บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียน คำในมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน เพื่อหาค่าดัชนี ประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำในมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนบ้านพังงู อำเภอหนองหาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๓ ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ จำนวน ๑ ห้องเรียน จำนวนนักเรียน ๑๔ คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๑๓ เล่ม และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน ๓๐ ข้อ ที่มีค่าความยากง่ายระหว่าง ๐.๓๓ ๐.๘๐
ค่าอำนาจจำแนก ระหว่าง ๐.๓๑ ๐.๖๗ และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๗๙ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความยากง่าย ค่าอำนาจจำแนก ค่าความเชื่อมั่น ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test Dependent
ผลการศึกษาพบว่า
๑. แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีประสิทธิภาพ ๘๒.๔๒/๘๑.๑๙ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้
๒. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑
๓. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีค่า ๐.๖๓๙๒ ซึ่งแสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ ๖๓.๙๒