ผู้ศึกษา สุตาภัทร สิทธิโสภณ

ปีการศึกษา พ.ศ. 2561

บทคัดย่อ

การวิจัย เรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยเป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีจุดประสงค์ในการวิจัย ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและประเมินความต้องการในการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

2. เพื่อสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3. เพื่อทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4. เพื่อประเมินประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้วนำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไปขยายผล

ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนต้องการชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในรูปแบบของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีเนื้อหามีเนื้อหาที่ให้ความรู้ มลพิษทางดินและเสียง มลพิษทางอากาศ มลพิษทางน้ำ และสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ มีภาพประกอบสีสันสวยงาม ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและชัดเจน มีตัวอย่างลักษณะกิจกรรมการเรียนรู้ มีแบบทดสอบท้ายบท โดยนักเรียนต้องการใช้ชุดกิจกรรมในลักษณะ เรียนรู้แบบกลุ่มย่อย และต้องการให้ครูวัดและประเมินผลในด้านการสังเกตการณ์ทำงานกลุ่ม และการปฏิบัติกิจกรรม การพัฒนาชุดกิจกรรมมีทั้งหมด 4 ชุดประกอบด้วย

ชุดที่ 1 มลพิษทางอากาศ ชุดที่ 2 มลพิษทางน้ำ ชุดที่ 3 มลพิษทางดินและเสียง ชุดที่ 4 สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งแต่ละชุดกิจกรรมประกอบด้วย 1) ชื่อกิจกรรม 2) คำนำ 3) คำชี้แจง 4)สาระสำคัญ/ จุดประสงค์ 5) ใบความรู้/ใบกิจกรรม 6) แนวคำตอบ 7) แบบทดสอบ และชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีประสิทธิภาพ 82.21/81.56 ซึ่งตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่กำหนดสามารถนำไปใช้ได้ มีประสิทธิภาพ 82.03/81.31 ซึ่งตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่กำหนด ผลการศึกษาพัฒนาการการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น นักเรียนมีส่วนร่วมในระดับมากที่สุด คือมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.52 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.72 หมายถึง นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.74 หรือนักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 72 และนักเรียนชั้นมีความพึงพอใจในภาพรวมทั้งฉบับ อยู่ในระดับมาก

เว็บน่าสนใจ