ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำในภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT
ชื่อผู้วิจัย ภัทราวดี เขียวยศกิจ
สถานที่ศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (แตงอ่อนเผดิมวิทยา)
อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ปีที่ศึกษา ๒๕๖๑
บทคัดย่อ
การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำในภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำในภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำในภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT ๓) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำในภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT และ ๔) เพื่อศึกษาความ พึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำในภาษาไทย กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕/๓ โรงเรียนเทศบาล ๑ (แตงอ่อนเผดิมวิทยา) อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวนนักเรียน ๒๖ คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ๑) แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำในภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT จำนวน ๕ เล่ม ๒) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน ๑๗ แผน ชั่วโมงสอน ๑๗ ชั่วโมง ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ ๔ ตัวเลือก จำนวน ๓๐ ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น (KR-20) ๐.๘๕ และ๔) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ เป็นแบบมาตรประมาณค่า ๕ ระดับ มีค่าความเชื่อมั่น ( ) เท่ากับ ๐.๘๒ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยสองค่าจากกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียว (t-test for Paired Samples)
ผลการวิจัย พบว่า
๑. แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำในภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๓.๘๗/๘๒.๐๕ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่กำหนดไว้
๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำในภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑
๓. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำในภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT มีค่าเท่ากับ ๐.๗๓๐๗ หรือคิดเป็นร้อยละ ๗๓.๐๗ แสดงว่า หลังจากนักเรียนได้เรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำในภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนหรือมีความรู้เพิ่มขึ้น ๐.๗๓๐๗ หรือคิดเป็นร้อยละ ๗๓.๐๗ ซึ่งมีค่ามากกว่า ๐.๗๐ ที่กำหนดไว้
๔. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำในภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4MAT โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ๔.๗๓