ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ ของ Underhill วิชาฟิสิกส์ เรื่องการเคลื่อนที่

ชื่อเรื่อง การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ ของ Underhill วิชาฟิสิกส์ เรื่องการเคลื่อนที่แนวตรง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ผู้วิจัยและพัฒนา นางน้ำค้าง รัตนพันธ์ โรงเรียนพุทไธสง

ปีที่วิจัย 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1.) เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการสอนตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ ของ Underhill ให้มีนักเรียนจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม 2.) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการสอนตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ ของ Underhill 3.) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาฟิสิกส์ เรื่องการเคลื่อนที่แนวตรง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการสอนตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ ของ Underhill ให้มีนักเรียนจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม 4.) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ในรายวิชาฟิสิกส์ เรื่องเสียง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการสอนตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ ของ Underhill และ 5.) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ของ Underhill ในเรื่องเสียง

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที 4/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 แผนการเรียนวิทย์-คณิต โรงเรียนพุทไธสง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 จำนวน 38 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ ตามรูปแบบของ Underhill (1991) จำนวน 8 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ มีค่าความเชื่อมั่น 0.81 และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในเนื้อหาวิชาฟิสิกส์ เรื่องการเคลื่อนที่แนวตรง มีค่าความเชื่อมั่น 0.90

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยโดยใช้รูปแบบการวิจัยแบบทดลอง ในการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้วิจัยได้ใช้แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทดสอบก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และนำแบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไปวัดนักเรียนหลังจากกิจกรรมการเรียนการสอนสิ้นสุดลง วิเคราะห์ข้อมูลโดยวิเคราะห์ความสามารถใน

การคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบค่า t-test วิเคราะห์ความพึงพอใจโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ด้านการพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ พบว่า จำนวนนักเรียนที่มีคะแนนเฉลี่ยผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ ร้อยละ 70 มีจำนวน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 76.31 โดยได้คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 15.21 คิดเป็นร้อยละ 76.05 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้

2. ผลการวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์หลังเรียน พบว่า ค่า t-test ที่ได้จากการเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์หลังเรียนแตกต่างจากก่อนเรียนที่ระดับนัยสำคัญ .05 แสดงว่า การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ตามรูปแบบของ Underhill (1991) สามารถพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ด้านการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า จำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ ร้อยละ 70 มีจำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 81.57 โดยได้คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 16.03 คิดเป็นร้อยละ 80.15 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้

4. ผลการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน พบว่า ค่า t-test ที่ได้จากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนแตกต่างจากก่อนเรียนที่ระดับนัยสำคัญ .05 แสดงว่า การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามรูปแบบของ Underhill (1991) สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ ตามรูปแบบของ Underhill (1991) สามารถพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในรายวิชาฟิสิกส์ เรื่องการเคลื่อนที่แนวตรง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้

5. นักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามแนวคอนสตรัคติวิสต์ ตามรูปแบบของ Underhill (1991) โดยเฉลี่ยมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีค่าเฉลี่ย 4.57 คิดเป็นร้อยละ 91.40 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.766

โพสต์โดย tukkatik_phy : [16 ก.ย. 2562 เวลา 11:08 น.]
อ่าน [3391] ไอพี : 182.232.22.12
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 54,545 ครั้ง
น่ารักมากครับ "โรงเรียนผู้สูงวัย" ที่พิบูลมังสาหาร
น่ารักมากครับ "โรงเรียนผู้สูงวัย" ที่พิบูลมังสาหาร

เปิดอ่าน 43,718 ครั้ง
วิธีการเชิงระบบ
วิธีการเชิงระบบ

เปิดอ่าน 15,715 ครั้ง
ยาคุมแบบฉีด ทำมวลกระดูกเสื่อมอย่างน้อย 5%
ยาคุมแบบฉีด ทำมวลกระดูกเสื่อมอย่างน้อย 5%

เปิดอ่าน 7,939 ครั้ง
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)

เปิดอ่าน 10,438 ครั้ง
ไม่อยากเป็นผู้หญิง กลิ่นตัวแรง
ไม่อยากเป็นผู้หญิง กลิ่นตัวแรง

เปิดอ่าน 13,831 ครั้ง
1 เมษายน วันข้าราชการพลเรือน
1 เมษายน วันข้าราชการพลเรือน

เปิดอ่าน 26,557 ครั้ง
ภาษาฝรั่งเศส
ภาษาฝรั่งเศส

เปิดอ่าน 19,979 ครั้ง
ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 2
ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 2

เปิดอ่าน 41,672 ครั้ง
วิจัยและสถิติ
วิจัยและสถิติ

เปิดอ่าน 13,585 ครั้ง
อ้วนไม่แคร์สื่อ กระโดดลงสระน้ำแข็ง เดี๋ยวก็รู้ งานนี้มีฮา
อ้วนไม่แคร์สื่อ กระโดดลงสระน้ำแข็ง เดี๋ยวก็รู้ งานนี้มีฮา

เปิดอ่าน 14,873 ครั้ง
อะไรเอ่ยสะสมเชื้อโรคมากที่สุดในห้องสุขาที่คุณรัก ?
อะไรเอ่ยสะสมเชื้อโรคมากที่สุดในห้องสุขาที่คุณรัก ?

เปิดอ่าน 61,747 ครั้ง
การอ่านแบบ  Skimming
การอ่านแบบ Skimming

เปิดอ่าน 97,439 ครั้ง
ดูให้รู้ - วิธีการสอนเพื่อพัฒนาสมองทั้งซีกขวาและซ้ายในญี่ปุ่น
ดูให้รู้ - วิธีการสอนเพื่อพัฒนาสมองทั้งซีกขวาและซ้ายในญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 15,881 ครั้ง
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

เปิดอ่าน 15,335 ครั้ง
การดูแลรถเมื่อน้ำท่วม
การดูแลรถเมื่อน้ำท่วม

เปิดอ่าน 5,621 ครั้ง
สรุปสาระสำคัญเกณฑ์ย้ายครู ไม่ต้องรอ 4 ปี
สรุปสาระสำคัญเกณฑ์ย้ายครู ไม่ต้องรอ 4 ปี
เปิดอ่าน 20,748 ครั้ง
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
เปิดอ่าน 11,575 ครั้ง
สาวยูเครน 19 คลั่งอนิเมะ แปลงตัวเองเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น
สาวยูเครน 19 คลั่งอนิเมะ แปลงตัวเองเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น
เปิดอ่าน 34,284 ครั้ง
กินเจ-มังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร
กินเจ-มังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร
เปิดอ่าน 17,542 ครั้ง
ยิงปืนขึ้นฟ้า อายุความกี่ปี ?
ยิงปืนขึ้นฟ้า อายุความกี่ปี ?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ