ครูบ้านนอก

บทคัดย่อ

รายงานผลการพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานสำหรับเด็กปฐมวัย

โดยการจัดประสบการณ์กิจกรรมการประกอบอาหาร

ผู้วิจัย นางนุจรีย์ บูรณศิล

ปี 2558

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบระดับทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัยที่ศึกษาชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์กิจกรรมการประกอบอาหารทั้งโดยรวมและรายด้านก่อนและหลังการทดลอง

ประชากรคือ เด็กปฐมวัยที่กำลังศึกษาชั้นอนุบาลปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กปฐมวัย ที่กำลังศึกษาชั้นอนุบาล 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต จำนวน 25 คน โดยทำการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling : SRS) ด้วยการจับฉลากเด็กปฐมวัย จำนวนห้องละ 5 คน จาก 5 ห้องเรียน ใช้ระยะเวลาในการทดลองจำนวน 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 60 นาที

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดประสบการณ์กิจกรรมการประกอบอาหาร จำนวน 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 กิจกรรม ดังนี้ 1) สัปดาห์ที่ 1 สมุนไพรไทย ไทย 2) สัปดาห์ที่ 2 ผลไม้น่ารัก 3) สัปดาห์ที่ 3 ผักให้วิตามิน 4) สัปดาห์ที่ 4 หอมกลิ่นดอกไม้ 5) สัปดาห์ที่ 5 ข.ไข่ใบโต 6) สัปดาห์ที่ 6 โอ้โฮ ธัญพืช 7) สัปดาห์ที่ 7 ข้น หนืด กะทิ และ 8) สัปดาห์ที่ 8 ดูซิ เนื้ออะไร ทั้งนี้เพื่อพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน 8 ทักษะ คือ 1) การสังเกต 2) การจำแนกประเภท 3) การลงความเห็นข้อมูล 4) การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปสและสเปสกับเวลา 5) การวัด 6) การคำนวณ 7) การพยากรณ์ และ 8) การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล และแบบทดสอบวัดระดับทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน 2 ชุด คือ แบบทดสอบภาคปฏิบัติ (performance test) และแบบทดสอบปรนัยเลือกตอบ (objective multiple choice) ที่มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง .21-.57 และค่าความยากง่าย (p) ระหว่าง .49-.69 มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างพฤติกรรมกับจุดประสงค์ (IOC) อยู่ระหว่าง 0.60 - 1.00 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบภาคปฏิบัติที่ระดับ .98 และแบบทดสอบเชิงปรนัยแบบเลือกตอบที่ระดับ .94 โดยใช้แบบแผนการทดลองแบบทดลองกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลอง (One-Group Pretest Post-test Design) สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ t – test แบบ Dependent Samples.

ผลการศึกษาพบว่า หลังการจัดกิจกรรมการประกอบอาหารระดับทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัยโดยรวมมีค่าเฉลี่ย 102.72 อยู่ในระดับ ดีมาก และเมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการสังเกตมีค่าเฉลี่ย 13.32 อยู่ในระดับดีมาก ด้านการจำแนกประเภท มีค่าเฉลี่ย 11.64 อยู่ในระดับดี ด้านการลงความเห็นข้อมูลมีค่าเฉลี่ย 12.36 อยู่ในระดับดีมาก ด้านการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปสและสเปสกับเวลามีค่าเฉลี่ย 13.08 อยู่ในระดับดีมาก ด้านการวัดมีค่าเฉลี่ย 13.12 อยู่ในระดับดีมาก ด้านการคำนวณมีค่าเฉลี่ย 14.32 อยู่ในระดับดีมาก ด้านการพยากรณ์มีค่าเฉลี่ย 12.08 อยู่ในระดับดีมาก ด้านการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล มีค่าเฉลี่ย 12.80 อยู่ในระดับดีมาก เมื่อเปรียบเทียบระดับทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ของเด็กปฐมวัยทั้งโดยรวมและรายด้านมีค่าสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมการประกอบอาหารอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

เว็บน่าสนใจ