ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับกระบวนการโพลยา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรี

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการที่จำเป็นของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2) พัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) ผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจและปรับปรุงรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยระยะที่ 1 เป็นการศึกษาข้อมูลจากการสัมภาษณ์ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จำนวน 10 คน และสอบถามความคิดเห็นของนักชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 เรียนจำนวน 64 คนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และตรวจสอบคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ ระยะที่ 3 ผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 จำนวน 45 คนที่กำลังศึกษาภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ได้มาโดยวิธีการเลือกสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) และระยะที่ 4 ประเมินความพึงพอใจและปรับปรุงรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) แบบสัมภาษณ์ 3)แบบทดสอบความสามารถในการแก้ปัญหา และ4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. สภาพความต้องการของนักเรียน ครูผู้สอนและผู้เกี่ยวข้องมีความคิดเห็นว่าต้องการให้นักเรียนเรียนรู้โดยการทำกิจกรรมกลุ่ม เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้อย่างแท้จริง สื่อการเรียนรู้เป็น ใบความรู้ ใบกิจกรรม ใบงาน และแบบทดสอบ มีการวัดผลโดยการใช้การทดสอบ

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบ่งเป็น 3 ขั้นตอนคือ

ขั้นตอนที่ 1 ผลการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประกอบด้วย 1) หลักการและแนวคิด 2)วัตถุประสงค์ 3)ขั้นตอนการจัดกิจกรรม 4) เนื้อหา 5) การประเมินผล

ขั้นตอนที่ 2 พัฒนาแผนจัดการเรียนรู้ เรื่องสารละลาย ด้วยรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่สร้างขึ้นมีค่าประสิทธิภาพ 85.63/83.91

ขั้นตอนที่ 3 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน

3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการวิชาเคมีเพิ่มเติม เรื่องสารละลาย นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการ ด้านความสามารถในการแก้ปัญหาวิชาเคมีเพิ่มเติม เรื่อง

สารละลาย นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ. 05

3. ผลทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสารละลาย ด้วยรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับกระบวนการโพลยา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียนกิจกรรม ครูมีบทบาทหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษา นักเรียนมีความสนใจและตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสนุก ทำกิจกรรมตาม ใบงาน ได้อย่างถูกต้อง โดยมีรายละเอียดดังนี้

ผลการเรียนรู้ เรื่องสารละลาย ด้วยการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับกระบวนการ โพลยา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การทำแบบทดสอบความสามารถในการแก้ปัญหา จำนวนนักเรียน 45 คนได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 15.46 และคิดเป็นร้อยละ 77.33 สูงกว่าเกณฑ์เป้าหมายที่กำหนด และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องสารละลาย มีประสิทธิภาพของกระบวนการ 80.50 และคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สารละลาย มีประสิทธิภาพของผลลัพธ์ 79.26

4. ผลประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อสงเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย นางอุรักษ์ สุระชาติ : [27 ก.พ. 2564 เวลา 14:33 น.]
อ่าน [1577] ไอพี : 182.232.151.99
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,317 ครั้ง
22 จานเด็ด ลดเสี่ยงมะเร็ง
22 จานเด็ด ลดเสี่ยงมะเร็ง

เปิดอ่าน 7,426 ครั้ง
ชาวเน็ตแชร์คลิปเสียดสีสังคม ไทยเท ไทยฮุบ ไทยผีเข้า ไทยหัวสูง
ชาวเน็ตแชร์คลิปเสียดสีสังคม ไทยเท ไทยฮุบ ไทยผีเข้า ไทยหัวสูง

เปิดอ่าน 43,679 ครั้ง
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา

เปิดอ่าน 11,307 ครั้ง
เครื่องดื่มยามเช้าที่เหมาะกับตัวคุณ
เครื่องดื่มยามเช้าที่เหมาะกับตัวคุณ

เปิดอ่าน 32,424 ครั้ง
Adjectives (Articles - the )
Adjectives (Articles - the )

เปิดอ่าน 15,453 ครั้ง
ประวัติการสร้างพระมหาพิชัยราชรถ และเวชยันตราชรถ
ประวัติการสร้างพระมหาพิชัยราชรถ และเวชยันตราชรถ

เปิดอ่าน 8,571 ครั้ง
เชื้อ "ดื้อยา" อันตรายใกล้ตัว
เชื้อ "ดื้อยา" อันตรายใกล้ตัว

เปิดอ่าน 15,814 ครั้ง
อาหารที่เป็นตัวการทำลายสุขภาพผิว
อาหารที่เป็นตัวการทำลายสุขภาพผิว

เปิดอ่าน 505 ครั้ง
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย

เปิดอ่าน 22,115 ครั้ง
ชมคลิป สำนักงาน ก.พ. ชี้แจงปรับเงินเดือนข้าราชการ 4% เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2558
ชมคลิป สำนักงาน ก.พ. ชี้แจงปรับเงินเดือนข้าราชการ 4% เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2558

เปิดอ่าน 14,866 ครั้ง
การตากข้าว สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 3
การตากข้าว สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 3

เปิดอ่าน 18,703 ครั้ง
ข่าวดีผู้ชอบดื่ม "ชา" ไม่ใช่แค่ดื่มเท่ห์ๆ แต่ดีต่อสุขภาพ
ข่าวดีผู้ชอบดื่ม "ชา" ไม่ใช่แค่ดื่มเท่ห์ๆ แต่ดีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 29,189 ครั้ง
รู้แล้ว สโตนเฮนจ์ มีไว้ทำไม
รู้แล้ว สโตนเฮนจ์ มีไว้ทำไม

เปิดอ่าน 12,083 ครั้ง
กิน "ผัก" เหล่านี้มีประโยชน์อย่างไร?
กิน "ผัก" เหล่านี้มีประโยชน์อย่างไร?

เปิดอ่าน 10,178 ครั้ง
แนวทางการพัฒนาและประเมินค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ
แนวทางการพัฒนาและประเมินค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ

เปิดอ่าน 53,415 ครั้ง
โปรแกรมคำนวณบำเหน็จบำนาญข้าราชการปกติ
โปรแกรมคำนวณบำเหน็จบำนาญข้าราชการปกติ
เปิดอ่าน 50,013 ครั้ง
jobsDB แนะ 7 แนวทางการรักษาคนเก่ง ดึงดูดคนที่ใช่ ให้อยู่ในองค์กร
jobsDB แนะ 7 แนวทางการรักษาคนเก่ง ดึงดูดคนที่ใช่ ให้อยู่ในองค์กร
เปิดอ่าน 11,761 ครั้ง
เรียนต่ออังกฤษต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง มาเจาะลึกกัน
เรียนต่ออังกฤษต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง มาเจาะลึกกัน
เปิดอ่าน 26,483 ครั้ง
เรื่องของเลขศูนย์
เรื่องของเลขศูนย์
เปิดอ่าน 11,275 ครั้ง
3 พื้นฐานเพื่อความมั่นคงทางการเงิน
3 พื้นฐานเพื่อความมั่นคงทางการเงิน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
Koi360
ตู้แช่ไวน์
BestKru
ตู้แช่ไวน์
Neonics.co.th
Tools.in.th
รถมือสอง
คลินิกเสริมความงาม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 081-3431047

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ