ความเป็นมาของการวิจัย

การเรียนการสอนในรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 รหัส 16101 ในช่วงเดือนสิงหาคม พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 ปีการศึกษา 2559 มีความรับผิดชอบต่อการส่งงานน้อย และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ จากการศึกษาเอกสารพบว่า นวัตกรรมการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เช่น รูปแบบการสอนแบบร่วมแรงร่วมใจ เป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นสภาพแวดล้อมทางการเรียนให้กับผู้เรียนเป็นการผสมผสานระหว่างทักษะการอยู่ร่วมกันในสังคมกับทักษะด้านเนื้อหาวิชาการต่าง ๆ โดยให้ผู้เรียนได้อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม ช่วยกันทำงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน โดยแต่ละกลุ่มต้องประกอบไปด้วยผู้เรียนที่มีความรู้ ความสามารถแตกต่างกัน เพื่อที่จะให้ผู้เรียนที่เก่งช่วยเหลือผู้เรียนที่อ่อน ความสำเร็จของบุคคล คือความสำเร็จของกลุ่ม ดังนั้นเพื่อให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์มากขึ้น ผู้สอนจึงเลือกวิธีการสอนแบบร่วมแรงร่วมใจ โดยใช้รูปแบบ STAD เพื่อนำมาปรับพฤติกรรมความรับผิดชอบ และยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

เพื่อปรับพฤติกรรมของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 วิชาวิทยาศาสตร์ จำนวน 38 คน ด้านความรับผิดชอบต่อการส่งงานเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

สมมติฐานของการวิจัย

1. การเรียนการสอนแบบร่วมแรงร่วมใจ โดยวิธี STAD มีผลต่อความรับผิดชอบในการส่งงานของนักเรียนแตกต่างจากการเรียนแบบปกติ

2. การเรียนการสอนแบบร่วมแรงร่วมใจ โดยวิธี STAD มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแตกต่างจากการเรียนแบบปกติ

เครื่องมือในการวิจัย

1. รูปแบบการสอนแบบร่วมแรงร่วมใจ โดยวิธี STAD

2. ผลคะแนนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ช่วงเดือน สิงหาคม – กันยายน

3. แบบสังเกตพฤติกรรมความรับผิดชอบในการส่งงานช่วงเดือน สิงหาคม – กันยายน

เว็บน่าสนใจ