ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงาย


บทความการศึกษา 25 มิ.ย. 2558 เวลา 06:16 น. เปิดอ่าน : 11,833 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงาย

Advertisement

พูดกันตลอดเวลานับตั้งแต่ตั้งกระทรวงศึกษาธิการแล้วกระมังว่า ประเทศไทยต้องมีการปฏิรูปการศึกษา แล้วก็มีการทำกันมาโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้

ที่มาไกลมาก จากโรงเรียนวัด กลายเป็นโรงเรียนที่มีมาตรฐานแบบตะวันตก และพร้อมที่จะเบนไปตามอย่างที่ตะวันตกกำลังเป็น

เช่น การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้สูง ให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง หรือการตัดต่อโปรแกรมเรียนหลากหลาย แต่ที่น่าห่วงใยคือดูเหมือนเด็กของเราจะไม่เพียงแต่ห่างชั้นกันเอง แต่จะด้อยกว่าเพื่อนร่วมเอเชียของเราเอาซะด้วย นี่คือความรู้สึกเชิงสัมพัทธ์เมื่อผู้ปกครองมองเด็กของเรากับชาติเอเชียตะวันออก สิงคโปร์หรือแม้แต่เวียดนาม

ยิ่งมีการสำรวจพบว่าเด็กสมัยนี้อ่อนเลข อ่อนภาษา อ่อนความรู้รอบตัวและศีลธรรมจรรยา ยิ่งวิตกไปกันใหญ่ ทั้งๆ ที่ทอดตาไปแล้ว โรงเรียนมีมากมาย ครูวุฒิสูงๆ ก็ผลิตออกมาเยอะกว่าอดีต อีกทั้งไทยก็ไม่เคยตกเทรนด์ของโลก แล้วอุปสรรคที่แท้จริงของเราคืออะไร ความยากจน ความโง่ในพันธุกรรม หรือความด้อยในการบริหารจัดการความรู้ และเด็กของผู้เกี่ยวข้องนั้นหรือ คำตอบคงไม่ใช่กำปั้นทุบดินแบบนี้แน่

แม้ว่าการศึกษาไทยจะมีจุดแข็งหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรที่มีจำนวนมาก โรงเรียนที่พอเพียง (อาจขาดแคลนในบางที่) รากฐานวัฒนธรรมและภาษาที่มีมายาวนาน ประเทศของเราก็ไม่ได้เป็นประเทศล้าหลัง และสมองของเด็กที่ไม่เชื่อว่าเด็กไทยโดยรวมจะด้อยไปกว่าพันธุ์อื่น แต่อุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้งเด็ก ถึงระดับรากฐานความคิดก็คือ การสอนสั่งในเชิงปลูกฝังสิ่งงมงาย ปราศจากตรรกะและวิทยาศาสตร์รองรับ สิ่งเหล่านี้ปนอยู่ในสิ่งที่เราเชื่อว่า มันคือจุดแข็งที่สุดของการศึกษา สังคม ประเพณีไทยเลยด้วยซ้ำ นั่นคือการเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และการเคารพผู้ใหญ่

การเคารพนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นจริงเป็นจังมากในการสอนเยาวชนของเรา บางท่านอาจแย้งว่าในโลกตะวันตกวิทยาลัยศาสนาเขาก็มีการปลูกฝังเข้มข้น หรือธรรมเนียมปฏิบัติที่เป็นความเชื่อที่พิสูจน์ไม่ได้ เช่น ขอพรรูปปั้นให้สอบได้นั้นก็มีอยู่ทั่วไป แต่ในโรงเรียนไทยดูจะมีมากกว่านั้น

จริงอยู่ที่การเคารพนับถือสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้นั้น อาจได้ผลในแง่กำลังใจว่าถ้าเราทำดี จะมีเทพคุ้มครองปกปัก เป็นกุศโลบายให้มุ่งมันทำดี ตั้งใจขยันเล่าเรียน แต่ถ้าเกินเส้นมาตรฐานไปก็อาจจำกัดความคิดสร้างสรรค์ ผลักบุคคลให้จมอยู่ในกรอบความงมงาย

เรื่องแบบนี้ครูและผู้บริหารหลายแห่งจริงจังมาก ทั้งที่ควรเป็นแค่ทางเลือกของเด็ก เช่น ในหลายแห่งมีศาลพระภูมิหรือรูปปั้นฤๅษีที่ให้เด็กต้องเคารพ มีพิธีกรรมที่ครอบงำเด็กให้เชื่อฟัง ใครขัดขืนจะถูกลงทัณฑ์อย่างน้อยก็ทางสังคม ทำให้เด็กกลัวเกรงสิ่งเหลวไหล ส่งผลกระทบต่อจิตใต้สำนึกเด็ก

สิ่งเช่นนี้ในโลกที่เจริญแล้วไม่มี หรือมีก็แต่เป็นไปในเชิงสนุกสนาน เด็กจะแยกแยะได้ว่าอะไรจริงอะไรเป็นความเชื่อ ซึ่งต่างจากของไทย เมื่อการปลูกฝังเป็นเช่นนี้ เมื่อโตไปเราจึงได้เห็นผู้ใหญ่ที่ปัญญาตีบตัน เมื่อไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ก็มุ่งแต่ทำพิธีขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย ตกเป็นเหยื่อสิบแปดมงกุฎ เจ้าพ่อเจ้าแม่ง่ายดาย แม้จะสูงยศศักดิ์

สังคมไทยเป็นสังคมที่ถืออาวุโส เพราะเชื่อกันมาตั้งแต่ดั้งเดิมแล้วว่า คนนั้นไม่มีความเท่ากัน คนด้อยกว่านอกเหนือจากต้องทำงานหนักชดใช้กรรมชาติที่แล้ว ยังต้องทำดีต่อผู้ใหญ่ให้เขาเอ็นดู จึงจะเอาตัวรอดในสังคมได้ ขณะที่ผู้ใหญ่แม้จะมีบางที่สอนว่าต้องให้ความกรุณาต่อผู้น้อย แต่ก็ไม่มีข้อบังคับอะไร ในสังคมโรงเรียนและสังคมชีวิตจริงผู้ใหญ่มีอำนาจมาก และจะให้ความเมตตากับเด็กหรือไม่ขึ้นกับตัวผู้ใหญ่ แต่ถ้าเด็กไม่ยอมตามผู้ใหญ่ล่ะก็มีเรื่องแน่

จริงอยู่ที่ค่านิยมให้เด็กเคารพผู้ใหญ่นั้นมีแง่มุมที่ดีอยู่มาก โดยเฉพาะการให้เด็กตั้งใจเล่าเรียน เชื่อฟังครูผู้สอนที่ถ้าสอนสั่งในสิ่งที่ดี เด็กจะเก็บเกี่ยวได้มาก เด็กที่โตขึ้นจะกลายเป็นคนนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ และช่วยเหลือคนแก่เฒ่าได้ สมค่าของการเป็นสังคมที่ต้องดูแลคนสูงวัยกัน

กตัญญูนั้นเป็นสิ่งดีแน่ แต่ถ้านำมาผูกกับทุกเรื่องที่ผู้ใหญ่ทำต้องถูกต้อง ถือว่าไม่ตรงกับหลักเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เพราะไม่มีใครที่จะถูกไปทุกเรื่องหรือผิดไปทุกเรื่อง แต่ในสังคมโรงเรียนที่ครูถืออาชญาสิทธิ์ตั้งแต่เริ่มต้นสั่งพิธีไหว้ครู ให้เด็กต้องระย่อกว่าขั้นหนึ่งแล้ว การคัดค้านครูแม้แต่ในเรื่องวิชาการเป็นเรื่องที่ยาก สิ่งเหล่านี้ยิ่งเป็นการบ่มเพาะอัตตาของครู ให้ทำอะไรโดยไม่ต้องเกรงใจเด็กหรือคำนึงถือศีลธรรม การใช้อำนาจเหนือกว่าแลกกับการให้เกรดจึงเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ไม่ปกติ ขณะที่เด็กก็ยอมตาม

ขณะที่เราบ่นถึงการยึดติดกับวิธีการสอนแบบให้ท่องจำมากกว่าการใช้ความคิด วิธีที่สอนแบบไม่เปิดโอกาสให้ตีความต่าง เพราะเกรงจะกระเทือนกับอะไรก็ไม่รู้นั้น ทำให้เด็กเกรงจะถูกเพื่อนล้อว่าบ้า ว่านอกคอก ในขณะที่สังคมตะวันตกต่อให้หนังสือเล่มนั้นชื่อดังเพียงใด ใครจะเป็นคนแต่ง เด็กมักถูกปลุกเร้าให้กล้าตีความใหม่กับตัวละคร และกับผู้ที่เคยมีอยู่จริง แต่ในไทยที่แม้แต่หัวโขนยักษ์ยังไม่กล้าลบหลู่ หรือชื่อชั้นของคนในอดีตเป็นสิ่งที่เด็กถูกสอนให้ยำเกรง ทำให้การคิดนอกกรอบเป็นเรื่องที่ยาก

การปฏิรูปการศึกษาแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากในหลายเรื่อง ทั้งงบประมาณ การบริหารจัดการและอื่นๆ แต่เชื่อว่าไม่เหลือกำลังความสามารถของผู้กำหนดนโยบายและผู้บริหารสถานศึกษา แต่ที่ยากก็คือ การทำอย่างไรกับความงมงายที่ต้องจำกัดให้อยู่ในขอบเขตของความเป็นกุศโลบาย ให้คุณแก่การศึกษา โดยไม่จำกัดกรอบความคิด หรือสร้างความกลัวความเสื่อมแก่เด็ก บางทีการลดพิธีกรรมลงบ้าง เติมเหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์ลงไป และอบรมผู้ใหญ่ให้เข้าใจหลักความเท่าเทียมกันของสมาชิกในสังคมยุคใหม่ อาจพอช่วยได้บ้าง


ที่มา กรุงเทพธรุกิจ


ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงายปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จถ้าไม่รื้อรากความงมงาย

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

หนี้การศึกษา

หนี้การศึกษา


เปิดอ่าน 7,911 ครั้ง
โรงเรียนยุคมิลเลนเนียล

โรงเรียนยุคมิลเลนเนียล


เปิดอ่าน 8,163 ครั้ง
ความคิดสร้างสรรค์ (1)

ความคิดสร้างสรรค์ (1)


เปิดอ่าน 8,373 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ครูไทย 4.0 ตอนที่ 1 : โดย ดิเรก พรสีมา อดีตประธานกรรมการคุรุสภา

ครูไทย 4.0 ตอนที่ 1 : โดย ดิเรก พรสีมา อดีตประธานกรรมการคุรุสภา

เปิดอ่าน 78,881 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
Meritocracy กับการศึกษาสิงคโปร์  มูลค่าของความสามารถ
Meritocracy กับการศึกษาสิงคโปร์ มูลค่าของความสามารถ
เปิดอ่าน 9,742 ☕ คลิกอ่านเลย

Active Learning กำลังจะมา แต่ผล Pisa ของไทยกำลังไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น… : โดย ณรงค์ ขุ้มทอง
Active Learning กำลังจะมา แต่ผล Pisa ของไทยกำลังไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น… : โดย ณรงค์ ขุ้มทอง
เปิดอ่าน 21,972 ☕ คลิกอ่านเลย

‘ครู’กับ‘ศิษย์’ ใกล้ชิดแค่ไหน? จึงจะ‘พอดี’ : โดย รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
‘ครู’กับ‘ศิษย์’ ใกล้ชิดแค่ไหน? จึงจะ‘พอดี’ : โดย รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
เปิดอ่าน 14,649 ☕ คลิกอ่านเลย

"ปรับการเรียน เปลี่ยนการสอน" ใช้ ICT เพื่อปฏิรูปการเรียนรู้
"ปรับการเรียน เปลี่ยนการสอน" ใช้ ICT เพื่อปฏิรูปการเรียนรู้
เปิดอ่าน 11,904 ☕ คลิกอ่านเลย

บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
เปิดอ่าน 18,346 ☕ คลิกอ่านเลย

Speed Leader 5 กุญแจความสำเร็จสร้างผู้นำ
Speed Leader 5 กุญแจความสำเร็จสร้างผู้นำ
เปิดอ่าน 13,616 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ฮิคิโคโมริ ซินโดรม โรคเก็บตัวที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตุเมื่อลูกเริ่มหนีห่างจากสังคม
ฮิคิโคโมริ ซินโดรม โรคเก็บตัวที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตุเมื่อลูกเริ่มหนีห่างจากสังคม
เปิดอ่าน 3,799 ครั้ง

ดูชัดๆ ฟ้าผ่าสุดโหด
ดูชัดๆ ฟ้าผ่าสุดโหด
เปิดอ่าน 12,533 ครั้ง

ต้นสาคู
ต้นสาคู
เปิดอ่าน 50,593 ครั้ง

กูเกิล เผยอันดับคำค้นสุดฮิตของไทย ประจำปี 2013
กูเกิล เผยอันดับคำค้นสุดฮิตของไทย ประจำปี 2013
เปิดอ่าน 13,045 ครั้ง

แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ
เปิดอ่าน 23,510 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ