หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา การจัดการศึกษาระดับปฐมวัยเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับเด็กทุกๆ ด้าน ตามวัย และความสามารถของแต่ละบุคคล ส่งเสริมพัฒนาการให้เกิดทักษะและปัญหาเกี่ยวกับพัฒนาการทางสติปัญญาอันหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ ความสามารถทางภาษา เด็กขากทักษะทางภาษา การดูล่าช้าทำให้เด็กขาดโอกาสในการปฏิสัมพันธ์ด้วยวาจา เด็กมักจะไม่สามารถสื่อความหมายของสิ่งของ เหตุการณ์หรือความรู้สึกได้ ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการศึกษา เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาด้านการพูด โดยใช้กิจกรรมการเล่านิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เหมาะสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/2 ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 หาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเล่านิทานพื้นบ้านภาคเหนือที่มีต่อพัฒนาการทางภาษาด้านการพูด กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/2 ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 11 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นแผนการเรียนรู้ที่เกี่ยวกับพัฒนาการทางภาษาด้านการพูด จำนวน 12 แผน และแบบประเมินความสามารถทางภาษาด้านการพูด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติพื้นฐาน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1.ประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเล่านิทานพื้นบ้านภาคเหนือที่มีต่อพัฒนาการทางภาษาด้านการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/2 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านสันทะ ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.08 /88.89
2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเล่านิทานพื้นบ้านภาคเหนือที่มีต่อพัฒนาการทางภาษาด้านการพูด ชั้นอนุบาลปีที่ 1/2 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านสันทะ ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน มีค่าเท่ากับ 0.7634
โดยสรุป แผนการจัดกิจกรรมการเล่านิทานพื้นบ้านภาคเหนือที่มีต่อพัฒนาการทางภาษาด้านการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/2 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านสันทะ ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน มีประสิทธิภาพเหมาะสำหรับใช้ส่งเสริมพัฒนาทางภาษาด้านการพูด นักเรียนมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การพัฒนาทักษะทางภาษาด้านต่าง ๆ อีกต่อไป