ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาความสามารถ ทางการแก้ปัญหา

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2

โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาความสามารถ

ทางการแก้ปัญหา

ผู้วิจัย นางศุภลักษณ์ เรืองเรื่อ

โรงเรียน โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาความสามารถทางการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2เป็นเครื่องมือ โดยการวิจัยและพัฒนามี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดนิยาม พฤติกรรมบ่งชี้ ความสามารถโดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับทฤษฎีพหุปัญญา ขั้นตอนที่ 2 พัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อกำหนดกรอบแนวคิด โครงสร้างการจัดประสบการณ์และเครื่องมือประกอบการใช้จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบการจัดประสบการณ์โดยผู้เชี่ยวชาญ ขั้นตอนที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยใช้แบบแผนการวิจัยแบบกำหนดกลุ่มควบคุม ทดสอบก่อนและหลังการจัดประสบการณ์ต่อเนื่องตามวัน เวลา ที่กำหนด ระยะเวลา 5 สัปดาห์ และขั้นตอนที่ 4 การประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยการวิเคราะห์เนื้อหา เครื่องมือการวิจัย ประกอบด้วย เครื่องมือการจัดประสบการณ์ คือ รูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาความสามารถทางการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 เครื่องมือการประเมิน คือ แบบทดสอบความสามารถทางการแก้ปัญหา และแบบสังเกตพฤติกรรมความสามารถทางการแก้ปัญหา การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมาย คือ 1) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์ นักเรียน

ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับทฤษฎีพหุปัญญา จำนวน 15 แผน แบบทดสอบความสามารถทางการแก้ปัญหา จำนวน 30 ข้อ และแบบสังเกตพฤติกรรมความสามารถทางการแก้ปัญหา จำนวน 6 ข้อ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) นักเรียนที่ได้รับการจัดประสบการณ์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาความสามารถทางการแก้ปัญหา มีความสามารถในการแก้ปัญหาหลังการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) นักเรียนที่ได้รับการจัดประสบการณ์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับทฤษฎีพหุปัญญา มีความคงทนของพฤติกรรมในการเรียนรู้หลังเรียน 2 สัปดาห์ มีความสามารถในการแก้ปัญหา เท่ากับร้อยละ 74.69 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง เป็นนักเรียน

ชั้นอนุบาลปีที่ 2/4 โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวนนักเรียน 39 คน ที่มีความพร้อมใกล้เคียงกัน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sample) และผู้วิจัยเป็นครูประจำชั้นอนุบาลปีที่ 2/4 จึงสามารถควบคุมตัวแปรได้เป็นอย่างดี เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ (1) รูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับทฤษฎีพหุปัญญา ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ใช้เวลาเรียน 3 สัปดาห์ ๆ ละ 200 นาที (2) แบบทดสอบความสามารถทางการแก้ปัญหา จำนวน 30 ข้อ ประกอบด้วยสถานการณ์ปัญหา จำนวน 10 ข้อ และคำถามปัญหา 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.67 ถึง 1.00 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.95 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และการทดสอบสมมติฐาน ใช้ Paired t-test

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

1. ผลการวิเคราะห์เพื่อกำหนดกรอบแนวคิด โครงสร้างการจัดประสบการณ์และเครื่องมือประกอบการใช้จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยใช้แบบประเมินค่าดัชนีความสอดคล้อง ทั้งแบบวิเคราะห์เอกสาร ตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบการจัดประสบการณ์

โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน พบว่า มีความสอดคล้อง โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 1.00 ทุกรายการ

2. รูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับทฤษฎีพหุปัญญา ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 81.72/80.53 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.69 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนร้อยละ 69

3. นักเรียนได้รับการจัดประสบการณ์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับทฤษฎีพหุปัญญา หลังการจัดประสบการณ์มีความสามารถทางการแก้ปัญหา สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. นักเรียนได้รับการจัดประสบการณ์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับทฤษฎีพหุปัญญา

มีความคงทนของพฤติกรรมความสามารถทางการแก้ปัญหา เท่ากับร้อยละ 74.69

โดยสรุป รูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับทฤษฎีพหุปัญญา เพื่อพัฒนาความสามารถทางการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลเหมาะสม นักเรียนมีความสามารถทางการแก้ปัญหา และมีความคงทนของพฤติกรรมความสามารถทางการแก้ปัญหา โดยการคิดหาเหตุผล นำความรู้และประสบการณ์มาใช้ในการแก้ปัญหา จึงควรสนับสนุน และส่งเสริมให้ครูผู้สอนเด็กปฐมวัย นำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ต่อไป

โพสต์โดย หน่อย : [15 มี.ค. 2562 เวลา 01:06 น.]
อ่าน [3374] ไอพี : 184.22.108.67
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,306 ครั้ง
"มัสมั่น"ของไทยคว้าแชมป์จานอร่อยจาก 50 อันดับเมนูเด็ดทั่วโลก
"มัสมั่น"ของไทยคว้าแชมป์จานอร่อยจาก 50 อันดับเมนูเด็ดทั่วโลก

เปิดอ่าน 26,064 ครั้ง
แมงมุม
แมงมุม

เปิดอ่าน 14,752 ครั้ง
ลายมือคนใจมีเมตตาธรรม
ลายมือคนใจมีเมตตาธรรม

เปิดอ่าน 10,481 ครั้ง
ทั่วโลกฮือฮา ซูดานใต้ไอเดียเก๋ จะสร้างเมืองเป็นรูปสัตว์ต่างๆ
ทั่วโลกฮือฮา ซูดานใต้ไอเดียเก๋ จะสร้างเมืองเป็นรูปสัตว์ต่างๆ

เปิดอ่าน 11,757 ครั้ง
8 วินัยใหม่เพิ่มเงินเก็บทั้งปี
8 วินัยใหม่เพิ่มเงินเก็บทั้งปี

เปิดอ่าน 14,742 ครั้ง
รายงานพัฒนาคุณภาพการศึกษา
รายงานพัฒนาคุณภาพการศึกษา

เปิดอ่าน 24,647 ครั้ง
กินไข่ไก่...อย่างไรให้ได้ประโยชน์
กินไข่ไก่...อย่างไรให้ได้ประโยชน์

เปิดอ่าน 3,694 ครั้ง
เปิดรายชื่อ 203 แอพอันตราย เตือนประชาชน อย่าโหลด!
เปิดรายชื่อ 203 แอพอันตราย เตือนประชาชน อย่าโหลด!

เปิดอ่าน 28,386 ครั้ง
เครื่องปั้นดินเผา (CERAMICS)
เครื่องปั้นดินเผา (CERAMICS)

เปิดอ่าน 48,166 ครั้ง
"อู่ซ่อมคน" : รางวัลชนะเลิศ การประกวดสปอตโทรทัศน์วันครู ประจำปี 2560
"อู่ซ่อมคน" : รางวัลชนะเลิศ การประกวดสปอตโทรทัศน์วันครู ประจำปี 2560

เปิดอ่าน 18,719 ครั้ง
VTR การพัฒนาครูในรูปแบบใหม่ โดยการใช้การพัฒนาอย่างครบวงจร
VTR การพัฒนาครูในรูปแบบใหม่ โดยการใช้การพัฒนาอย่างครบวงจร

เปิดอ่าน 43,594 ครั้ง
กฎสามส่วน (Rule of Third)
กฎสามส่วน (Rule of Third)

เปิดอ่าน 1,578 ครั้ง
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย

เปิดอ่าน 59,198 ครั้ง
"โซเชียล เน็ตเวิร์ก" ช่วยพัฒนาการเรียนการสอน
"โซเชียล เน็ตเวิร์ก" ช่วยพัฒนาการเรียนการสอน

เปิดอ่าน 51,541 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง การประชุมทางไกลฯ ซักซ้อมความเข้าใจในการดำเนินการสอบแข่งขัน ครูผู้ช่วย ปี พ.ศ.2561
รับชมย้อนหลัง การประชุมทางไกลฯ ซักซ้อมความเข้าใจในการดำเนินการสอบแข่งขัน ครูผู้ช่วย ปี พ.ศ.2561

เปิดอ่าน 29,311 ครั้ง
การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อการศึกษาคุณภาพ : ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย
การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อการศึกษาคุณภาพ : ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย
เปิดอ่าน 9,068 ครั้ง
คุณครูเคยดูหรือยัง : การเรียนการสอนในสิงคโปร์
คุณครูเคยดูหรือยัง : การเรียนการสอนในสิงคโปร์
เปิดอ่าน 2,585 ครั้ง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง
เปิดอ่าน 13,568 ครั้ง
ทำไมตรุษจีน จึงจุดประทัดและเชิดสิงโต
ทำไมตรุษจีน จึงจุดประทัดและเชิดสิงโต
เปิดอ่าน 18,846 ครั้ง
ดูลายมือ "ผู้วิเศษ"
ดูลายมือ "ผู้วิเศษ"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ