จันทิมา เดชเพิ่มสุข. รายงานการศึกษาผลการใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา

การคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

โรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา. พระนครศรีอยุธยา : โรงเรียนอนุบาล พระนครศรีอยุธยา, 2559.

รายงานการศึกษาผลการใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 จำนวน 47 คน กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้เกณฑ์ร้อยละ 25 และเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องโจทย์ปัญหาการคูณและการหาร แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน ซึ่งเป็นแบบทดสอบที่อยู่ในแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แต่ละเล่ม และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงกึ่งทดลอง (Quasi–Experimental Research) แบบกลุ่มเดียววัดก่อนและหลัง (One Group Pretest – Posttest Design) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาประสิทธิภาพ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ t–test แบบ Dependent โดยใช้โปรแกรม Microsoft Excel 2010 ผลการศึกษาสรุปได้ว่า

1. แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้

คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพของกระบวนการและผลลัพธ์ (E1/E2) โดยรวมเท่ากับ 82.57/82.28 และมีประสิทธิภาพเล่มที่ 1–7 เท่ากับ 83.15/83.19, 83.54/83.40, 83.04/82.98, 82.35/82.34, 81.61/81.49, 82.21/82.13 และ 80.97/80.43 ตามลำดับ

2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการคูณและการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมและรายข้ออยู่ในระดับมากที่สุด

เว็บน่าสนใจ