|
|
ชื่อผลงาน การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ลำดับและอนุกรม
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA Model)
ผู้รายงาน ปิยลักษณ์ ยุทธอาสา
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA Model) 2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่องลำดับและอนุกรม กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนโรงเรียนปางศิลาทองศึกษา ปีการศึกษา 2560 จำนวน 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA Model) เรื่องลำดับและอนุกรม จำนวน 13 แผน และแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม จำนวน 6 เล่ม 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบบันทึกผลหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานและประเมินผลงานกลุ่ม และแบบทดสอบท้ายวงจร 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องลำดับและอนุกรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รูปแบบที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ดำเนินการตามหลักของการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ซึ่งมีขั้นตอนการปฏิบัติ 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นวางแผน 2) ขั้นปฏิบัติการ 3) ขั้นสังเกตการณ์ และ 4) ขั้นสะท้อนผลการปฏิบัติ โดยแบ่งวงจรการปฏิบัติเป็น 3 วงจร คือวงจรที่ 1 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 5 วงจรที่ 2 ประกอบ ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 10 วงจรที่ 3 ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11-13 ขั้นตอนการดำเนินการวิจัย คือวางแผน ผู้วิจัยและผู้ช่วยวิจัยร่วมกันศึกษาสภาพปัญหา ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องและสร้างแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA Model) ขั้นปฏิบัติการผู้วิจัยดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ ขั้นสังเกตการณ์ ครูผู้ช่วยวิจัยสังเกตรวบรวมข้อมูลจากการเรียนการสอน โดยใช้แบบบันทึกการสอนขณะสอนของครู และแบบบันทึกการเรียนระหว่างเรียน
ผลการวิจัย พบว่า
1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA Model) พบว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA Model) เป็นกิจกรรมที่นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้สามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่มเพื่อนจนเกิดทักษะที่จำเป็นในการดำเนินชีวิต สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งสรุปได้ว่ารูปแบบการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โมเดลซิปปา (CIPPA Model) เป็นรูปแบบการสอนที่มีประสิทธิภาพ มีขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้ 1) ขั้นทบทวนความรู้เดิม เป็นการจัดกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้ทบทวนความรู้ที่เคยเรียนหรือมีประสบการณ์ผ่านมาแล้ว นักเรียนจะต้องตอบคำถามหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่กำหนด 2) ขั้นแสวงหาความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ กิจกรรมในขั้นนี้นักเรียนได้แสวงหาความรู้ จากสถานการณ์ปัญหาที่ครูสร้างขึ้นจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ด้วยตนเอง โดยเชื่อมโยงความรู้เดิมให้เข้ากับความรู้ใหม่ 3) ขั้นแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจในกลุ่ม กิจกรรมในขั้นนี้แต่ละกลุ่มได้รับเอกสารประกอบการเรียนรู้ ประกอบด้วย บัตรคำสั่ง ใบความรู้ ใบงานกิจกรรมกลุ่ม และปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย โดยนำความรู้ที่ค้นพบ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสมาชิกในกลุ่ม จัดทำผลงานกลุ่มให้มีคุณภาพและสร้างสรรค์ 4) ขั้นสรุปและจัดระเบียบความรู้ นักเรียนได้สรุปหรือสร้างความคิดรวบยอดเกี่ยวกับความรู้จากเรื่องที่เรียน ครูช่วยสรุปจัดระเบียบความรู้ของนักเรียนให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น 5) ขั้นแสดงผลงาน ตัวแทนนำเสนอผลงานเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนในชั้นเรียน จากนั้นร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นและสรุปความรู้ร่วมกันอีกครั้ง แล้วนำผลงานกลุ่มไปปรับปรุงแก้ไขจนสมบูรณ์ จัดตกแต่งผลงานให้สวยงามตามความคิดสร้างสรรค์ พร้อมนำไปจัดแสดงบนป้ายนิเทศหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เสร็จเรียบร้อยหรือในชั่วโมงว่าง เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษา เปรียบเทียบ ประเมินผลงานกลุ่มของตนกับกลุ่มอื่น และนำไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขผลงานของตนเองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป 6) ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ในขั้นนี้นักเรียนทำแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ที่ครูจัดทำขึ้น เพื่อประเมินความรู้ความเข้าใจของนักเรียน และให้นักเรียนทำเป็นการบ้าน แล้วนำมาส่งครูก่อนเวลาพักรับประทานอาหารกลางวันในวันถัดไป
2. ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน พบว่า นักเรียนได้คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 80.71 ของคะแนนเต็ม และมีจำนวนนักเรียน ผ่านเกณฑ์จำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 88.57 ของนักเรียนทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ ให้มีจำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป
|
โพสต์โดย ปิยลักษณ์ : [24 ธ.ค. 2560 เวลา 06:01 น.] อ่าน [2668] ไอพี : 61.90.39.236
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 19,007 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,990 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,200 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,324 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,504 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,704 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,852 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,622 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,411 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,125 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 8,927 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 77,980 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,557 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,666 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,891 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 31,343 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,931 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 24,273 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,619 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,493 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|