ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สถิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD)

ชื่อผลงานทางวิชาการ การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สถิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD)

ผู้จัดทำ นางสาวธิดารัตน์ ตาปราบ

ปีที่วิจัย 2560

ปีที่พิมพ์ 2561

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง สถิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์80/802) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง สถิติชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง สถิติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง สถิติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์(STAD)โดยมีกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560จำนวน 1ห้องเรียน รวมนักเรียนทั้งสิ้น 55คนซึ่งได้มาจากการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบอย่างง่าย (Simplerandom sampling) โดยวิธีการจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบวัดความพึงพอใจสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า t - test แบบ dependent

ผลการศึกษา พบว่า

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สถิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD)จำนวน 5 ชุดมีประสิทธิภาพของกระบวนการต่อประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E1/E2)เท่ากับ 88.69/82.55ซึ่งพบว่า มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80

2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สถิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วย

วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD)มีค่าเท่ากับ0.6523 แสดงว่านักเรียน

มีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 65.23

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สถิติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD)หลังเรียนสูงกว่า

ก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานของการศึกษา

4. ความพึงพอใจที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สถิติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD)โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก( = 4.40,S.D. = 0.18)และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกรายการ

โพสต์โดย ครูอุ๋ย : [17 มิ.ย. 2561 เวลา 10:12 น.]
อ่าน [63823] ไอพี : 1.46.72.22
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 26,687 ครั้ง
ความหมายของตัวเลขบนตั๋วรถเมล์
ความหมายของตัวเลขบนตั๋วรถเมล์

เปิดอ่าน 31,127 ครั้ง
ต้นทองอุไร ไม้ดอกมงคล ปลูกง่าย โตไว
ต้นทองอุไร ไม้ดอกมงคล ปลูกง่าย โตไว

เปิดอ่าน 8,343 ครั้ง
ความคิดสร้างสรรค์ (จบ)
ความคิดสร้างสรรค์ (จบ)

เปิดอ่าน 19,685 ครั้ง
การสร้างจิตรกรรมฝาผนังของช่างไทยในสมัยโบราณ
การสร้างจิตรกรรมฝาผนังของช่างไทยในสมัยโบราณ

เปิดอ่าน 11,266 ครั้ง
7 วิธี เอาชนะริ้วรอย
7 วิธี เอาชนะริ้วรอย

เปิดอ่าน 35,581 ครั้ง
เทควันโด : ประวัติกีฬาเทควันโด
เทควันโด : ประวัติกีฬาเทควันโด

เปิดอ่าน 47,910 ครั้ง
ทำไมหยดน้ำจึงกลิ้งบนใบบัวได้
ทำไมหยดน้ำจึงกลิ้งบนใบบัวได้

เปิดอ่าน 11,629 ครั้ง
ตรงต่อเวลา...ช่วยอนาคตหนูมั่นได้
ตรงต่อเวลา...ช่วยอนาคตหนูมั่นได้

เปิดอ่าน 18,273 ครั้ง
3 โรค ที่กระเทียมสามารถป้องกันได้
3 โรค ที่กระเทียมสามารถป้องกันได้

เปิดอ่าน 9,345 ครั้ง
หนุ่มดวงแข็งที่สุดในสามโลก รถตกตึก ยังลุกขึ้นมาเดินเฉย
หนุ่มดวงแข็งที่สุดในสามโลก รถตกตึก ยังลุกขึ้นมาเดินเฉย

เปิดอ่าน 114,676 ครั้ง
กรรม คือ อะไร?
กรรม คือ อะไร?

เปิดอ่าน 122,642 ครั้ง
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับทะเบียนบ้านกลาง
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับทะเบียนบ้านกลาง

เปิดอ่าน 88,926 ครั้ง
การแบ่งเกรดดินสอตามความแข็ง
การแบ่งเกรดดินสอตามความแข็ง

เปิดอ่าน 111,364 ครั้ง
ฝึกพูด ภาษาอังกฤษ กับลูก ด้วยคำถาม คำสั่ง คำชม ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ฝึกพูด ภาษาอังกฤษ กับลูก ด้วยคำถาม คำสั่ง คำชม ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

เปิดอ่าน 19,152 ครั้ง
สตอร์มเสิร์จ (Storm surge) คืออะไร
สตอร์มเสิร์จ (Storm surge) คืออะไร

เปิดอ่าน 17,011 ครั้ง
ระเบียบรักษาความปลอดภัย
ระเบียบรักษาความปลอดภัย
เปิดอ่าน 12,671 ครั้ง
คลิปฮ็อต "พลเมืองดี" รุมล็อกตัวหนุ่มเขมรวิ่งราวมือถือสาวเกาหลี-ตบสั่งสอนกลางอนุสาวรีย์ชัยฯ
คลิปฮ็อต "พลเมืองดี" รุมล็อกตัวหนุ่มเขมรวิ่งราวมือถือสาวเกาหลี-ตบสั่งสอนกลางอนุสาวรีย์ชัยฯ
เปิดอ่าน 16,893 ครั้ง
9 ประโยชน์เพื่อสุขภาพของกระเทียม ที่คุณอาจคาดไม่ถึง!
9 ประโยชน์เพื่อสุขภาพของกระเทียม ที่คุณอาจคาดไม่ถึง!
เปิดอ่าน 14,315 ครั้ง
12 เทคนิคกันสมองเหี่ยว
12 เทคนิคกันสมองเหี่ยว
เปิดอ่าน 14,130 ครั้ง
ยากับน้ำผลไม้ อันตรายกว่าที่คิด
ยากับน้ำผลไม้ อันตรายกว่าที่คิด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ