ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้บทเรียนสำเร็จรูป ชุด ใส่ใจสุขภาพและชีวิตปลอดภัย

กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ผู้ศึกษา พัทรมน ยอดใจ

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการ โรงเรียนบ้านแอ่นใหม่

ปีที่ศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การศึกษาผลการใช้บทเรียนสำเร็จรูป ชุด ใส่ใจสุขภาพและชีวิตปลอดภัย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป ชุด ใส่ใจสุขภาพและชีวิตปลอดภัย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียน โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ชุด ใส่ใจสุขภาพและชีวิตปลอดภัย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียน โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ชุด ใส่ใจสุขภาพและชีวิตปลอดภัยกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านแอ่นใหม่ อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5 ภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2560 จำนวน 4 คน แยกเป็นเพศชาย 3 คน เพศหญิง 1 คนเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ บทเรียนสำเร็จรูป ชุด ใส่ใจสุขภาพและชีวิตปลอดภัย จำนวน 8 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้บทเรียนสำเร็จรูป จำนวน 18 แผน และ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้บทเรียนสำเร็จรูป และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการใช้บทเรียนสำเร็จรูป สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้

1.ประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป ชุดใส่ใจสุขภาพและชีวิตปลอดภัยกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าประสิทธิภาพ E1 / E2 เท่ากับ 86.25/85.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80 / 80 ที่กำหนดไว้ ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานของการศึกษา

2.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังของนักเรียนที่ได้เรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ชุด ใส่ใจสุขภาพและชีวิตปลอดภัย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทั้ง 8 เล่ม ก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 15.00 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 50.00 และหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 25.50 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 85.00 ผลต่างก่อนเรียนและหลังเรียน ผลต่างเฉลี่ย 9.50 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 31.66 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานของการศึกษา

3.ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ชุด ใส่ใจสุขภาพและชีวิตปลอดภัย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทั้ง 8 เล่ม โดยภาพรวม อยู่ในระดับพึงพอใจมาก (=4.43 ,= 0.13) และสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้

เว็บน่าสนใจ