การศึกษาครั้งนี้วัตถุประสงค์ เพื่อสร้างและใช้แบบฝึกทักษะวอลเลย์บอล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านไสดงให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะวอลเลย์บอล เพื่อประเมินทักษะวอลเลย์บอล และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะวอลเลย์บอล กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านไสดง ปีการศึกษา 2560 ที่เรียนวิชาวอลเลย์บอล จำนวน 24 คนใช้เวลาในการทดลอง 40 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบฝึกทักษะวอลเลย์บอล จำนวน 8 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้วอลเลย์บอล จำนวน 40 แผน แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ก่อนและหลังเรียน จำนวน 40 ข้อแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของแบบฝึกทักษะทั้ง 8 เล่ม ๆ ละ 10 ข้อ แบบประเมินระดับความสามารถของนักเรียนด้านทักษะการเล่นวอลเลย์บอล แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านความมีวินัย และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวอลเลย์บอล

สรุปผลการศึกษา

1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะวอลเลย์บอล มีประสิทธิภาพ E1 / E2 เท่ากับ 86.74/85.94 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้

2. คะแนนเฉลี่ยของการทดสอบวัดผลการเรียนรู้ก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะวอลเลย์บอล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0 .01

3. ระดับความสามารถของนักเรียนด้านทักษะการเล่นวอลเลย์บอลอยู่ในระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 100 โดยมีระดับความสามารถอยู่ในระดับดีมาก จำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 79.17 และมีระดับความสามารถอยู่ในระดับดี จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 20.83

4. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะวอลเลย์บอล พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะวอลเลย์บอลด้านปัจจัยนำเข้าในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63) ด้านกระบวนการทั้งในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.72) และด้านผลผลิตทั้งในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.75)

เว็บน่าสนใจ