ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมคุณครูควรรู้ไว้  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก
พระสงฆ์กับความเป็นครู
คุณครูควรรู้ไว้ 15 ก.ย. 2551 เปิดอ่าน : 18,516 ครั้ง
☰แชร์เลย >  
เพิ่มเพื่อน
Advertisement

พระสงฆ์กับความเป็นครู
Advertisement

พระสงฆ์กับความเป็นครู

บทนำ


บุคคลที่ชาวโลกทั้งหลายยอมรับเทิดทูนบูชา กราบไหว้ด้วยความสนิทใจ ความเลื่อมใสให้ความเคารพ นอบน้อมด้วยกาย วาจา ใจ อย่างไม่มีเสื่อมคลาย ท่านผู้นั้นชาวโลกทั้งหลายให้นามว่า ครู

ครู ท่านผู้รู้ได้ให้ความหมายว่า ผู้สั่งสอนศิษย์ ผู้มีใจหนักแน่นเหมือนศิลา ผู้ควรแก่การเคารพ ผู้ลอยเด่นดุจพระจันทร์ที่ปราศจากเมฆหมอก ผู้เพรียบพร้อมไปด้วยความรู้และความประพฤติ บุคคลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นครู พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

พระองค์ได้รับพระสมัญญาจากชาวโลกว่า “สมเด็จพระบรมครู” เพราะพระองค์ประกอบด้วย พระคุณ 3ประการ คือ

  • พระมหากรุณาธิคุณ ทรงมีเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายอย่างหาประมาณมิได้
  • พระวิสุทธิคุณ ทรงมีความบริสุทธิ์สะอาด ทั้งทางกาย วาจา และใจ
  • พระปัญญาธิคุณ ทรงมีพระสติปัญญาล้ำเลิศที่ล่วงเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

และเพรียบพร้อมด้วยพระคุณทั้ง 9 คือ

1. เป็นผู้ห่างไกลจากิเลสเครื่องเศร้าหมองมีโลภ โกรธ หลง เป็นต้น

2. เป็นผู้ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เองไม่มีใครเป็นครู

3. เป็นผู้เพรียบพร้อมด้วยความรู้และอาจาระ

4. เป็นผู้เสด็จไปดี คือ เสด็จไปถึงที่ไหนก็ทรงนำความสุขไปสู่ที่นั้น ทรงรู้แจ้งโลก คือ ทรงรู้การจุติ การเกิด และการตายของสรรพสัตว์ทั้งหลาย

5. เป็นผู้ฝึกอบรมชี้แนะอันประเสริฐยากที่จะมีใครเสมอเหมือน

6. เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย คือ ทรงสั่งสอนประชาชนให้บรรลุประโยชน์ในชาตินี้ ประโยชน์ในชาติหน้า และประโยชน์อันสูงสุด คือ นิพพาน

7. เป็นผู้ตื่นอยู่เสมอ เบิกบานพระทัย คือ ทรงตรัสรู้อริยสัจ 4 ด้วยพระองค์เองแล้ว ทรงสอนผู้อื่นให้รู้ตาม

8. เป็นผู้แจกหรือจำแนกธรรม คือ ทรงจำแนกธรรมสำหรับมนุษย์และเทวดาซึ่งเรียกว่า มนุษยธรรมและเทวธรรม

9. เป็นพระสัพพัญญู คือ ทรงรู้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยพระปัญญาที่ไม่ติดขัดอันหาที่สุดมิได้ ชาวโลกจึงพร้อมใจกันถวายพระนามแด่พระองค์ว่า “สมเด็จพระบรมครู”

มารดาบิดา ได้รับการยกย่องจากชาวโลกว่า เป็นครูคนแรกของโลก เพราะท่านทั้งสองสอนให้บุตรธิดารู้จักเรียกบุคคลนั้นว่า ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อแม่ ลุง ป้า น้า อา สอนให้ละชั่ว ประพฤติดี ให้การศึกษาก่อนกว่าใครทั้งหมด ชาวโลกจึงยกย่องท่านทั้งสองว่า บุรพาจารย์ คือ เป็นครูคนแรกของโลก

ครู ผู้สอนในโรงเรียนอนุบาล ประถม และมัธยม ได้รับการยกย่องว่าเป็นพ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ของชาติ เป็นผู้สอนอักขระ พยัญชนะ พร้อมทั้งวิชาความรู้อันเป็นพื้นฐานในการศึกษาเล่าเรียนในชั้นสูงต่อไป เยาวชนของชาติจะมีคุณภาพ มีประสิทธิภาพ มีความรู้ดี และเพรียบพร้อมด้วยอาจาระก็ขึ้นอยู่กับครูเป็นสำคัญ เพราะรัฐบาลของทุกประเทศได้มอบหมายไว้วางใจให้ครูเป็นผู้สร้างเยาวชนของชาติ เพราะฉะนั้น ครูจึงได้รับการยกย่องว่าเป็น ทุติยาจารย์ เป็นครูคนที่สองของโลกรองลงมาจากมารดาบิดา

อาจารย์ผู้สอนในระดับอุดมศึกษา วิทยาลัยและมหาวิทยาลัย นับว่าเป็นผู้มีส่วนรับผิดชอบสูงในการที่จะผลิตบัณฑิตให้ออกไปรับใช้ประเทศชาติ แน่นอนที่สุดบัณฑิตนั้นจะต้องมีความรู้ความสามารถและมีศีลธรรมที่ดี มุ่งประโยชน์สังคมมากกว่าประโยชน์ตน เพื่อนำประเทศชาติบ้านเมืองไปสู่ความเจริญก้าวหน้าและมั่นคง จึงนับได้ว่า อาจารย์เป็นปูชนียบุคคลที่ควรยกย่องบูชาและได้รับสมญานามว่า ตติยาจารย์ คือ เป็นครูคนที่ 3 ของโลก

Advertisement

พระสงฆ์กับความเป็นครู

พระสงฆ์ได้ทำหน้าที่เป็นครูมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล เราจะเห็นได้ชัดก็สมัยพระพุทธเจ้า ทรงส่งพระสาวก 60 รูปออกไปประกาศพระศาสนายังดินแดนต่าง ๆ ทั่วอินเดีย เป็นการประกาศความเป็นครูครั้งแรกของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ตั้งแต่นั้นมา พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา และนักบวชของศาสนาพราหมณ์ได้ทำหน้าที่ให้การศึกษาแก่กุลบุตรกุลธิดาของชาวอินเดียควบคู่กันมาตลอด แต่การให้การศึกษาของทั้ง 2 ศาสนา แตกต่างกันคือ นักบวชของศาสนาพราหมณ์จะให้การศึกษาเฉพาะชนชั้น 3 วรรณะเท่านั้น คือ พราหมณ์ กษัตริย์ แพศย์ ยกเว้นวรรณะศูทร แต่พุทธศาสนา พระสงฆ์ได้ให้การศึกษาแก่ทุกชนชั้นวรรณะ เป็นการจัดการศึกที่ให้ความเสมอภาคกันหมด จำเดิมแต่นั้นมา พระสงฆ์ได้ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ให้ความรู้ที่จะนำไปประกอบอาชีพและให้คุณธรรม คือ ความประพฤติดีปฏิบัติชอบ สำหรับเป็นเครื่องอุปถัมภ์ค้ำจุนวิชาชีพให้เจริญรุ่งเรืองและคงอยู่ตลอดไป

แม้บางครั้งบางสมัย บทบาทแห่งความเป็นผู้นำทางด้านการศึกษา และทางด้านวิญญาณที่จะถูกลดลงไปบ้างก็ตาม แต่พระสงฆ์ท่านก็พยายามที่จะรักษาบทบาทนี้ไว้เท่าที่ความสามารถจะพึงมีทั้งนี้เพื่อความเจริญมั่นคงของประเทศชาติและเพื่อความสงบสุขของประชาชน

คุณสมบัติของความเป็นครู

พระสงฆ์ที่เป็นครู ต้องตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบในความเป็นครู ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมบทบาทของตัวเอง อีกอย่างหนึ่งก็คือ ความเป็นพระจะต้องประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เพราะพระสงฆ์ไม่เหมือนครูทั่ว ๆ ไปจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการวิชาต่าง ๆ และเทคนิคในการถ่ายทอด มีความประพฤติที่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ นอกจากนี้แล้ว จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้

ก. เป็นกัลยาณมิตร คือ ประกอบด้วยองค์คุณของกัลยาณมิตรหรือกัลยาณธรรม 7 ประการคือ

1. ปิโย น่ารัก คือ เข้าถึงจิตใจ สร้างความรู้สึกสนิทสนมเป็นกันเอง ชวนให้ผู้เรียนอยากเข้าไปปรึกษาหรือไต่ถาม

2. ครุ น่าเคารพ คือ มีความประพฤติสมควรแก่ฐานะทำให้รู้สึกอบอุ่นใจ เป็นที่พึ่งได้และปลอดภัย

3. ภาวนีโย น่าเจริญใจ คือ มีความรู้จริงทรงภูมิปัญญาแท้จริง เป็นผู้ฝึกอบรมตนอยู่เสมอ เป็นที่น่ายกย่องเอาอย่าง

4. วัตตา รู้จักพูด คือ รู้จักชี้แจงให้เข้าใจ รู้ว่าเมื่อไหร่ควรพูดอย่างไร แนะนำว่ากล่าวตักเตือนอย่างไร เป็นที่ปรึกษาที่ดี

5. วจนักขโม อดทนต่อถ้อยคำ คือ พร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษาซักถาม

6. คัมภีรัญจะ กะถัง กัตตา แถลงเรื่องล้ำลึกได้ คือ กล่าวชี้แจงเรื่องต่าง ๆ ที่ลึกให้ตื่นได้ และสอนศิษย์ให้รู้เรื่องราวที่ลึกซึ่งยิ่ง ๆ ขึ้น

7. โน จัฏฐาเน นิโยชเย ไม่ชักนำในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ คือ ไม่ชักจูงในทางเสื่อมเสีย แนะนำในทางดีเสมอ

 

ข. ตั้งใจประสิทธิ์ประสาธน์ความรู้ โดยตั้งตนอยู่ในธรรมที่เรียกว่า ธรรมเทสกธรรม 5 ประการ คือ

1. อนุปุพพิกถา สอนให้มีขั้นตอนถูกลำดับ คือ แสดงหลักธรรมหรือเนื้อหาตามลำดับ ความง่ายยาก ลุ่มลึก มีเหตุผล สัมพันธ์ต่อเนื่องกันไปโดยลำดับ

2. ปริยายทัสสาวี จับจุดสำคัญมาขยายให้เข้าใจเหตุผล คือ ชี้แจงยกเหตุผลมาให้เข้าใจในแต่ละประเด็น ให้มองให้เห็นกระจ่างตามแนวเหตุผล

3. อนุทยตา ตั้งจิตเมตตาสอนด้วยความปรารถนาดี คือ สอนเขาด้วยเมตตา มุ่งจะให้ประโยชน์แก่ผู้รับคำสอน

4. อนามิสันดร ไม่เห็นแก่อามิสสินจ้าง คือ สอนเขามิใช่มุ่งที่จะได้ลาภ หรือ ผลประโยชน์ตอบแทน

5. อนุปหัจจ์ วางจิตตรงไม่กระทบตนและผู้อื่น คือ สอนตามหลักตามเนื้อหามุ่งแสดงอรรถ แสดงธรรมไม่ยกตนเสียดสีผู้อื่น

 

ค. การดำเนินลีลาครูทั้งสี่ ครูที่สามารถมีลีลาของนักสอน ดังนี้

1. สันทัสสนา ชี้ชัด จะสอนอะไรก็ชี้แจงเหตุผลแยกแยะอธิบายให้ผู้ฟังเข้าใจแจ่มแจ้ง ดังจูงมือไปดูให้เห็นกับตา

2. สมาทปนา ชวนให้ปฏิบัติ คือ สิ่งใดควรทำก็บรรยายให้มองเห็นความสำคัญและซาบซึ้งให้คุณค่าเป็นสมจริง จนผู้ฟังยอมรับอยากลองทำ หรือนำไปปฏิบัติ

3. สมุตเชนา เร้าให้กล้า คือ ปลุกใจ ให้คึกคักเกิดความกระตือรือร้น มีกำลังใจ เข้มแข็งมั่นในที่จะทำให้สำเร็จ ไม่กลัวเหน็ดเหนื่อยหรือยากลำบาก

4. สัมปหังสนา ปลุกให้ร่าเริง คือ ทำบรรยากาศให้สนุกสดชื่นแจ่มใสเบิกบานใจให้ผู้ฟังแช่มชื่นมีความหวัง มองเห็นผลดี และทางสำเร็จ

 

ง. มีหลักตรวจสอบสามอย่าง เมื่อพูดอย่างรวบรัดที่สุด ครูอาจตรวจสอบตนเองด้วยลักษณะการสอนของบรมครู 3 ประการ คือ

1. สอนด้วยความรู้จริง ทำได้จริงจึงสอนเขา

2. สอนอย่างมีเหตุผล ให้เขาพิจารณาเข้าใจแจ่มแจ้งด้วยปัญญาของเขาเอง

3. สอนให้ได้ผลจริง สำเร็จความมุ่งหมายของเรื่องที่สอนนั้น ๆ เช่น ให้เข้าใจได้จริงเห็นความจริง ทำได้จริงนำไปปฏิบัติได้ผลจริง เป็นต้น

 

จ.ทำหน้าที่ของครูต่อศิษย์ คือ ปฏิบัติต่อศิษย์โดยอนุเคราะห์ตามหลักธรรมเสมือนเป็น ทิศเบื้องขวา ดังนี้

1. แนะนำฝึกอบรมให้เป็นคนดี

2. สอนให้เข้าใจแจ่มแจ้ง

3. สอนศิลปวิทยาให้สิ้นเชิง

4. ส่งเสริมยกย่องความดีความงามสามารถให้ปรากฏ

5. สร้างเครื่องคุ้มภัยในสารทิศ คือ ฝึกสอนให้สามารถใช้วิชาเลี้ยงชีพและรู้จักดำรงรักษาตนในอันที่จะดำเนินชีวิตไปด้วยดี

 

บทสรุป พระสงฆ์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำทางด้านการศึกษาและทางด้านจิตใจอันได้นามว่าครูแล้ว ยังจะต้องเป็นผู้ใฝ่ใจแสวงหาความรู้อยู่ตลอดเวลา สนใจข่าวในประเทศและต่างประเทศ เพื่อปรับตัวเองให้เป็นผู้ตื่นตัวอยู่เสมอให้สมกับความเป็นครู

อีกประการหนึ่ง พระสงฆ์ที่เป็นครูจะต้องวางตัวให้เหมาะสมเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ได้ และเป็นที่ปลูกศรัทธาให้เกิดแก่ผู้พบเห็น ตลอดทั้งมีความรู้ดี มีความสามารถดี ผู้เขียนมีความเชื่อมั่นว่า พระสงฆ์ท่านมีเวลาและโอกาสว่างพอสมควร ถ้าหากท่านได้รับความอุปถัมภ์บำรุงสนับสนุนส่งเสริมในด้านการศึกษาอย่างเพียงพอ โดยรัฐยื่นมือเข้ามาให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แล้ว พระสงฆ์จะช่วยให้ประเทศชาติและพระศาสนาได้ดีและได้มากทีเดียว เพราะพระสงฆ์เองท่านก็ตระหนักอยู่เสมอว่า ท่านได้รับการบำรุงด้วยปัจจัย 4 จากประชาชนทั่วไป ท่านจะช่วยเหลือทันทีเมื่อท่านมีเวลาและมีโอกาส โดยถือว่าท่านเป็นลูกหนี้ของสังคม เมื่อสังคมเดือดร้อน ท่านจะต้องถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องช่วยเหลือเท่าที่ความรู้ความสามารถและโอกาสจะอำนวย

แต่ความจริงก็ปรากฏให้เห็นในปัจจุบันนี้ว่ารัฐและคณะสงฆ์เองไม่ได้ให้ความสนใจอย่างแท้จริงผลก็ปรากฏว่าเราไม่มีพระที่มีความรู้ความสามารถที่จะสอนประชาชนและเด็กตามโรงเรียนต่างๆซึ่งมีหลายโรงเรียนที่ขอมาแต่พระสงฆ์ก็ไม่สามารถจะสนองความต้องการของโรงเรียนต่างๆได้ถึงเวลาแล้วหรือยังที่รัฐจะหันมาให้ความสนใจถวายความอุปถัมภ์การศึกษาของคณะสงฆ์อย่างจริงจัง หรือจะรอให้ทางโรงเรียนต่าง ๆ ไปเชิญผู้เชี่ยวชาญทาง พระพุทธศาสนาซึ่งสังกัดอยู่ในศาสนาอื่นเข้ามาสอนแทนก็ให้ว่ามา (พระมหาบุญถึง ชุตินธโร. บทความเสียงธรรม : 10-13).


TAGS ที่เกี่ยวข้อง >> พระสงฆ์กับความเป็นครู << คลิกอ่านเพิ่มเติม

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ภาพรวมวันหยุดราชการประจำปี และ การกำหนดให้วันที่ 4 พฤษภาคม เป็นวันฉัตรมงคล

ภาพรวมวันหยุดราชการประจำปี และ การกำหนดให้วันที่ 4 พฤษภาคม เป็นวันฉัตรมงคล
เปิดอ่าน 11,538 ครั้ง
ประเภทของใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

ประเภทของใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
เปิดอ่าน 75,160 ครั้ง
แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัย3 - 6 ปี สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง

แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัย3 - 6 ปี สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง
เปิดอ่าน 8,223 ครั้ง
 กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รับเงินเดือนในอัตรากำลังทดแทน พ.ศ.2551

กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รับเงินเดือนในอัตรากำลังทดแทน พ.ศ.2551
เปิดอ่าน 23,622 ครั้ง
ร่าง พรฎ.ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ....

ร่าง พรฎ.ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ....
เปิดอ่าน 18,964 ครั้ง
แนะนำ 10 เครื่องมือดี ๆ ช่วยครูในการสอนออนไลน์

แนะนำ 10 เครื่องมือดี ๆ ช่วยครูในการสอนออนไลน์
เปิดอ่าน 4,420 ครั้ง
แนวทางการจัดทำข้อมูล DMC ปีการศึกษา 2563

แนวทางการจัดทำข้อมูล DMC ปีการศึกษา 2563
เปิดอ่าน 7,352 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่7

ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่7
เปิดอ่าน 6,225 ครั้ง
(ร่าง)กรอบทิศทางแผนการศึกษาชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔

(ร่าง)กรอบทิศทางแผนการศึกษาชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๔
เปิดอ่าน 7,876 ครั้ง
การกำหนดภาระการสอนขั้นต่ำของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน

การกำหนดภาระการสอนขั้นต่ำของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน
เปิดอ่าน 251,680 ครั้ง
ดาวน์โหลด Powerpoint การประชุม กศจ.ภาคใต้ และประเด็นน่าสนใจที่ครูควรรู้

ดาวน์โหลด Powerpoint การประชุม กศจ.ภาคใต้ และประเด็นน่าสนใจที่ครูควรรู้
เปิดอ่าน 11,075 ครั้ง
บัญชีเงินเดือนข้าราชการครู

บัญชีเงินเดือนข้าราชการครู
เปิดอ่าน 145,078 ครั้ง
คู่มือตั้งงบ 58 (ฉบับแก้ไข)

คู่มือตั้งงบ 58 (ฉบับแก้ไข)
เปิดอ่าน 11,119 ครั้ง
สมรรถนะของครู

สมรรถนะของครู
เปิดอ่าน 448,273 ครั้ง
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2548

ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2548
เปิดอ่าน 32,801 ครั้ง
Advertisement


:: เรื่องปักหมุด ::

เงินเดือน-ค่าตอบแทน ของอาชีพต่างๆ ในประเทศไทย
เงินเดือน-ค่าตอบแทน ของอาชีพต่างๆ ในประเทศไทย
เปิดอ่าน 69,972 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
การจัดทำสัญญาอนุญาตให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษาต่อภายในประเทศ
การจัดทำสัญญาอนุญาตให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษาต่อภายในประเทศ
เปิดอ่าน 10,400 ☕ คลิกอ่านเลย

สื่ออิเล็กทรอนิกส์ชุด "หลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี" ของสำนักงาน ก.พ.ร.
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ชุด "หลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี" ของสำนักงาน ก.พ.ร.
เปิดอ่าน 10,035 ☕ คลิกอ่านเลย

คู่มือการจัดทำแผนชั้นเรียนรายปีและแผนชั้นเรียนเต็มรูปของสถานศึกษา สังกัด สพฐ.
คู่มือการจัดทำแผนชั้นเรียนรายปีและแผนชั้นเรียนเต็มรูปของสถานศึกษา สังกัด สพฐ.
เปิดอ่าน 32,180 ☕ คลิกอ่านเลย

นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2558
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2558
เปิดอ่าน 13,093 ☕ คลิกอ่านเลย

PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาระเทคโนโลยี
PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาระเทคโนโลยี
เปิดอ่าน 8,260 ☕ คลิกอ่านเลย

ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา
เปิดอ่าน 43,709 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

กฎสามส่วน (Rule of Third)
กฎสามส่วน (Rule of Third)
เปิดอ่าน 39,639 ครั้ง

สามัคคีทวิตเตอร์ สร้างเครือข่ายแก้วิกฤติชาติ
สามัคคีทวิตเตอร์ สร้างเครือข่ายแก้วิกฤติชาติ
เปิดอ่าน 8,381 ครั้ง

กินถั่วช่วยคุ้มกัน โรคมะเร็ง-หัวใจ
กินถั่วช่วยคุ้มกัน โรคมะเร็ง-หัวใจ
เปิดอ่าน 12,201 ครั้ง

ดูแลสุขภาพแบบไทย
ดูแลสุขภาพแบบไทย
เปิดอ่าน 13,051 ครั้ง

คึกคัก! นักท่องเที่ยวแห่ชม แมงกะพรุนหลากสี จ.ตราด ห้องพักเต็ม
คึกคัก! นักท่องเที่ยวแห่ชม แมงกะพรุนหลากสี จ.ตราด ห้องพักเต็ม
เปิดอ่าน 14,726 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย


เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

  • IELTS Test
  • SAT Test
  • สอบ IELTS
  • สอบ TOEIC
  • สอบ SAT
  • เว็บไซต์พันธมิตร

  • IELTS
  • TOEIC Online
  • chulatutor
  • เพลงเด็กอนุบาล
  •  
    หมวดหมู่เนื้อหา
    เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


    · Technology
    · บทความเทคโนโลยีการศึกษา
    · e-Learning
    · Graphics & Multimedia
    · OpenSource & Freeware
    · ซอฟต์แวร์แนะนำ
    · การถ่ายภาพ
    · Hot Issue
    · Research Library
    · Questions in ETC
    · แวดวงนักเทคโนฯ

    · ความรู้ทั่วไป
    · คณิตศาสตร์
    · วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    · ภาษาต่างประเทศ
    · ภาษาไทย
    · สุขศึกษาและพลศึกษา
    · สังคมศึกษา ศาสนาฯ
    · ศิลปศึกษาและดนตรี
    · การงานอาชีพ

    · ข่าวการศึกษา
    · ข่าวตามกระแสสังคม
    · งาน/บริการสังคม
    · คลิปวิดีโอยอดนิยม
    · เกมส์
    · เกมส์ฝึกสมอง

    · ทฤษฎีทางการศึกษา
    · บทความการศึกษา
    · การวิจัยทางการศึกษา
    · คุณครูควรรู้ไว้
    · เตรียมประเมินวิทยฐานะ
    · ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
    · เครื่องมือสำหรับครู

    ครูบ้านนอกดอทคอม

    เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

          kroobannok.com

    © 2000-2020 Kroobannok.com  
    All rights reserved.


    Design by : kroobannok.com


    ครูบ้านนอกดอทคอม
    การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

    วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
     

    ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

    เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

    Email : kornkham@hotmail.com
    Tel : 081-3431047

    สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
    คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ