การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ชีวิตและครอบครัว กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้การสอนแบบปัญหาเป็นฐาน เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนของนักเรียน และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 1 วัดพรหมวิหาร สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลแม่สาย ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ชีวิตและครอบครัว กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 1 วัดพรหมวิหาร สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลแม่สาย ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 34 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Area or Cluster sampling) โดยใช้หน่วยการสุ่ม คือ ห้องเรียน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ชีวิตและครอบครัว กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 14 ชุด
2. แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ชีวิตและครอบครัว กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 16 แผน
3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียน
4. แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม
การเรียนรู้ เรื่อง ชีวิตและครอบครัว กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 12 ข้อ
วิเคราะห์ข้อมูลโดย
1. หาค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ชีวิตและครอบครัว กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้การสอนแบบปัญหาเป็นฐานตามเกณฑ์มาตรฐาน 80 /80 โดยคำนวณหาค่าร้อยละ (E1/E2)
2. การวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยคำนวณหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และหาค่า t-test
3. การวิเคราะห์แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ใช้วิธีวิเคราะห์ผลโดยคำนวณหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
4. การหาค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Face Validity) ใช้วิธีวิเคราะห์ผลโดยคำนวณหาค่า IOC
5. การหาค่าความยากง่าย และค่าอำนาจจำแนก ใช้วิธีวิเคราะห์ผลโดยคำนวณหาค่า ระดับความยากง่าย (p) และค่าอำนาจจำแนก (r)
6. การหาค่าหาความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ โดยใช้สูตร KR-20 ของคูเดอร์ริชาร์ดสัน (Kuder Richarkson)
7. การหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามความพึงพอใจ โดยใช้สัมประสิทธิ์แอลฟา (Alpha Coefficient) ของครอนบาค (Cronbach)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ชีวิตและครอบครัว กลุ่มสาระ
การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้การสอนแบบปัญหาเป็นฐาน พบว่า
มีประสิทธิภาพ (E1 / E2) เท่ากับ 87.53/86.86 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดและเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 1 วัดพรหมวิหาร สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลแม่สาย มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 โดยคะแนนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 19.06
คิดเป็นร้อยละ 63.53 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.92 คะแนนการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 26.06 คิดเป็นร้อยละ 86.86 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.43 คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เฉลี่ยเท่ากับ 7.00 หรือ ร้อยละ 23.33
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 1 วัดพรหมวิหาร สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลแม่สาย มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ชีวิตและครอบครัว กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้การสอนแบบปัญหาเป็นฐาน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄= 4.96, S.D. = 0.13)