ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้ชุดฝึก

ชื่องานวิจัย การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

โดยใช้ชุดฝึกกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง อาหารและการย่อยอาหาร

ชื่อผู้วิจัย นางพนิดา นิลพรมมา

กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง อาหารและการย่อยอาหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้สูงกว่า ก่อนเรียนและเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง อาหารและการย่อยอาหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ 70

โดยทำการพัฒนานักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง อาหารและการย่อยอาหารต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 8 คน โดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง อาหารและการย่อยอาหาร ซึ่งในชุดฝึกประกอบไปด้วยแบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน ใบความรู้ และแบบฝึก โดยนักเรียนต้องทำแบบฝึกก่อนเรียนก่อน ศึกษาใบความรู้ และทำแบบฝึก ใช้เวลาในการเรียนรู้วันละ 1 ชั่วโมงในชั่วโมงซ่อมเสริมหรือหลังเลิกเรียน หลังจากนัดเรียนศึกษาจนจบครบทุกกิจกรรมและทำแบบทดสอบหลังเรียน นำผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนมาเปรียบเทียบกัน

ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ด้วยชุดฝึกกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องอาหารและการย่อยอาหาร พบว่า คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนก่อนเรียนเท่ากับ 4.88 คิดเป็นร้อยละ 48.75 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 8 คิดเป็นร้อยละ 80.00 และนักเรียนมีความก้าวหน้าเฉลี่ยเท่ากับ 3.12 คิดเป็นร้อยละ 31.25 นั่นแสดงว่าหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องอาหารและการย่อยอาหาร นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ส่วนค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของการทดสอบก่อนเรียนเท่ากับ 0.99 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานหลังเรียนเท่ากับ 0. จะเห็นว่ามีการกระจายของคะแนนอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน แสดงให้เห็นว่านักเรียนมีพัฒนาการในการเรียนอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน แต่จากค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจะเห็นได้ว่านักเรียนแต่ละคนมีความสามารถ ไม่เท่ากัน

ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องอาหารและการย่อยอาหาร พบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทั้ง 8 คน มีคะแนนหลังเรียนมากกว่าก่อนเรียน และคะแนนความก้าวหน้าของนักเรียนเท่ากับ +3.12 คิดเป็นร้อยละ 31.25 และนักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ 70 ทุกคน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

โพสต์โดย พนิดา นิลพรมมา : [22 ม.ค. 2564 เวลา 11:25 น.]
อ่าน [63480] ไอพี : 125.27.107.16
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 28,396 ครั้ง
โอนการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ อปท.เพื่อแก้ปัญหาความล้าหลังการศึกษาของไทย (บทความ โดย ถวิล ไพรสณฑ์)
โอนการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ อปท.เพื่อแก้ปัญหาความล้าหลังการศึกษาของไทย (บทความ โดย ถวิล ไพรสณฑ์)

เปิดอ่าน 29,519 ครั้ง
ซักซ้อมแนวปฏิบัติการขออนุญาตไปต่างประเทศ (เพิ่มเติม)
ซักซ้อมแนวปฏิบัติการขออนุญาตไปต่างประเทศ (เพิ่มเติม)

เปิดอ่าน 98,672 ครั้ง
ห้องเรียนเสมือน (Virtual Classroom)
ห้องเรียนเสมือน (Virtual Classroom)

เปิดอ่าน 16,804 ครั้ง
เรื่องกล้วย ๆ
เรื่องกล้วย ๆ

เปิดอ่าน 12,300 ครั้ง
เตือนเด็กต่ำกว่า 16 ใช้มือถือ เสี่ยง 5 เท่า เนื้องอกสมอง
เตือนเด็กต่ำกว่า 16 ใช้มือถือ เสี่ยง 5 เท่า เนื้องอกสมอง

เปิดอ่าน 14,611 ครั้ง
เผยอีโคไลตัวใหม่ ทนยาปฏิชีวนะ ถึงตายได้
เผยอีโคไลตัวใหม่ ทนยาปฏิชีวนะ ถึงตายได้

เปิดอ่าน 37,273 ครั้ง
ลักษณะบุคคลที่มีความสามารถทางด้านพหุปัญญา
ลักษณะบุคคลที่มีความสามารถทางด้านพหุปัญญา

เปิดอ่าน 24,717 ครั้ง
ถาม - ตอบ เพื่อสุขภาพ
ถาม - ตอบ เพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 19,263 ครั้ง
อนาคต 10 อย่างที่กำลังจะหายไป
อนาคต 10 อย่างที่กำลังจะหายไป

เปิดอ่าน 8,253 ครั้ง
จุดยืนของ มหาวิทยาลัยราชภัฏ
จุดยืนของ มหาวิทยาลัยราชภัฏ

เปิดอ่าน 232,743 ครั้ง
ความหมายของระบบ
ความหมายของระบบ

เปิดอ่าน 16,175 ครั้ง
ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพสักคำ?! ประกันชีวิตอาวุโส...เรื่องที่ต้องรู้ แต่ไม่ได้บอก
ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพสักคำ?! ประกันชีวิตอาวุโส...เรื่องที่ต้องรู้ แต่ไม่ได้บอก

เปิดอ่าน 11,667 ครั้ง
กลเม็ดหาเงินสร้างธุรกิจ
กลเม็ดหาเงินสร้างธุรกิจ

เปิดอ่าน 27,478 ครั้ง
การศึกษาและเปรียบเทียบสาเหตุการย้ายของข้าราชการครู
การศึกษาและเปรียบเทียบสาเหตุการย้ายของข้าราชการครู

เปิดอ่าน 6,050 ครั้ง
กลิ่นคนแก่คืออะไร? เปิดข้อสงสัยพร้อม 5 วิธีป้องกัน
กลิ่นคนแก่คืออะไร? เปิดข้อสงสัยพร้อม 5 วิธีป้องกัน

เปิดอ่าน 6,367 ครั้ง
การเป็นพลเมืองที่ดี
การเป็นพลเมืองที่ดี
เปิดอ่าน 6,031 ครั้ง
วิธีใช้ "เขียง" ให้ปลอดภัย
วิธีใช้ "เขียง" ให้ปลอดภัย
เปิดอ่าน 29,956 ครั้ง
"ช้างน้าว" ยิ่ง "เหลือง"พรึ่บ!! เท่าไหร่ ยิ่งรวย..
"ช้างน้าว" ยิ่ง "เหลือง"พรึ่บ!! เท่าไหร่ ยิ่งรวย..
เปิดอ่าน 82,864 ครั้ง
กาลามสูตร
กาลามสูตร
เปิดอ่าน 13,664 ครั้ง
เลขท้ายทะเบียนบ้านใด "มีเสนห์ - มีคนช่วยเหลือ"
เลขท้ายทะเบียนบ้านใด "มีเสนห์ - มีคนช่วยเหลือ"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ