ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้หลักการมีส่วนร่วม แบบองค์รวมทั้งบ้าน วัด และโรงเรียน (บวร) เพื่อเสริมสร้างอุปนิสัยอยู่อย่างพอเพียงของนักเร

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้หลักการมีส่วนร่วม

แบบองค์รวมทั้งบ้าน วัด และโรงเรียน (บวร) เพื่อเสริมสร้างอุปนิสัยอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ เทศบาลเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง

ผู้วิจัย กาลสิษฐ์ เพชรคง

ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมแบบองค์รวมทั้งบ้าน วัด และโรงเรียน (บวร) เพื่อเสริมสร้างอุปนิสัยอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ เทศบาลเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมแบบองค์รวมทั้งบ้าน วัด และโรงเรียน (บวร) เพื่อเสริมสร้างอุปนิสัยอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ เทศบาลเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมแบบองค์รวมทั้งบ้าน วัด และโรงเรียน (บวร) เพื่อเสริมสร้างอุปนิสัยอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ เทศบาลเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง 3) เพื่อศึกษาพฤติกรรมด้านอุปนิสัยอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ เทศบาลเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง จากการใช้รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมแบบองค์รวมทั้งบ้าน วัด และโรงเรียน (บวร) และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมแบบองค์รวมทั้งบ้าน วัด และโรงเรียน (บวร) เพื่อเสริมสร้างอุปนิสัยอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ เทศบาลเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ดำเนินการวิจัยตามกรอบแนวคิดการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและความต้องการ (Analysis : R1) ขั้นที่ 2 การออกแบบและพัฒนา (Design & Develop : D1) ขั้นที่ 3 นำรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาไปใช้ (Implement : R2) ขั้นที่ 4 การประเมินผล (Evaluation : D2) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ตามลักษณะการเก็บรวบรวมข้อมูล ดังนี้ ระยะที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบ กลุ่มตัวอย่างผู้ให้ข้อมูลในการสนทนากลุ่ม (Focus Group) ได้แก่ 1) ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดพัทลุง จำนวน 1 คน 2) ข้าราชการครูบำนาญ จำนวน 1 คน3) เจ้าอาวาสวัดประดู่หอม จำนวน 1 รูป 4) ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดธาราสถิตย์ จำนวน 1 คน 5) รองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ จำนวน 1 คน 6) รองผู้อำนวยการ โรงเรียนเทศบาลวัดภูผาภิมุข จำนวน 1 คน และ 7) ครูผู้สอน โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ จำนวน 1 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบ กลุ่มตัวอย่างในการตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบ ได้แก่ 1) บุคลากรโรงเรียนเทศบาลวัดนางลาด ประกอบด้วย ผู้บริหาร จำนวน 1 คน และครูผู้สอน จำนวน 11 คน 2) บุคลากรโรงเรียนเทศบาลวัดภูผาภิมุข ประกอบด้วย ผู้บริหาร จำนวน 1 คน และครูผู้สอน จำนวน 13 คน 3) บุคลากรโรงเรียนวัดนิโครธาราม ประกอบด้วย ผู้บริหาร จำนวน 1 คน และครูผู้สอน จำนวน 9 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 33 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ระยะที่ 3 การนำรูปแบบไปใช้และการประเมินผลรูปแบบ กลุ่มตัวอย่างในการประเมินพฤติกรรมด้านอุปนิสัยอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียน ได้แก่ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 3 คน ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 3 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 109 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 117 คน รวมทั้งสิ้น 232 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) กลุ่มตัวอย่างในการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบ ได้แก่ ครูผู้สอน โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ ในปีการศึกษา 2562 จำนวน 80 คน กำหนดขนาดตัวอย่างโดยใช้ตารางสำเร็จรูปของ เคร็จซี่และมอร์แกน และสุ่มตัวอย่างโดยใช้การสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบวิเคราะห์ข้อมูล แบบสอบถามความคิดเห็น แบบประเมินพฤติกรรม และแบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และใช้สถิติค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมแบบองค์รวมทั้งบ้าน วัด และโรงเรียน (บวร) เพื่อเสริมสร้างอุปนิสัยอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ เทศบาลเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง พบว่า แนวทางการพัฒนาประเทศควรน้อมนำหลัก “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นปรัชญานำทางในการพัฒนาประเทศ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยให้สังคมไทยสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง พัฒนาประเทศสู่ความสมดุลและยั่งยืน โดยยึดคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา ซึ่งรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนต้องร่วมมือกันในการจัดการศึกษาทุกระดับ โดยยึดหลักการศึกษาตลอดชีวิต ที่สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้ การจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ เป็นพันธกิจที่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของสังคมทุกภาคส่วน รัฐจึงต้องให้ความสำคัญและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน สถาบันศาสนา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถาบันสังคมอื่นในการจัดการศึกษา ดังนั้น การบริหารจัดการสถานศึกษาควรยึดหลักการมีส่วนร่วมแบบองค์รวมทั้งบ้าน วัด และโรงเรียน (บวร) ซึ่งเป็นสามสถาบันหลักในชุมชนและเป็นตัวเชื่อมโยงกิจกรรมในชุมชนทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาเป็นกลไกในการบริหารจัดการศึกษาในสถานศึกษาให้มีความมั่นคงและยั่งยืน นอกจากนี้ สถานศึกษาควรเน้นการดำเนินการพัฒนาการจัดกิจกรรมต่าง ๆ

ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของนักเรียนและวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น และนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาบูรณาการในการจัดการเรียนการสอนและการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างอุปนิสัยอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนทั้งในด้านวัตถุ ด้านสังคม ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านวัฒนธรรม

2. รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมแบบองค์รวมทั้งบ้าน วัด และโรงเรียน (บวร) เพื่อเสริมสร้างอุปนิสัยอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ เทศบาลเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ที่พัฒนาขึ้น มีชื่อว่า "PODCC Model" ประกอบด้วย หลักการ วัตถุประสงค์ ขั้นตอนการบริหารจัดการสถานศึกษา และเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ ขั้นตอนการบริหารจัดการสถานศึกษา มี 5 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 Planning : P การวางแผน ขั้นที่ 2 Organizing : O การจัดองค์การ ขั้นที่ 3 Doing : D การปฏิบัติการเรียนการสอน ขั้นที่ 4 Coordinating : C การประสานงาน และขั้นที่ 5 Controlling : C การควบคุม ผลการตรวจสอบรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมแบบองค์รวมทั้งบ้าน วัด และโรงเรียน (บวร) แบบ "PODCC Model" พบว่า มีความสมเหตุสมผล และโดยภาพรวม รูปแบบมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด

3. พฤติกรรมด้านอุปนิสัยอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนในโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ จากการใช้รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมแบบองค์รวมทั้งบ้าน วัด และโรงเรียน (บวร) แบบ "PODCC Model" โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

4. ความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมแบบองค์รวมทั้งบ้าน วัด และโรงเรียน (บวร) แบบ "PODCC Model" โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย kratai : [1 มี.ค. 2564 เวลา 12:12 น.]
อ่าน [2759] ไอพี : 118.174.101.189
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,572 ครั้ง
เคล็ดลับการดูแลเท้า
เคล็ดลับการดูแลเท้า

เปิดอ่าน 15,182 ครั้ง
พลาสติกห่อหุ้มอาหาร ภัยร้ายต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง!
พลาสติกห่อหุ้มอาหาร ภัยร้ายต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง!

เปิดอ่าน 13,143 ครั้ง
เรียนยังไงให้ "เก่ง" และต้องเก่งกว่าครูบาอาจารย์ คำแนะนำจากนักเรียนทุนชื่อ "ดร.ป๋วย"
เรียนยังไงให้ "เก่ง" และต้องเก่งกว่าครูบาอาจารย์ คำแนะนำจากนักเรียนทุนชื่อ "ดร.ป๋วย"

เปิดอ่าน 13,264 ครั้ง
วิธีสำหรับทำให้ผิวขาวใส แบบไร้สารเคมี
วิธีสำหรับทำให้ผิวขาวใส แบบไร้สารเคมี

เปิดอ่าน 48,944 ครั้ง
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางการฯ 2551 ชั้นป. 6
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางการฯ 2551 ชั้นป. 6

เปิดอ่าน 8,392 ครั้ง
เลือกนอน ให้ถูกท่าทาง
เลือกนอน ให้ถูกท่าทาง

เปิดอ่าน 22,737 ครั้ง
5 สิ่งที่มนุษย์ต้องมี ก่อนเป็นส่วนเกินในสังคมหุ่นยนต์
5 สิ่งที่มนุษย์ต้องมี ก่อนเป็นส่วนเกินในสังคมหุ่นยนต์

เปิดอ่าน 17,418 ครั้ง
ดวงอาทิตย์ (The Sun)
ดวงอาทิตย์ (The Sun)

เปิดอ่าน 16,300 ครั้ง
หากสงสัยว่าเป็นโรคไขมันในตับให้กินผักชีล้อม
หากสงสัยว่าเป็นโรคไขมันในตับให้กินผักชีล้อม

เปิดอ่าน 19,311 ครั้ง
ผลจากการเปลี่ยนแปลงความกดบรรยากาศ
ผลจากการเปลี่ยนแปลงความกดบรรยากาศ

เปิดอ่าน 13,058 ครั้ง
7 วิธีป้องกันโรคหัวใจวาย
7 วิธีป้องกันโรคหัวใจวาย

เปิดอ่าน 15,009 ครั้ง
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ

เปิดอ่าน 14,108 ครั้ง
ประโยชน์ของมังคุด ราชินีแห่งผลไม้ไทยที่ต้องลิ้มลอง
ประโยชน์ของมังคุด ราชินีแห่งผลไม้ไทยที่ต้องลิ้มลอง

เปิดอ่าน 16,648 ครั้ง
สรรพคุณของ "เสลดพังพอนตัวผู้"
สรรพคุณของ "เสลดพังพอนตัวผู้"

เปิดอ่าน 13,199 ครั้ง
คลิปสุดฮา ฝรั่งเผยโดนคนไทยด่าครั้งแรก
คลิปสุดฮา ฝรั่งเผยโดนคนไทยด่าครั้งแรก

เปิดอ่าน 42,872 ครั้ง
ประวัติศาสตร์ไทย
ประวัติศาสตร์ไทย
เปิดอ่าน 10,638 ครั้ง
เทคโนโลยีแห่งอนาคต ขับเคลื่อนสังคมโลกยุคใหม่!
เทคโนโลยีแห่งอนาคต ขับเคลื่อนสังคมโลกยุคใหม่!
เปิดอ่าน 334,631 ครั้ง
สุภาษิตอิศรญาณ
สุภาษิตอิศรญาณ
เปิดอ่าน 48,884 ครั้ง
ตัวอย่างใบงานจากการ์ตูนความรู้
ตัวอย่างใบงานจากการ์ตูนความรู้
เปิดอ่าน 10,547 ครั้ง
จัดการผมยุ่งเหยิงยามเช้าตรู่อย่างไรดี
จัดการผมยุ่งเหยิงยามเช้าตรู่อย่างไรดี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ