ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การศึกษาเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/5 ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/5 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกปีที่ 5 กลุ่มเป้าหมายในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/5 หมายถึง นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/5 ของโรงเรียนสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ข้อมูลปีการศึกษา 2561 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 31 คน โดยแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคึรั้งนี้ เป็นแบบวัดเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ เป็นแบบมาตรวัดประมาณค่าแบบ ลิเคิร์ท 5 ระดับ (Likert Scale) จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีข้อที่ 1–10, 13–19, 21-28 เป็นข้อความทางบวก และข้อที่ 11, 12, 20, 29, 30 เป็นข้อความทางลบเกณฑ์ในการวัดเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียน มีดังนี้ 30–90 คะแนน หมายความว่า นักเรียนมีเจตคติที่ไม่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ 91–150 คะแนน หมายความว่า นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ผู้ศึกษาค้นคว้าได้ดำเนินการสอนด้วยตัวเองใช้เวลารวม 14 ชั่วโมง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษาพบว่า

การศึกษาเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้น ม.5/5 นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เมื่อแบ่งตามเพศหญิงและชาย นักเรียนหญิงและนักเรียนชายต่างก็มีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์เหมือนกันโดยพิจารณาจากการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยของคะแนน ของข้อความทางบวก มีค่าเท่ากับ 4.37 และข้อความลบ มีค่าเท่ากับ 4.37 ซึ่งจากการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยของแต่ละข้อคำถามทั้งประเภททางบวกและประเภททางลบ พบว่าอาจมีผลมาจากการที่นักเรียนส่วนใหญ่เกิดความสับสนกับข้อคำถามที่เป็นข้อคำถามประเภททางลบ และข้อเสนอแนะมีดังนี้ 1. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ทำให้นักเรียนไม่รู้สึกเบื่อหน่ายและเห็นคุณค่าของวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งเมื่อนักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์แล้วนักเรียนจะเรียนวิชาคณิตศาสตร์ได้ดี 2. ในการสร้างแบบสอบถามวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาคณิตศาสตร์อาจเป็นในรูปของการสัมภาษณ์ หรือการแสดงความคิดเห็น ที่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับเจตคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาคณิตศาสตร์กับวิชาอื่นๆ เพื่อที่จะเป็นการเก็บข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาการเรียนการสอนต่อไป 3. ในการวิจัยครั้งต่อไป อาจเพิ่มปริมาณของกลุ่มประชากร และอาจเจาะจงทำการวิจัยกลุ่มนักเรียนในระดับชั้นอื่น ๆ ต่อไป

โพสต์โดย Doughdoh : [18 มี.ค. 2562 เวลา 04:13 น.]
อ่าน [2903] ไอพี : 184.22.161.101
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 93,119 ครั้ง
จุดธูปกี่ดอกบอกอะไร?
จุดธูปกี่ดอกบอกอะไร?

เปิดอ่าน 20,774 ครั้ง
เทคนิคเลือกกระถางต้นไม้ให้เหมาะสม
เทคนิคเลือกกระถางต้นไม้ให้เหมาะสม

เปิดอ่าน 13,080 ครั้ง
คลิป การจอดรถสุดเกรียน ชนิดเทพอยากเอามือปิดหน้า
คลิป การจอดรถสุดเกรียน ชนิดเทพอยากเอามือปิดหน้า

เปิดอ่าน 11,186 ครั้ง
ไมโครซอฟท์ พร้อมเปิดตัว วินโดวส์ 7
ไมโครซอฟท์ พร้อมเปิดตัว วินโดวส์ 7

เปิดอ่าน 44,021 ครั้ง
"แคนา แคทุ่ง แคอ่าว" มีดีอย่างไร ทำไมจึงนิยมปลูกในบ้านหรือปั๊มน้ำมันกันจังเลย
"แคนา แคทุ่ง แคอ่าว" มีดีอย่างไร ทำไมจึงนิยมปลูกในบ้านหรือปั๊มน้ำมันกันจังเลย

เปิดอ่าน 17,484 ครั้ง
การสร้างจิตรกรรมฝาผนังของช่างไทยในสมัยโบราณ
การสร้างจิตรกรรมฝาผนังของช่างไทยในสมัยโบราณ

เปิดอ่าน 26,879 ครั้ง
ดื่ม"ชามะเขือพวง" ต้านเบาหวาน-มะเร็ง
ดื่ม"ชามะเขือพวง" ต้านเบาหวาน-มะเร็ง

เปิดอ่าน 12,123 ครั้ง
ยากับน้ำผลไม้ อันตรายกว่าที่คิด
ยากับน้ำผลไม้ อันตรายกว่าที่คิด

เปิดอ่าน 18,005 ครั้ง
รำลึก 100 ปี พระปิยะมหาราช
รำลึก 100 ปี พระปิยะมหาราช

เปิดอ่าน 6,629 ครั้ง
ร้อนตับแตก มีที่มาอย่างไร
ร้อนตับแตก มีที่มาอย่างไร

เปิดอ่าน 30,397 ครั้ง
การวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝน

เปิดอ่าน 23,721 ครั้ง
ลายมือคนที่บั้นปลายของชีวิตมีเงินทอง มีหลักฐานมั่นคง
ลายมือคนที่บั้นปลายของชีวิตมีเงินทอง มีหลักฐานมั่นคง

เปิดอ่าน 68,310 ครั้ง
รูปแบบการรายงานผลการวิจัยแบบเป็นทางการ
รูปแบบการรายงานผลการวิจัยแบบเป็นทางการ

เปิดอ่าน 13,529 ครั้ง
10 อาหารดำ กินแล้วดีต่อสุขภาพ
10 อาหารดำ กินแล้วดีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 19,023 ครั้ง
เครื่องคชาภรณ์ (เครื่องแต่งตัวช้างสำคัญ)
เครื่องคชาภรณ์ (เครื่องแต่งตัวช้างสำคัญ)

เปิดอ่าน 15,028 ครั้ง
เสียว! ผลักเพื่อนลงทะเล เกือบถูกฉลามคาบไปกิน
เสียว! ผลักเพื่อนลงทะเล เกือบถูกฉลามคาบไปกิน
เปิดอ่าน 10,499 ครั้ง
นักเรียน ม.2 ประดิษฐ์ หุ่นยนต์ล้างเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ เน้นประหยัดเวลา ประหยัดเงิน
นักเรียน ม.2 ประดิษฐ์ หุ่นยนต์ล้างเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ เน้นประหยัดเวลา ประหยัดเงิน
เปิดอ่าน 13,060 ครั้ง
ทราบหรือไม่ว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง?
ทราบหรือไม่ว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง?
เปิดอ่าน 28,126 ครั้ง
ล้างผักผลไม้สะอาดปลอดโรค
ล้างผักผลไม้สะอาดปลอดโรค
เปิดอ่าน 24,047 ครั้ง
มาตรฐานของ e-learning
มาตรฐานของ e-learning

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
Koi360
คลินิกเสริมความงาม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 081-3431047

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ