก, อาการปวดน้อยลงอย่างชัดเจน, ฟื้นสมรรถภาพได้เร็วหลังผ่าตัดภายใน 12-24 ชั่วโมง, เสียเลือดน้อยมาก และไม่ต้องรับเลือดจากการผ่าตัด, อัตราการติดเชื้อแผลผ่าตัดน้อยกว่าร้อยละ 1, สามารถผ่าตัดได้โดยใช้วิธีให้ยาชาบริเวณไขสันหลัง, อัตราการเกิดอาการปวดหลังซ้ำจากการผ่าตัดน้อย เพียงร้อยละ 2-7, ความสวยงามบริเวณแผลผ่าตัดดี, มีความปลอดภัยสูง, ภาวะแทรกซ้อนน้อย เนื่องจากมีกล้องขยายสูงในการมองเห็นเส้นเลือดและเส้นประสาททำงานได้ดีและชัดเจน

นอกจากนี้ยังมีวิธีการรักษาอื่นที่สามารถทำการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดแผลภายใต้การใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องดมยาสลบ ทำให้ผู้ป่วยปัจจุบันสามารถลดอัตราการผ่าตัดด้วยวิธีเปิดแผลได้มากกว่าร้อยละ 90 เช่น วิธีการใช้คลื่นความถี่สูง ช่วยในการผ่าตัดผ่านกล้องขนาด 2 มิลลิเมตร, วิธีนิวคลิโอพลาสตี้ การรักษาโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนโดยใช้คลื่นความร้อน.


รศ.นพ.ธเนศ วัฒนะวงษ์
หน่วยกระดูกสันหลัง ภาควิชาออร์โธปิดิคส์
คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

 

ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์


TAGS ที่เกี่ยวข้อง >> ปวดหลังรักษาอย่างไรดี ปวดหลังรักษาอย่างไรดี << คลิกอ่านเพิ่มเติม

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เทคนิคการทำตลาดบน Social Media

เทคนิคการทำตลาดบน Social Media
เปิดอ่าน 7,968 ครั้ง
อุตสาหกรรมยุคใหม่ ทำไมต้องเข้าใจเรื่อง Smart Warehouse

อุตสาหกรรมยุคใหม่ ทำไมต้องเข้าใจเรื่อง Smart Warehouse
เปิดอ่าน 1,670 ครั้ง
7 เคล็ดลับผิวสว่างใส สำหรับสาวย่าง 30

7 เคล็ดลับผิวสว่างใส สำหรับสาวย่าง 30
เปิดอ่าน 15,032 ครั้ง
โครงการหลวง 40 ชูไฮไลต์ พืช-ผลไม้ เพื่อสุขภาพ

โครงการหลวง 40 ชูไฮไลต์ พืช-ผลไม้ เพื่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 16,524 ครั้ง
เทคนิคการดูแลเส้นผม ช่วงหน้าฝน

เทคนิคการดูแลเส้นผม ช่วงหน้าฝน
เปิดอ่าน 11,083 ครั้ง
น้ำซุป เมนูเด็ดรักษาสุขภาพ

น้ำซุป เมนูเด็ดรักษาสุขภาพ
เปิดอ่าน 9,905 ครั้ง
งูพันไม้เท้าสัญลักษณ์ของการแพทย์

งูพันไม้เท้าสัญลักษณ์ของการแพทย์
เปิดอ่าน 13,952 ครั้ง
ช้อน-ส้อม จุ่มน้ำร้อนหม้อหุงข้าว ฆ่าเชื้อโรคไม่ตาย

ช้อน-ส้อม จุ่มน้ำร้อนหม้อหุงข้าว ฆ่าเชื้อโรคไม่ตาย
เปิดอ่าน 14,370 ครั้ง
กรมสุขภาพจิตเตือน! คนไทยระวังเป็นโรค “ขาดมือถือไม่ได้”

กรมสุขภาพจิตเตือน! คนไทยระวังเป็นโรค “ขาดมือถือไม่ได้”
เปิดอ่าน 11,491 ครั้ง
“งานขาย-บริการ-อาหาร” อาชีพที่นายจ้างต้องการคนร่วมงาน

“งานขาย-บริการ-อาหาร” อาชีพที่นายจ้างต้องการคนร่วมงาน
เปิดอ่าน 9,859 ครั้ง
กินรสจืด ยืดชีวิต

กินรสจืด ยืดชีวิต
เปิดอ่าน 19,319 ครั้ง
“เลี้ยงลูกยิ่งใหญ่" ของขวัญปีใหม่ของพ่อแม่

“เลี้ยงลูกยิ่งใหญ่" ของขวัญปีใหม่ของพ่อแม่
เปิดอ่าน 12,216 ครั้ง
15 หลักฮวงจุ้ยในที่ทำงานสำหรับสาวมิลเลเนียม

15 หลักฮวงจุ้ยในที่ทำงานสำหรับสาวมิลเลเนียม
เปิดอ่าน 11,873 ครั้ง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง

ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง
เปิดอ่าน 10,097 ครั้ง
อาการปวดท้องบ่งบอกโรค

อาการปวดท้องบ่งบอกโรค
เปิดอ่าน 2,011 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ชีวิตหลังเกษียณ (1)
ชีวิตหลังเกษียณ (1)
เปิดอ่าน 13,032 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ลายมือมีพลัง
ลายมือมีพลัง
เปิดอ่าน 12,333 ☕ คลิกอ่านเลย

หัวเผือก-หัวมัน กินเล่น ๆ แต่ได้ประโยชน์จริง
หัวเผือก-หัวมัน กินเล่น ๆ แต่ได้ประโยชน์จริง
เปิดอ่าน 16,466 ☕ คลิกอ่านเลย

8 วิธี กินปลอดภัย ป้องกันอาหารติดคอ
8 วิธี กินปลอดภัย ป้องกันอาหารติดคอ
เปิดอ่าน 1,862 ☕ คลิกอ่านเลย

วิธีดูแลต้นไม้ในหน้าร้อน
วิธีดูแลต้นไม้ในหน้าร้อน
เปิดอ่าน 9,319 ☕ คลิกอ่านเลย

วิธีเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิว
วิธีเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิว
เปิดอ่าน 4,499 ☕ คลิกอ่านเลย

เคล็ดลับลูกน้อย สมองดีมีคุณธรรม
เคล็ดลับลูกน้อย สมองดีมีคุณธรรม
เปิดอ่าน 8,431 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
เปิดอ่าน 21,568 ครั้ง

พระพรหม (พระธาดา)
พระพรหม (พระธาดา)
เปิดอ่าน 16,310 ครั้ง

ที่มาของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ที่มาของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เปิดอ่าน 20,311 ครั้ง

น้ำขิงมะนาว สูตรนี้ได้คุณค่าจากสมุนไพรคูณสอง !
น้ำขิงมะนาว สูตรนี้ได้คุณค่าจากสมุนไพรคูณสอง !
เปิดอ่าน 14,457 ครั้ง

สรุปเหตุการณ์แผ่นดินไหว8.9ริคเตอร์
สรุปเหตุการณ์แผ่นดินไหว8.9ริคเตอร์
เปิดอ่าน 9,139 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย


เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

  • IELTS Test
  • SAT Test
  • สอบ IELTS
  • สอบ TOEIC
  • สอบ SAT
  • เว็บไซต์พันธมิตร

  • IELTS
  • TOEIC Online
  • chulatutor
  • เพลงเด็กอนุบาล
  •  
    หมวดหมู่เนื้อหา
    เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


    · Technology
    · บทความเทคโนโลยีการศึกษา
    · e-Learning
    · Graphics & Multimedia
    · OpenSource & Freeware
    · ซอฟต์แวร์แนะนำ
    · การถ่ายภาพ
    · Hot Issue
    · Research Library
    · Questions in ETC
    · แวดวงนักเทคโนฯ

    · ความรู้ทั่วไป
    · คณิตศาสตร์
    · วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    · ภาษาต่างประเทศ
    · ภาษาไทย
    · สุขศึกษาและพลศึกษา
    · สังคมศึกษา ศาสนาฯ
    · ศิลปศึกษาและดนตรี
    · การงานอาชีพ

    · ข่าวการศึกษา
    · ข่าวตามกระแสสังคม
    · งาน/บริการสังคม
    · คลิปวิดีโอยอดนิยม
    · เกมส์
    · เกมส์ฝึกสมอง

    · ทฤษฎีทางการศึกษา
    · บทความการศึกษา
    · การวิจัยทางการศึกษา
    · คุณครูควรรู้ไว้
    · เตรียมประเมินวิทยฐานะ
    · ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
    · เครื่องมือสำหรับครู

    ครูบ้านนอกดอทคอม

    เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

          kroobannok.com

    © 2000-2020 Kroobannok.com  
    All rights reserved.


    Design by : kroobannok.com


    ครูบ้านนอกดอทคอม
    การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

    วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
     

    ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

    เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

    Email : kornkham@hotmail.com
    Tel : 081-3431047

    สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
    คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ