ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหา

การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) เพื่อของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (SAOW Model) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (SAOW Model) โดย 2.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (SAOW Model) 2.2) เปรียบเทียบทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (SAOW Model) 2.3) ศึกษาพัฒนาการทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (SAOW Model) ในช่วงระหว่างเรียน 2 ระยะๆ ละ 10 ชั่วโมง 2.4) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (SAOW Model) 3.) เพื่อขยายผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (SAOW Model) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/3 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนนครนอก) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครสงขลา จำนวน 1 ห้องเรียนได้มาโดยการสุ่มอย่างง่ายโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม (Cluster random sampling) จำนวนนักเรียน 23 คนกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการขยายผลการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนนครนอก) สำนักการศึกษา เทศบาลนครสงขลา ซึ่งไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง จำนวนนักเรียนทั้งหมด 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหา และแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติแบบไม่อิสระและแบบอิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (SAOW Model) ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบเชิงหลักการและวัตถุประสงค์ องค์ประกอบเชิงกระบวนการและองค์ประกอบเชิงเงื่อนไขการนำไปใช้ มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ 4 ขั้นตอนคือ 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Start : S) 2) ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (Ability : A) 3 ) ขั้นฝึกทักษะ (Operate : O) 4) ขั้นสรุป (Wind up : W)ซึ่งมีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.87/81.50 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80

2. ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (SAOW Model) พบว่า

2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 3 (SAOW Model) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญสถิติที่ระดับ .01

2.2 ทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (SAOW Model) สูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญสถิติที่ระดับ .01

2.3 ทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหา ของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (SAOW Model) สูงขึ้นในช่วงระหว่างเรียน

2.4 ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (SAOW Model) อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.67/S.D. = 0.48)

3. การขยายผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (SAOW Model) พบว่านักเรียนกลุ่มขยายผลมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหา หลังการจัดการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้ และมีพัฒนาการทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาในช่วงระหว่างเรียน นอกจากนี้ความคิดเห็นที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย นางสาวเสาวภาพ สันติวิทยา : [16 ก.ค. 2561 เวลา 10:24 น.]
อ่าน [2367] ไอพี : 223.204.116.40
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,406 ครั้ง
เอาไงดี? ...หางานใหม่แล้วค่อยลาออก กับ ลาออกแล้วค่อยหางานใหม่ !!
เอาไงดี? ...หางานใหม่แล้วค่อยลาออก กับ ลาออกแล้วค่อยหางานใหม่ !!

เปิดอ่าน 12,877 ครั้ง
ไหว้พระเสริมบารมี (แก้ชง) ปีม้า 2557
ไหว้พระเสริมบารมี (แก้ชง) ปีม้า 2557

เปิดอ่าน 47,627 ครั้ง
ทฤษฎีบทขิองปิทาโกรัส
ทฤษฎีบทขิองปิทาโกรัส

เปิดอ่าน 93,737 ครั้ง
แนวคิดการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์
แนวคิดการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 15,074 ครั้ง
วิธีซ่อนรอยคล้ำใต้ดวงตา
วิธีซ่อนรอยคล้ำใต้ดวงตา

เปิดอ่าน 14,449 ครั้ง
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)

เปิดอ่าน 11,728 ครั้ง
กระทรวงวัฒนธรรม เปิดดาวน์โหลดภาพหาชมยากของในหลวง กว่า 30,000 ภาพ
กระทรวงวัฒนธรรม เปิดดาวน์โหลดภาพหาชมยากของในหลวง กว่า 30,000 ภาพ

เปิดอ่าน 15,353 ครั้ง
สำเร็จครั้งแรก! นำเชื้อธรรมชาติเพาะ ‘เห็ดโคนคอนโด’
สำเร็จครั้งแรก! นำเชื้อธรรมชาติเพาะ ‘เห็ดโคนคอนโด’

เปิดอ่าน 10,137 ครั้ง
เล่าต้นกำเนิดมนุษยชาติ ใน 1 นาที
เล่าต้นกำเนิดมนุษยชาติ ใน 1 นาที

เปิดอ่าน 18,248 ครั้ง
รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 กับฉบับ 2549 เหมือน-ต่างกันตรงไหน
รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 กับฉบับ 2549 เหมือน-ต่างกันตรงไหน

เปิดอ่าน 1,868 ครั้ง
"ส้นเท้าแตก" เกิดจากอะไร และมีวิธีรักษาอย่างไร
"ส้นเท้าแตก" เกิดจากอะไร และมีวิธีรักษาอย่างไร

เปิดอ่าน 17,745 ครั้ง
ฟินแลนด์ vs ไทย อะไรคือกุญแจแห่งความสำเร็จทางการศึกษา
ฟินแลนด์ vs ไทย อะไรคือกุญแจแห่งความสำเร็จทางการศึกษา

เปิดอ่าน 15,826 ครั้ง
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 8,347 ครั้ง
ปฏิรูปผู้บริหารสถานศึกษาก่อน ผลจะย้อนมาถึงคุณภาพครู
ปฏิรูปผู้บริหารสถานศึกษาก่อน ผลจะย้อนมาถึงคุณภาพครู

เปิดอ่าน 10,549 ครั้ง
ใช้คอมมากระวัง.. โรควุ้นในตาเสื่อม !!
ใช้คอมมากระวัง.. โรควุ้นในตาเสื่อม !!

เปิดอ่าน 7,882 ครั้ง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
เปิดอ่าน 11,500 ครั้ง
เห็ดหลินจือแดง
เห็ดหลินจือแดง
เปิดอ่าน 10,741 ครั้ง
ยืดอายุด้วยการเดิน
ยืดอายุด้วยการเดิน
เปิดอ่าน 34,697 ครั้ง
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : อาร์คีมีดีส : Archimedes
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : อาร์คีมีดีส : Archimedes
เปิดอ่าน 15,431 ครั้ง
แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์
แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
Koi360
คลินิกเสริมความงาม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 081-3431047

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ