ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การประเมินโครงการส่งเสริมรักการอ่านของนักเรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

ชื่อโครงการวิจัย การประเมินโครงการส่งเสริมรักการอ่านของนักเรียน

โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

ผู้วิจัย นางสาววิศัลย์ศยา พาพรหม

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ รองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ

สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมือง

วารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

ปีการศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการส่งเสริมรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินระดับคุณค่าของการประเมินโครงการส่งเสริมรักการอ่านของนักเรียนด้านสภาวะแวดล้อม ด้านปัจจัย ด้านกระบวนการและด้านผลผลิต 2) ศึกษานิสัยรักการอ่านของนักเรียน หลังการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมรักการอ่านของนักเรียน ผู้ประเมินได้เสนอผลการประเมินโครงการ สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างในการประเมินได้แก่ ผู้บริหาร ครู และนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 563 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งก่อนดำเนินโครงการ ระหว่างดำเนินโครงการและหลังดำเนินโครงการ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ( x̄ ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ ค่าสถิติการทดสอบค่าที ( t – test Dependent Samples)

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการประเมินระดับคุณค่าของโครงการส่งเสริมรักการอ่านของนักเรียนด้านสภาวะแวดล้อม ด้านปัจจัย ด้านกระบวนการและด้านผลผลิต พบว่า

ด้านสภาวะแวดล้อม ผลการประเมินโครงการส่งเสริมรักการอ่านในด้านสภาวะแวดล้อม โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากกว่าข้ออื่น ๆ คือ การศึกษาพฤติกรรมรักการอ่านของนักเรียนในครั้งนี้ จะเป็นแนวทางส่งเสริมพฤติกรรมรักการอ่านให้กับนักเรียนทั้งโรงเรียน รองลงมาเพื่อให้นักเรียนเกิดทักษะในการอ่าน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าทุกข้อคือ เพื่อปลูกฝังและส่งเสริมพฤติกรรมรักการอ่านของนักเรียน และเพื่อกระตุ้นและสนับสนุนให้นักเรียนสนใจการอ่านอยู่เสมอ

ด้านปัจจัย ผลการประเมินโครงการส่งเสริมรักการอ่านด้านปัจจัย (Input) โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากกว่าข้ออื่นๆ คือ ผู้บริหาร ครูผู้รับผิดชอบเข้าใจวัตถุประสงค์และการจัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมรักการอ่านเป็นอย่างดี วัสดุอุปกรณ์ สื่อที่ใช้ในการจัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมรักการอ่านมีความเหมาะสมและเพียงพอ งบประมาณในการดำเนินโครงการส่งเสริมรักการอ่านเหมาะสมและเพียงพอ สื่อต่าง ๆ เช่น หนังสืออ่านเพิ่มเติมที่ใช้ในการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสมและเพียงพอ และระยะเวลาในการดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมรักการอ่านเหมาะสมและเพียงพอ รองลงมาคือ โครงการส่งเสริมรักการอ่าน มีการวางแผนนโยบายการดำเนินการไว้ชัดเจนส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าทุกข้อคือ สถานที่ จัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมรักการอ่านมีความเหมาะสมเพียงพอ

ด้านกระบวนการ ผลการประเมินโครงการส่งเสริมรักการอ่านด้านกระบวนการปฏิบัติงานของผู้บริหารและครู (Process) ของผู้บริหารและครู โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ถือว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละข้อ พบว่า ข้อที่อยู่ในระดับมากที่สุด คือ โรงเรียนมีการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการของโครงการ รองลงมาคือ โรงเรียนมีการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการให้บุคลากรครูทุกคน และผู้รับผิดชอบโครงการมีการนิเทศติดตาม ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือและประเมินผลการดำเนินโครงการรักการอ่านอย่างสม่ำเสมอ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าทุกข้อคือ โรงเรียนมีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่โครงการส่งเสริมรักการอ่านอย่างสม่ำเสมอ

ด้านผลผลิต ผลการประเมินโครงการส่งเสริมรักการอ่านด้านผลผลิต (Product) โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละข้อ พบว่า อยู่ในระดับ มากถึงมากที่สุด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากกว่าข้ออื่นๆ คือ โครงการส่งเสริมกิจกรรมรักการอ่านทำให้นักเรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ นักเรียนรักการอ่านเพิ่มขึ้นและผู้ปกครองร่วมมือสนับสนุน และส่งเสริมการอ่านของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง รองลงมาคือ มีสถิติการใช้ห้องสมุดหรือแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนเพิ่มขึ้น ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าทุกข้อคือ ครูใช้แหล่งเรียนรู้ในการจัดการเรียนรู้เพิ่มขึ้น

2. ผลการศึกษานิสัยรักการอ่านของนักเรียน หลังการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมรักการอ่านของนักเรียน พบว่า ผลการประเมินคุณค่ากิจกรรมในโครงการทั้ง 9 กิจกรรม พบว่า ทุกกิจกรรม นักเรียนมีความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมในกิจกรรมโดยมีระดับการเกิดพฤติกรรมอยู่ในระดับมาก ถึงระดับมากที่สุด ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยมีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.51 - 4.65 เมื่อพิจารณาแต่ละกิจกรรมแสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จของโครงการ ซึ่งมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของแต่ละกิจกรรม โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุดจำนวน 8 กิจกรรม กล่าวคือ กิจกรรมแนะนำหนังสือใหม่ นักเรียนมีความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมในกิจกรรมนี้ นักเรียนเข้าใช้และยืมหนังสือจากห้องสมุดเพิ่มมากขึ้น นักเรียนได้รับการกระตุ้นให้มีพฤติกรรมรักการอ่าน กิจกรรมอ่านหนังสือให้ฟัง นักเรียนมีความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมในกิจกรรมนี้ นักเรียนได้รับการกระตุ้นให้มีพฤติกรรมรักการอ่าน นักเรียนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารเพิ่มมากขึ้น กิจกรรมเล่านิทาน นักเรียนมีความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมในกิจกรรมนี้นักเรียนได้รับการกระตุ้นให้มีพฤติกรรมรักการอ่าน กิจกรรมมอบเกียรติบัตรยอดนักอ่านประจำเดือน นักเรียนรู้สึกภูมิใจ ชื่นชมยินดี ที่ได้เกียรติบัตรหรือกับ ผู้ที่ได้รับเกียรติบัตร นักเรียนได้รับการกระตุ้นให้มีพฤติกรรมรักการอ่าน นักเรียนมีความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมในกิจกรรมนี้ กิจกรรมเกร็ดความรู้หน้าเสาธง นักเรียนได้รับการกระตุ้นให้มีพฤติกรรมรักการอ่าน นักเรียนมีความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมในกิจกรรมนี้ นักเรียนค้นคว้าเกร็ดความรู้จากหนังสือเพิ่มมากขึ้น กิจกรรมพ่อแม่ลูกปลูกฝังพฤติกรรมรักการอ่าน ผู้ปกครองและนักเรียนมีส่วนร่วมในการอ่านมากขึ้น ผู้ปกครองและนักเรียนเห็นความสำคัญ และร่วมกิจกรรม นักเรียนได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นจากกิจกรรมนี้ กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน นักเรียนมีความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมในกิจกรรมนี้ นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพิ่มมากขึ้น กิจกรรมเรียนรู้สู่สารานุกรมไทย นักเรียนมีความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมในกิจกรรมนี้ นักเรียนเกิดทักษะด้านภาษาไทย กิจกรรมตะกร้าความรู้ นักเรียนมีความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมในกิจกรรมนี้ นักเรียนเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้เร็วมาก

โพสต์โดย นฤมิตร ภาคภูมิ : [17 ส.ค. 2561 เวลา 08:19 น.]
อ่าน [67438] ไอพี : 1.2.255.7
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 31,406 ครั้ง
31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก
31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก

เปิดอ่าน 15,767 ครั้ง
ระวัง! ของกินเล่นพลังงานสูง
ระวัง! ของกินเล่นพลังงานสูง

เปิดอ่าน 32,233 ครั้ง
สำนวนอังกฤษที่จำเป็นในการจัดการโปรเจ็ค
สำนวนอังกฤษที่จำเป็นในการจัดการโปรเจ็ค

เปิดอ่าน 19,562 ครั้ง
จำได้ไหม ย้อนวันวานของอาจารย์ "กาญจนา นาคสกุล" ราชบัณฑิต
จำได้ไหม ย้อนวันวานของอาจารย์ "กาญจนา นาคสกุล" ราชบัณฑิต

เปิดอ่าน 4,885 ครั้ง
แนวทางปฏิบัติสำหรับการจัดซื้อวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท (มีผลบังคับใช้ 1 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป)
แนวทางปฏิบัติสำหรับการจัดซื้อวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท (มีผลบังคับใช้ 1 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป)

เปิดอ่าน 29,182 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): วิธีการคาดโทษและไล่ออก
ฟุตซอล(Futsal): วิธีการคาดโทษและไล่ออก

เปิดอ่าน 14,012 ครั้ง
7 วิธีเติมความมีชีวิตชีวาให้ชีวิต
7 วิธีเติมความมีชีวิตชีวาให้ชีวิต

เปิดอ่าน 21,169 ครั้ง
หยุดผมร่วงด้วยบรั่นดี
หยุดผมร่วงด้วยบรั่นดี

เปิดอ่าน 11,752 ครั้ง
รู้จัก โรคเอสแอลอี
รู้จัก โรคเอสแอลอี

เปิดอ่าน 16,899 ครั้ง
วลีเด็ดแห่งปี 2555
วลีเด็ดแห่งปี 2555

เปิดอ่าน 26,644 ครั้ง
คู่มือ/แนวทางการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน
คู่มือ/แนวทางการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 537 ครั้ง
เทคนิคยกกระชับผิวด้วยโปรแกรม J Plasma ฟื้นฟูผิวเฟิร์มจากภายใน
เทคนิคยกกระชับผิวด้วยโปรแกรม J Plasma ฟื้นฟูผิวเฟิร์มจากภายใน

เปิดอ่าน 11,390 ครั้ง
น้ำซุป เมนูเด็ดรักษาสุขภาพ
น้ำซุป เมนูเด็ดรักษาสุขภาพ

เปิดอ่าน 10,947 ครั้ง
สิ่งที่ลูกได้จากน้ำนมแม่
สิ่งที่ลูกได้จากน้ำนมแม่

เปิดอ่าน 16,353 ครั้ง
ติดพนันเสียคนตอนแก่เนื่องมาจากเป็นเพราะสมองเสื่อมโทรม
ติดพนันเสียคนตอนแก่เนื่องมาจากเป็นเพราะสมองเสื่อมโทรม

เปิดอ่าน 21,295 ครั้ง
เทคนิคการคูณด้วยเลข 9 ง่ายๆ โดยนับนิ้วมือ จำไว้สอนเด็กๆ ครับ
เทคนิคการคูณด้วยเลข 9 ง่ายๆ โดยนับนิ้วมือ จำไว้สอนเด็กๆ ครับ
เปิดอ่าน 53,699 ครั้ง
อารมณ์(ดี-เสีย)
อารมณ์(ดี-เสีย)
เปิดอ่าน 20,248 ครั้ง
เชื่อทางช้างเผือก มีดาวเหมือนโลกนับร้อยดวง
เชื่อทางช้างเผือก มีดาวเหมือนโลกนับร้อยดวง
เปิดอ่าน 9,168 ครั้ง
เมื่อกล้าปราบคอร์รัปชั่น ก็ลองกล้าเปลี่ยนประเทศ ด้วยการปฏิรูปการศึกษา
เมื่อกล้าปราบคอร์รัปชั่น ก็ลองกล้าเปลี่ยนประเทศ ด้วยการปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 45,598 ครั้ง
วิกฤต... "บัณฑิตแห่ตกงาน" อีกหนึ่งความล้มเหลว... อุดมศึกษาไทย
วิกฤต... "บัณฑิตแห่ตกงาน" อีกหนึ่งความล้มเหลว... อุดมศึกษาไทย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ