|
|
การจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐานพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ เนื่องจากครูยังขาดการพัฒนาสื่อ นวัตกรรมกิจกรรมการเรียนรู้ที่จะส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนดีขึ้น การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 75 / 75 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนประศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนโรงเรียนพัฒนาบาลอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560จำนวน 37 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบฝึกทักษะ จำนวน 5 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 18 แผนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัย จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย 0.50 0.80 และค่าอำนาจจำแนก 0.20 0.47 และค่าความเชื่อมั่น 0.94 แบบวัดความพึงพอใจในการทำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิผล และการทดสอบสมมติฐานใช้ The Wilcox Sigued Ranks Test (Dependent Sample)
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณทศนิยม ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.00 / 85.14 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ เรื่อง การบวก การลบ การคูณทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.6944 คิดเป็นร้อยละ 69.44
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การบวก การลบ การคูณทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ การคูณทศนิยมโดยรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก
จากการศึกษาค้นคว้าทำให้ได้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ดังนั้นครูผู้สอนควรนำแบบฝึกทักษะที่พัฒนาขึ้น ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการคิดคำนวณ ทักษะการแก้ปัญหา ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และมีเจตคติที่ดีต่อสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่อไป
|
โพสต์โดย น๊ะ : [1 ส.ค. 2561 เวลา 15:28 น.] อ่าน [3075] ไอพี : 49.229.128.109
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 239,187 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,302 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,103 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,127 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,286 ครั้ง
| เปิดอ่าน 58,237 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,323 ครั้ง
| เปิดอ่าน 48,462 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,576 ครั้ง
| เปิดอ่าน 45,547 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,226 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,647 ครั้ง
| เปิดอ่าน 783 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,578 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,988 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 14,263 ครั้ง
| เปิดอ่าน 39,995 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,640 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,224 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,071 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|