ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
เผยแพร่ผลงาน รายงานการประเมินโครงการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนเมืองถลาง

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน

โรงเรียนเมืองถลาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต14

ชื่อผู้รายงาน สายชล ส่งแสง

ปีการศึกษา 2560

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

การประเมินโครงการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนเมืองถลาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 14 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)ประเมินด้านสภาพแวดล้อม 2)ประเมินด้านปัจจัยนำเข้า 3)ประเมินด้านกระบวนการ และ 4)ประเมินด้านผลผลิต โดยใช้หลักการประเมินตามรูปแบบ CIPP Model กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้คือ ผู้บริหารและครูผู้สอน จำนวน 86 คน นักเรียน จำนวน 313 คน ของโรงเรียนเมืองถลาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 14 ปีการศึกษา 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ประกอบด้วย แบบสอบถามประเภทมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 6 ฉบับ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมินสรุปได้ ดังนี้

ผลการประเมิน

1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อม โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า โครงการมีความจำเป็นต่อการพัฒนาพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือเป้าหมายของโครงการก่อให้เกิดประโยชน์ต่อครูและนักเรียน และโครงการมีความจำเป็นต่อการส่งเสริมและพัฒนาครูให้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า เกี่ยวกับความเหมาะสมของบุคลากร งบประมาณ สถานที่ดำเนินการ ความเพียงพอและความเหมาะสมของวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงการสนับสนุนจากผู้บริหารและการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายในโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอน มีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ สถานที่สะดวกและเหมาะสมสำหรับการดำเนินงาน รองลงมาคือการแต่งตั้งคณะผู้ดำเนินโครงการมีความเหมาะสม และผู้บริหารให้ความสำคัญและสนับสนุนโครงการเป็นอย่างดี

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการ เกี่ยวกับความเหมาะสมและความพร้อมของการดำเนินงานตามกิจกรรม ตั้งแต่การวางแผนการดำเนินงาน การดำเนินโครงการ การนิเทศติดตามประเมินผล และการนำผลการประเมินไปปรับปรุงพัฒนา ผลการประเมินมีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ จัดทำปฏิทินปฏิบัติงานของโครงการไว้อย่างชัดเจน ผู้บริหารโรงเรียนควบคุมดูแลและนิเทศงานโครงการ และได้รับความร่วมมือจากบุคลากรในโรงเรียนและหน่วยงานภายนอก

4. ผลการประเมินด้านผลผลิต เกี่ยวกับความสามารถของครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ความสามารถของนักเรียนในการทำโครงงาน และความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน แยกเป็นรายด้าน คือ

4.1 ความสามารถของครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน แยกตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอน กับความคิดเห็นของนักเรียน ดังนี้

4.1.1 ความสามารถของครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอน โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ แนะนำนักเรียนให้รู้จักหลักวิธีการในการทำโครงงาน ให้กำลังใจ ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ เมื่อจำเป็น และให้โอกาสนักเรียนได้แสดงผลงาน แต่ถ้าพิจารณาความสามารถของครูในการจัด การเรียนรู้แยกตามขั้นตอนการสอนโครงงาน ผลการประเมินพบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากทุกขั้น โดยมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ขั้นนำเสนอผลงาน ขั้นปฏิบัติโครงงาน ขั้นเสนอหัวข้อโครงงาน ขั้นวางแผนทำโครงงาน และขั้นเขียนรายงาน ตามลำดับ

4.1.2 ความสามารถของครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ตามความคิดเห็นของนักเรียน โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ แนะนำนักเรียนให้รู้จักหลักวิธีการในการทำโครงงาน ให้โอกาสนักเรียนได้แสดงผลงาน และให้คำปรึกษาแก่นักเรียนในการวางแผนทำโครงงาน ตามลำดับ แต่ถ้าพิจารณาความสามารถของครูในการจัดการเรียนรู้แยกตามขั้นตอนการสอนโครงงาน ผลการประเมินพบว่า ค่าเฉลี่ยมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากทุกขั้น มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ขั้นนำเสนอผลงาน ขั้นเสนอหัวข้อโครงงาน ขั้นวางแผนทำโครงงาน ขั้นเขียนรายงาน และขั้นปฏิบัติโครงงาน ตามลำดับ

4.2 ความสามารถของนักเรียนในการทำโครงงาน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอน โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ นำเสนอผลงานในรูปโปสเตอร์ วางแผนร่วมกันในการทำโครงงาน และนำเสนอในรูปแบบการแสดงผลงาน แต่ถ้าพิจารณาความสามารถของนักเรียนในการทำโครงงานแยกตามขั้นตอนการทำโครงงาน ผลการประเมินพบว่า มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ขั้นนำเสนอผลงาน ขั้นวางแผนทำโครงงาน ขั้นเสนอหัวข้อโครงงาน ขั้นเขียนรายงาน และขั้นปฏิบัติโครงงาน ตามลำดับ

4.3 ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ นักเรียนได้รู้จักฝึก การทำงานเป็นกลุ่ม แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ซึ่งกันและกัน นักเรียนได้ออกไปเรียนรู้นอกห้องเรียนและใช้แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย และนักเรียนภาคภูมิใจกับผลงานของตนเอง ตามลำดับ

ข้อเสนอแนะ

1. การประเมินโครงการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ได้ดำเนินการตามกระบวนการประเมินโครงการซึ่งได้ผลสรุปที่โรงเรียนควรนำไปปรับปรุงเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ ดังนี้

1.1 ด้านสภาพแวดล้อม ควรมีการประชุมวางแผนการประชาสัมพันธ์ให้ทราบอย่างต่อเนื่องก่อนการดำเนินโครงการควรให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการกำหนดกิจกรรมที่ครูต้องการจริง ๆ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน และสามารถปฏิบัติได้ทั้งโรงเรียน

1.2 ด้านปัจจัยนำเข้า ควรสนับสนุนงบประมาณให้มากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ครู และรวมถึงการส่งครูไปอบรมเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมหรือเชิญวิทยากรที่ชำนาญมาให้คำปรึกษา เสนอแนะ

1.3 ด้านกระบวนการ จัดให้มีการประเมินระหว่างปฏิบัติงานอย่างชัดเจน และควรนำผลการประเมินไปใช้ปรับปรุงพัฒนาโครงการให้มีประสิทธิภาพ

1.4 ด้านผลผลิต ส่งเสริมให้ครูพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งรูปแบบและวิธีการสอนแบบใหม่ ๆ ให้รางวัลแก่ครูและนักเรียนที่มีผลงานเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ

2. ควรมีการจัดอบรมการเขียนรายงานโครงงาน สำหรับนักเรียนและครูในรูปแบบเดียวกัน

3. ควรจัดแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนให้มากขึ้น เช่น เพิ่มจุดปล่อยสัญญานอินเตอร์เน็ต ตามจุดต่าง ๆ จัดห้องสืบค้น เพิ่มหนังสือในห้องสมุดที่ทันสมัยขึ้นสำหรับใช้ค้นคว้าและอ้างอิง

โพสต์โดย monkaew : [11 มิ.ย. 2561 เวลา 08:27 น.]
อ่าน [3084] ไอพี : 61.19.27.210
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 86,369 ครั้ง
แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของแม็คเคลแลนด์
แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของแม็คเคลแลนด์

เปิดอ่าน 9,122 ครั้ง
ปัดฝุ่น "สถาบันฝึกหัดครู" พัฒนาพลเมืองการศึกษาศตวรรษ 21
ปัดฝุ่น "สถาบันฝึกหัดครู" พัฒนาพลเมืองการศึกษาศตวรรษ 21

เปิดอ่าน 14,890 ครั้ง
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร

เปิดอ่าน 21,747 ครั้ง
สื่ออังกฤษเผย 11 สิ่งที่คุณควรลบออกจากเฟซบุ๊ก
สื่ออังกฤษเผย 11 สิ่งที่คุณควรลบออกจากเฟซบุ๊ก

เปิดอ่าน 9,792 ครั้ง
"กานพลู" เครื่องเทศ ต่อต้านอนุมูลอิสระ
"กานพลู" เครื่องเทศ ต่อต้านอนุมูลอิสระ

เปิดอ่าน 36,293 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงานและการประชุมระหว่างประเทศ(ฉบับที่3)2555
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงานและการประชุมระหว่างประเทศ(ฉบับที่3)2555

เปิดอ่าน 12,632 ครั้ง
เรื่องที่คุณครูต้องอ่าน
เรื่องที่คุณครูต้องอ่าน

เปิดอ่าน 10,950 ครั้ง
บัวบก แก้ปวดหัวจากความดันโลหิต
บัวบก แก้ปวดหัวจากความดันโลหิต

เปิดอ่าน 9,347 ครั้ง
ปัญหาทั่วไปในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และวิธีการแก้ไข
ปัญหาทั่วไปในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และวิธีการแก้ไข

เปิดอ่าน 8,015 ครั้ง
ระบบการศึกษาที่ไม่สมดุล (1)
ระบบการศึกษาที่ไม่สมดุล (1)

เปิดอ่าน 3,101 ครั้ง
การละลาย (Solubility)
การละลาย (Solubility)

เปิดอ่าน 54,754 ครั้ง
แผนที่แสดงอัตราการ ขาด-เกิน ข้าราชการครู/พนักงานราชการ (ภาพจังหวัด)
แผนที่แสดงอัตราการ ขาด-เกิน ข้าราชการครู/พนักงานราชการ (ภาพจังหวัด)

เปิดอ่าน 11,429 ครั้ง
"ครู" ผู้เปลี่ยนชีวิต "ศิษย์"
"ครู" ผู้เปลี่ยนชีวิต "ศิษย์"

เปิดอ่าน 35,975 ครั้ง
คำนาม
คำนาม

เปิดอ่าน 10,901 ครั้ง
ชิคุนกุนยา โรคร้าย ที่มากับยุงลาย
ชิคุนกุนยา โรคร้าย ที่มากับยุงลาย

เปิดอ่าน 16,138 ครั้ง
ตำแหน่ง "สิว" บอกสุขภาพ
ตำแหน่ง "สิว" บอกสุขภาพ
เปิดอ่าน 234,793 ครั้ง
ประวัติเครื่องหมายหาร  (÷)
ประวัติเครื่องหมายหาร (÷)
เปิดอ่าน 64,340 ครั้ง
หลักภาษาไทย ฉันทลักษณ์
หลักภาษาไทย ฉันทลักษณ์
เปิดอ่าน 861 ครั้ง
ยืมเงินไม่คืน แจ้งความได้หรือไม่ ?
ยืมเงินไม่คืน แจ้งความได้หรือไม่ ?
เปิดอ่าน 13,089 ครั้ง
สับปะรดมีเอ็นไซม์ช่วยย่อยจากธรรมชาติ
สับปะรดมีเอ็นไซม์ช่วยย่อยจากธรรมชาติ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ