ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
โครงงานนักสืบ ดิน ดิน

ชื่อโครงงาน นักสืบ ดิน ดิน

ผู้จัดทำโครงงาน นักเรียนชั้นอนุบาล 2/5 โรงเรียนบ้านต้นปรง

ครูที่ปรึกษา นางสาวจุฑาภรณ์ เชื้อเพ็ชร

ระยะเวลาในการจัดทำ (9 - 20 พฤศจิกายน 2558)

ที่มาของโครงงาน (วันที่ 9 พฤศจิกายน 2558)

ช่วงสัปดาห์ของการจัดประสบการณ์หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง หิน ดิน ทราย เด็กมีโอกาสได้ออกไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนเกี่ยวกับลักษณะของ หิน ดิน ทราย ที่มีอยู่ภายในบริเวณโรงเรียน และในระหว่างการศึกษาแหล่งเรียนรู้นั้น เด็กเกิดคำถามจึงมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเพื่อน ๆ เช่น “ทำไมดินสีส้ม ๆ เวลาเหยียบมันถึงติดรองเท้า แต่ดินสีดำไม่ติดรองเท้า” “ดินที่โรงเรียนมีหลายสีค่ะ”

ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามที่อยากรู้

จากการศึกษาแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน ตามหน่วยการจัดประสบการณ์ เรื่อง หิน ดิน ทราย ทำให้เด็กเกิดคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับดินที่เด็กอยากรู้มากมาย ได้แก่

น้องทราย : ครูคะทำไมดินที่สีส้มมันชอบติดรองเท้าจังคะ

ครู : เหตุผลที่ไอ้เจ้าดินสีส้ม ๆ มันชอบติดเท้าเพราะว่ามันแอบเก็บน้ำเอาไว้เยอะเลยค่ะ

น้องเมือง : คุณครูครับดินเก็บน้ำได้ด้วยหรือครับ แล้วดินอะไรเก็บน้ำได้มากที่สุดครับ

น้องแชมป์: ดินเก็บน้ำไว้ตรงไหนครับครู

น้องตี๋ : แล้วทำไมดินเก็บน้ำได้ครับครู แล้วทำไมดินที่โรงเรียนไม่เหมือนกับดินที่บ้านผลเลย ครับ

ครู : ไม่เหมือนยังไงครับน้องตี๋

น้องตี๋ : ที่บ้านผมไม่เห็นมีดินสีดำเลยครับ มีแต่ดินสีแดง แต่ที่โรงเรียนมีดินหลายสีเลยครับ

น้องเตย : ตี๋แต่ดินบ้านเราเหมือนกับดินที่โรงเรียนเลย มีหลายสีเหมือนกัน

น้องตี๋ : ครูครับดินมันมีชื่อเหมือนผมไหมครับ

ครู : มีค่ะ ดินแต่ละชนิดที่เราเห็นมันก็มีชื่อเรียนด้วยนะคะ

น้องกบ : คุณครูครับตอนที่โรงเรียนปิด แม่พาผมไปซื้อดินหลายถุงเลยครับ

ครู : แม่น้องกบซื้อดินมาทำอะไรครับ

น้องกบ : แม่บอกว่าจะเอามาปลูกต้นไม้ครับ

น้องกังฟู : ผมก็เคยไปซื้อดินครับกับตาครับ ข้างในมันสีดำ สีมันไม่เหมือนกับดินที่บ้านผมเลย ครับ

น้องนิว : พ่อผมครับครู เอาดินสีแดงมาปั้นควายให้ผมเล่นด้วยครับ

น้องตอง : ครูครับผมเคยเอาดินหลังบ้านมาปั้นรูปช้างแต่มันปั้นไม่ได้เลยครับ

ครู : แล้วมีใครรูบ้างคะว่าในดินมีอะไรบ้าง

น้องกังฟู : ผมก็อยากรู้ด้วยครับคุณครูว่าในดินมีอะไรบ้าง

น้องมิลล์ : หนูเคยเห็นไส้เดือนค่ะ

น้องกบ : ผมไม่เคยเห็นเลยครับ แต่ผมอยากรู้ครับครู

ครูถามย้ำกับเด็ก ๆ อีกครั้งหนึ่งว่าใครมีคำถามที่อยากรู้อีกหรือไม่ เมื่อเด็กตอบว่าไม่มีครูและเด็กร่วมกันสนทนาสรุปเกี่ยวกับคำถามทั้งหมด โดยใช้ชาร์ตที่ครูจดไว้นำมาสรุป ซึ่งได้คำถาม 5 คำถาม ซึ่งเป็นคำถามที่เด็กสนใจมากที่สุด

คำถามที่ 1 ลักษณะของดินแต่ละชนิด

คำถามที่ 2 ในดินมีอะไรบ้าง

คำถามที่ 3 ทำไมดินถึงไม่เหมือนกัน

คำถามที่ 4 ทำไมดินเก็บน้ำได้

คำถามที่ 5 ดินใช้ทำอะไรได้บ้าง

โดยจะเริ่มจากการสำรวจของเด็กจากคำถามที่ 1 คือ ลักษณะของดินแต่ละชนิด

 

จุดประสงค์

เพื่อสำรวจและศึกษาลักษณะของดินแต่ละชนิด

ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและคาดคะเนคำตอบ (วันที่ 10 พฤศจิกายน 2558 )

ครูร่วมสนทนาร่วมกับเด็ก ๆ เกี่ยวกับเรื่องลักษณะของดินแต่ละชนิดที่เด็กรู้จัก ทั้งนี้เพื่อต้องการทราบว่าเด็กมีความรู้หรือประสบการณ์เดิมมากน้อยแค่ไหน โดยใช้คำถามที่กระตุ้นความสนใจให้เด็กอยากที่จะเล่าประสบการณ์ของตนเอง ดังนี้

ครู : บ้านครูอยู่ใกล้กับทะเลแล้วครูชอบไปเดินเล่นที่ทะเล เพราะริมชายหาดมีดินสีขาว เนื้อละเอียด แล้วเด็ก ๆ ล่ะคะเคยเห็นหรือว่ารู้จักดินชนิดใดบ้าง

น้องฝน : หนูเคยเค้าไปในสวนยางกับพ่อค่ะ หนูไปช่วยพ่อปลูกยาง หนูเห็นดินแถวนั้นมันเป็นสี ดำ ๆ ค่ะ

น้องกบ : หน้าบ้านผมมีดินสีน้ำตาลครับ พอฝนตกเดินก็ไม่ได้ครับเพราะมันติดรองเท้าครับ

น้องบาส : ที่บ้านผมก็เหมือนบ้านกบเลยครับ ดินสีน้ำตาลเวลาผมไปเล่นมันติดทั้งมือทั้งเสื้อเต็ม ไปหมดเลยครับ

น้องตี๋ : ดินสีน้ำตาลเอามาปั้นควายได้ด้วยครับ

หลังจากที่ครูร่วมสนทนากับเด็ก ๆ แล้ว ให้เด็กช่วยกันสรุปดูว่าจากที่เพื่อเล่ามาทั้งหมดนั้น ดินแต่ละชนิดมีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งทบทวนคำถามที่เด็กอยากรู้ คือ “ลักษณะของดินแต่ละชนิด” และให้เด็กช่วยกันคาดคะเนคำตอบ โดยการแบ่งเด็กออกเป็น 4 กลุ่ม ๆ ละ 7 คน โดยครูตั้งคำถามเพื่อให้สมาชิกของแต่กลุ่มได้ร่วมกันคิด และคาดคะเนคำตอบ ซึ่งได้คำตอบของเด็ก ๆ ในแต่ละกลุ่มดังนี้

กลุ่มที่ 1 1. ดินสีดำมีลักษะเม็ดเล็ก ๆ 2. ดินสีน้ำตาลจับตัวกันเป็นก้อน 3. ดินสีเหลืองมีเป็น เม็ด ๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง

กลุ่มที่ 2 1. ดินสีขาวเป็นมีเม็ดปนอยู่ 2. ดินสีดำนิ่ม 3. ดินสีส้มเหนียว

กลุ่มที่ 3 1. ดินสีขาวมีเม็ดเล็ก ๆ คล้ายก้อนหิน 2. ดินสีส้มเอาปั้นรูปวัวได้ 3. ดินดำนิ่มที่สุด

กลุ่มที่ 4 1. ดินสีขาวปั้นไม่ได้ 2. ดินสีดำปั้นได้แต่มันแตก 3. ดินสีน้ำตาลปั้นได้ไม่แตก

 

ขั้นที่ 3 ดำเนินการสำรวจตรวจสอบ

ครูสนทนากับเด็กด้วยคำถาม “เด็ก ๆ ทำอย่างไร ถึงรู้ว่าดินแต่ละชนิดเป็นอย่างไร”

กลุ่มที่ 1 ให้คุณครูเล่าให้ฟัง

กลุ่มที่ 2 ดูจากอินเตอร์เน็ต

กลุ่มที่ 3 นำดินมาจาบ้าน

กลุ่มที่ 4 ไปสำรวจดินบริเวณโรงเรียน

หลังจากที่เด็กในแต่ละกลุ่มร่วมเสนอแนวทางในการศึกษาเรื่องลักษณะของดินแต่ละชนิดได้แล้ว ครูและเด็กร่วมกันคิดวิธีการที่จะบันทึกผลจากการศึกษาในครั้งนี้ว่าจะทำอย่างไร เพื่อให้ครูและเพื่อนคนอื่นจะได้เห็นผลงานของตน ซึ่งเด็ก ๆ มีคำตอบดังนี้

• วาดภาพ

• ให้ทุกคนอธิบายภาพวาดของตัวเอง

• นำไปติดไว้ให้เพื่อนดู

ขั้นที่ 4 สังเกตและการบรรยาย (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 )

ครูพาเด็ก ๆ ไปยังห้อง ICT เพื่อศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องชนิดและลักษณะของดิน และจากการศึกษาค้นคว้าทำให้เด็ก ๆ สามารถอธิบายได้ว่า (กลุ่มที่ 2)

1. ดินสีดำเรียกว่าดินร่วน มีลักษณะเป็นเม็ดละเอียด

2. ดินสีน้ำตาลเนื้อดินมีลักษณะเหนียว มีชื่อเรียกว่าดินเหนียว

3. ดินที่มีสีเหลืองอ่อน ๆ เรียกว่าดินทราย มีลักษณะเป็นเม็ดทั้งเม็ดเล็ก ผสมอยู่

เม็ดใหญ่

ครูนำเด็ก ๆ ออกไปสำรวจลักษณะของดินชนิดต่าง ๆ ที่มีอยู่ในโรงเรียน เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ปฏิบัติและสัมผัสกับดินแต่ละชนิดได้จริง ๆ พร้อมทั้งจดจำเพื่อกลับมาบันทึกผลจากสิ่งที่พบเห็น ซึ่งได้คำตอบดังนี้ (กลุ่มที่ 4)

1. ดินสีขาวมีเนื้อหยาบนำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ไม่ได้

2. ดินสีดำเนื้อนิ่มนำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ได้ แต่แตกง่าย

3. ดินสีน้ำตาลเมื่อโดนน้ำนำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ได้ไม่แตก แต่ถ้าไม่โดนน้ำจะแข็งมาก

เด็กและครูร่วมกันหาคำตอบโดยการศึกษาลักษณะของดินจากดินที่เด็ก ๆ นำมาจากบ้าน เพื่อศึกษาลักษณะของดินแต่ละชนิด (กลุ่มที่ 3) โดยครูคอยให้ข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติมในเรื่องที่เด็กควรรู้ (กลุ่มที่ 1) โดยที่ครูนำข้อเสนอแนะของกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 3 มาบูรณาการเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ครูได้อธิบายชื่อของดินแต่ละชนิด ได้แก่ ดินสีดำ คือดินร่วน สีส้ม/สีน้ำตาล คือดินเหนียว และดินสีขาว/สีเหลือง คือดินทราย ซึ่งได้คำตอบดังนี้

(กลุ่มที่ 1)

1. ดินสีดำ คือดินร่วน มีลักษณะเม็ดเล็ก ๆ ละเอียด

2. ดินสีน้ำตาล คือดินเหนียว จับตัวกันเป็นก้อนแข็ง เมื่อโดนน้ำจะเหนียวติดมือ

3. ดินสีเหลือง คือดินทราย มีลักษณะเป็นเม็ด ๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้างผสมกัน

(กลุ่มที่ 3)

1. ดินสีขาวมีเม็ดเล็ก ๆ ไม่จับตัวเป็นก้อน คล้ายก้อนหิน

2. ดินสีส้มเอาปั้นรูปวัวได้เพราะมันเหนียว

3. ดินสีดำนิ่มละเอียด

ขั้นที่ 5 บันทึกผล

เด็กแต่ละกลุ่มบันทึกผลจาการศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของดินแต่ละชนิด ลงในใบบันทึกผลที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการออกแบบ และนำเสนอผลงานของตน

ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปราย

เด็กและร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับคำถาม “ลักษณะของดินแต่ละชนิด” หลังจากที่ทุกคนได้ทำการศึกษาค้นคว้าข้อมูลไปแล้ว โดยการขอตัวแทนเด็กให้ออกมาสรุปสาระสำคัญของการศึกษาในครั้งนี้

ครู : จากการที่เด็ก ๆ ได้ร่วมการศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของดิน มีใครตอบได้บ้างคะว่าดินแต่ละชนิดมีลักษณะอย่างไร และมีชื่อว่าอะไร

เด็ก ๆ : จำได้ครับ/ค่ะ ดินมี 3 ชนิดครับ/ค่ะ ดินร่วนมีสีดำเนื้อละเอียด ดินเหนียวมีสีส้ม/สี น้ำตาลเมื่อโดนน้ำเนื้อจะเหนียวสามารถนำมาปั้นได้ และดินทรายเนื้อทรายมี ลักษณะเป็นผงมีเม็ดทรายเล็กบ้าง ใหญ่บ้างผสมอยู่

นอกจากนี้ครูยังได้ร่วมสนทนาเกี่ยวกับคำตอบที่เด็กเคยร่วมกันอภิปรายไว้ก่อนหน้านี้ ว่ามีสิ่งใดที่เหมือนหรือแตกต่างจากสิ่งที่เด็กคาดคะเนไว้หรือไม่ และเด็ก ๆ ได้ความรู้เพิ่มเติมอะไรมาบ้างจากการศึกษาครั้งนี้ เมื่อสนทนากับเด็กจบแล้ว ครูถามคำถามย้ำกับเด็กอีกครั้ง ว่าเด็กมีคำถามที่อยากรู้อีกหรือไม่ เมื่อเด็ก ๆ หลายคนยกมือ และอยากศึกษาดูว่าในดินมีอะไรบ้าง และดังที่ปรากฏจากที่มาของโครงงาน

 

ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย

1. ผลการพัฒนาความสามารถพื้นฐาน 4 ด้าน

1.1. ด้านการจัดการเรียนรู้

• เด็กได้เรียนรู้ลักษณะของดินแต่ละชนิด จากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลด้วยวิธีการที่ตนเองสนใจ และผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ เป็นผู้ลงมือปฏิบัติจริง

• เด็กสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ของตนเองให้ผู้อื่นเข้าใจได้

1.2. ด้านภาษา

• เด็กสามารถใช้ภาษาในการถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้ให้เข้าใจได้

• เด็กมีทักษะในการเลือกใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

• เด็กมีการพูดคุย สนทนาโต้ตอบระหว่างเพื่อน และครู

1.3. ด้านสังคม

• ทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม

• การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

• การปฏิบัติตามกฎกติกา ข้อตกลงของกลุ่ม

• การช่วยแหลือ แบ่งปันซึ่งกันและกัน

1.4. ด้านการเคลื่อนไหว

• เด็กได้ใช้ทักษะในการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายในระหว่างการสำรวจ

• เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัส กล้ามเนื้อมัดเล็กในการหยิบจับสิ่งต่าง ๆ

2. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

2.1 ทักษะการสังเกต

• เด็กสามารถบันทึกผลลักษณะของดินจากการสังเกตได้

2.2 ทักษะการจำแนกประเภท

• เด็กสามารถจัดแยกประเภทตามชนิดของดินที่นำมาจากบ้าน และที่สำรวจภายในบริเวณโรงเรียนได้

• เด็กสามารถเปรียบเทียบความเหมือนความต่างของดินแต่ละชนิดได้

2.3 ทักษะการพยากรณ์หรือการคาดคะเนคำตอบ

• เด็กสามารถคาดคะเนลักษณะของดินแต่ละชนิดผ่านการอธิบายได้

2.4 ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล

• เด็กสามารถบันทึกผลจากการสังเกตผ่านการวาดภาพได้ และสามารถนำเสนอข้อมูลตามความคิดของตัวเองให้ผู้อื่นเข้าใจได้

2.5 ทักษะการลงความคิดเห็นกับข้อมูล

• เด็กสามารถอธิบายลักษณะของดิน โดยมีการให้เหตุผลสนับสนุนตามความคิดเห็นของตนเองได้

โพสต์โดย JC : [17 พ.ค. 2563 เวลา 11:39 น.]
อ่าน [4496] ไอพี : 223.24.149.57
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 65,492 ครั้ง
ลูกชิดกับลูกจาก มาจากไหน
ลูกชิดกับลูกจาก มาจากไหน

เปิดอ่าน 8,352 ครั้ง
17 วิธี Refresh สุขภาพแบบฮอต ฮอต
17 วิธี Refresh สุขภาพแบบฮอต ฮอต

เปิดอ่าน 33,783 ครั้ง
วิธีทำกระทง
วิธีทำกระทง

เปิดอ่าน 12,509 ครั้ง
เทคนิค 6 ต. เพื่อสอบแอดมิชชั่นให้ "ติด"
เทคนิค 6 ต. เพื่อสอบแอดมิชชั่นให้ "ติด"

เปิดอ่าน 10,703 ครั้ง
สู่ความสำเร็จในการทำงานตามแนวพุทธ
สู่ความสำเร็จในการทำงานตามแนวพุทธ

เปิดอ่าน 61,903 ครั้ง
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย มีอะไรบ้าง?
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย มีอะไรบ้าง?

เปิดอ่าน 6,617 ครั้ง
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร

เปิดอ่าน 15,793 ครั้ง
ถอดบทเรียนปฏิรูปการศึกษาเวียดนาม ทำอย่างไรถึงสำเร็จ
ถอดบทเรียนปฏิรูปการศึกษาเวียดนาม ทำอย่างไรถึงสำเร็จ

เปิดอ่าน 9,223 ครั้ง
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

เปิดอ่าน 33,952 ครั้ง
การใช้ลายมือชื่อผู้รับเงินด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในใบเสร็จฯในการเบิกเงินสวัสดิการการศึกษาบุตร
การใช้ลายมือชื่อผู้รับเงินด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในใบเสร็จฯในการเบิกเงินสวัสดิการการศึกษาบุตร

เปิดอ่าน 14,896 ครั้ง
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)

เปิดอ่าน 35,893 ครั้ง
หลักเกณฑ์การคำนวณค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรสำหรับหน่วยงานภาครัฐ
หลักเกณฑ์การคำนวณค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรสำหรับหน่วยงานภาครัฐ

เปิดอ่าน 27,852 ครั้ง
พืชอเนกประสงค์
พืชอเนกประสงค์

เปิดอ่าน 15,787 ครั้ง
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal

เปิดอ่าน 19,519 ครั้ง
4 ภาษาหลักของโลก สร้าง "โอกาส" ยุคโลกาภิวัตน์
4 ภาษาหลักของโลก สร้าง "โอกาส" ยุคโลกาภิวัตน์

เปิดอ่าน 20,519 ครั้ง
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ
เปิดอ่าน 9,812 ครั้ง
ใช้บัตรเดบิตอย่างไรให้เป็น
ใช้บัตรเดบิตอย่างไรให้เป็น
เปิดอ่าน 11,186 ครั้ง
เหนือกว่า
เหนือกว่า 'กิมจิฟีเวอร์' 'ศัลยกรรมไทย'
เปิดอ่าน 13,826 ครั้ง
วิธีลับในการหาข้อมูลจาก Google
วิธีลับในการหาข้อมูลจาก Google
เปิดอ่าน 37,035 ครั้ง
100 สุภาษิตกฎหมาย
100 สุภาษิตกฎหมาย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ