บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิทยาศาสตร์ 5 ขั้นตอน เรื่อง แรงกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ งานและพลังงาน ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ งานและพลังงาน (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิทยาศาสตร์ 5 ขั้นตอน เรื่อง แรงกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ งานและพลังงาน
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 สามัคคีวิทยาคาร ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 33 คน ที่ได้จากวิธีการเลือกแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling ) เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิทยาศาสตร์ 5 ขั้นตอน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ งานและพลังงาน มีค่าความเชื่อมั่น 0.95 แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิทยาศาสตร์ 5 ขั้นตอน เรื่อง แรงกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ งานและพลังงาน มีระดับความคิดเห็น เหมาะสมมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.95 ความเชื่อมั่น 0.72 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย
(x-)ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) และการทดสอบที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า (1) แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิทยาศาสตร์ 5 ขั้นตอน เรื่อง แรงกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ งานและพลังงาน มีประสิทธิภาพ 81.17/82.33 ดังนั้น จึงมีประสิทธิภาพผ่านเกณฑ์ 80/80 (2) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิทยาศาสตร์ 5 ขั้นตอน เรื่อง แรงกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ งานและพลังงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ (3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิทยาศาสตร์ 5 ขั้นตอน เรื่อง แรงกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ งานและพลังงาน มีระดับความพึงพอใจมากที่สุด