ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์

เรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้

ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ปีการศึกษา 2562

ชื่อผู้วิจัย นายปิลันธน์ สระแก้ว

ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ปีการศึกษา 2562 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยการผสมผสานวิธีวิจัยชิงปริมาณ (Quantitative Method) และวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Method) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษา เพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ เพื่อศึกษาประสิทธิผลของสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ ที่มีต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ เพื่อเปรียบเทียบการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษา เพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย เป็นประชากร ในปีการศึกษา 2562 โดยวิธีคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยแยกเป็นกลุ่มเป้าหมาย คือ ครูปฏิบัติการ จำนวน 3 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 9 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 23 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ปีการศึกษา 2562 คือ 1) แบบสอบถามเกี่ยวกับรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ 2) แบบสอบถามเกี่ยวกับประสิทธิผลของสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ 3) แบบสอบถามเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ4) แบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองต่อการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ปีการศึกษา 2562

สรุปผลการวิจัย 1. การวิเคราะห์รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โดยรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม พบว่า รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โดยรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.60 S.D.= 0.3) เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1การกระจายอำนาจและการให้อำนาจในการตัดสินใจ ด้านที่ 2 ความไว้วางใจกัน และด้านที่ 5การให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนและทันสมัยต่อทุกคนที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ มีระดับการบริหารแบบมีส่วนร่วมคือ ( = 4.65 D.=0.33) รองลงมา คือ ด้านที่ 4 ความเป็นอิสระที่จะรับผิดชอบและสามารถดูแลตนเองได้ คือ ( = 4.60 S.D = 0.35) ตามลำดับ นั้นแสดงว่า ครูมีทักษะความรู้ ทักษะปฏิบัติ ทักษะความเข้าใจและทักษะมิติความสัมพันธ์ของวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่วางไว้และปฏิบัติงานสูงขึ้น สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน เป็นไปตามสมมติฐานข้อ 1 2. การศึกษาประสิทธิผลของสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ พบว่า ระดับการปฏิบัติงาน ประสิทธิผลของสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ ที่เกิดจากการบริหารแบบมีส่วนร่วมในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.53 S.D. = 0.40) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านที่ 4 ด้านความสามารถในการแก้ไขปัญหาภายในสถานศึกษา โดยผู้บริหารและครูร่วมกันวางแผนกลยุทธ์และบริหารสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประสิทธิผล ส่งผลให้ครูมีการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ ผู้บริหารและครูร่วมกันสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในโรงเรียนได้ เช่น ด้านการใช้หลักสูตรสถานศึกษา การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน หรือพฤติกรรมของนักเรียน และผู้บริหารและครูร่วมมือ กันในการปฏิบัติงานและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โรงเรียนครอบคลุมทุกด้านเพื่อคุณภาพผู้เรียน มีค่า ( = 4.65 S.D. = 0.30) รองลงมา คือ ด้านที่ 2 ด้านความสามารถในการพัฒนานักเรียนให้มีทัศนคติทางบวก โดยครูปฏิบัติงานพัฒนาส่งเสริมให้นักเรียนมีเหตุผล และยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นครูปฏิบัติงานพัฒนาส่งเสริมให้นักเรียนมาสถานศึกษาสม่ำเสมอใฝ่รู้ใฝ่เรียน รักการเรียนและทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข และครูปฏิบัติงานพัฒนาส่งเสริมให้นักเรียนเห็นประโยชน์จากการอ่าน และการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองอย่างกว้างขวางในโลกแห่งยุค 4.0 มีค่า ( = 4.55 S.D. = 0.45)ตามลำดับ นั้นแสดงว่า ครูมีความรู้ทักษะความสามารถนำทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดและมีคุณค่าขับเคลื่อนประสิทธิผลสถานศึกษาให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้ของครูที่มีประสิทธิภาพทำให้ผู้เรียนมีคุณภาพด้านผลสัมฤทธิ์ได้จริง เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 2 3. ผลการเปรียบเทียบการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า การจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในภาพรวมก่อนการวิจัย มีค่าเฉลี่ย ( =3.37 S.D.= 0.50) และหลังการวิจัยค่าเฉลี่ย ( = 4.75 S.D.= 0.38) เมื่อพิจารณา พบว่า หลังการวิจัยสูงกว่าก่อนการวิจัย นั่นแสดงว่า การจัดการเรียนรู้ เป็นกลวิธีการบริหารจัดการเรียนรู้ของผู้บริหารและครูที่ปฏิบัติงานเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปสู่เป้าหมายคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ได้จริง และเมื่อวิเคราะห์ผลการเปรียบเทียบการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนและหลังการวิจัย โดยใช้ t- test พบว่า การจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการวิจัยสูงกว่าก่อนการวิจัย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานข้อ 3 4. ผลความพึงพอใจครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ปีการศึกษา 2562 พบว่า ความพึงพอใจครู คณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ปีการศึกษา 2562 ในภาพรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 4 และเมื่อศึกษาความพึงพอใจจากประชากรกลุ่มเป้าหมายแยกเป็นรายกลุ่ม ดังนี้ 1. ระดับความพึงพอใจของครู ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.75 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.38 และเมื่อวิเคราะห์ผลความพึงพอใจในทุกด้าน พบว่า ครู มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุดในทุกด้าน 2. ระดับความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ อยู่ในระดับพอใจมากมีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.53 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.40 และเมื่อวิเคราะห์ผลความพึงพอใจในทุกด้าน พบว่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุดในทุกด้าน 3. ระดับความพึงพอใจของผู้ปกครอง ที่มีต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.50 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.50 และเมื่อวิเคราะห์ผลความพึงพอใจในทุกด้าน พบว่า ผู้ปกครองมีความพึงพอใจมากที่สุดในทุกด้านนั่นแสดงว่า ครู คณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง มีความรู้สึกพึงพอใจที่ได้ตามความต้องการที่เห็นผู้เรียนมีคุณภาพด้านผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการและคุณลักษณะที่พึงประสงค์อันส่งผลถึงประโยชน์ต่อผู้เรียน ครู โรงเรียนและชุมชน สังคม ท้องถิ่น ประเทศชาติได้อย่างแท้จริง จากผลการวิจัย การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ปีการศึกษา 2562 บรรลุวัตถุประสงค์ของการวิจัย เป็นไปตามสมมติฐานที่วางไว้ ซึ่งผลการวิจัยครั้งนี้ เป็นประโยชน์ทางวิชาชีพสำหรับผู้บริหาร อย่างกว้างขวาง อันก่อให้เกิดประโยชน์ผลปรากฏชัดตามที่ กระทรวงศึกษาธิการได้วางเป้าหมายมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ คือ คุณภาพผู้เรียน ด้านผลสัมฤทธิ์ ผลการวิจัยนี้นอกจากจะทำให้บรรลุผลด้านคุณภาพการศึกษาเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน ครู โรงเรียนดอนสำราญ และชุมชนบ้านดอนสำราญ ได้จริงและสิ้น ปีการศึกษา 2562 ผลงานที่เกิดกับผู้เรียน จากข้อมูล ปพ.5 ในปี 2562 ได้ตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน แล้วยังสูงกว่าปีการศึกษา 2561 และที่สำคัญคะแนนผลทดสอบระดับชาติ NT และ O-NET ปีการศึกษา 2562 สูงกว่า ปี 2561 และได้มาตรฐานชาติที่กำหนดถึงแม้นักเรียนบ้านดอนสำราญ จะเป็นโรงเรียนขนาดเล็กมีครูเพียงจำนวน 3 คนและมีจำนวนนักเรียนไม่มากก็ตาม และผลการวิจัยครั้งนี้ เมื่อสถานศึกษาอื่น ๆ ที่จะนำไปพัฒนาจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน ครู โรงเรียน และชุมชน ได้อย่างแท้จริงต่อไป

โพสต์โดย นายปิลันธน์ สระแก้ว : [31 มี.ค. 2564 เวลา 10:58 น.]
อ่าน [3212] ไอพี : 183.88.231.3
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,807 ครั้ง
ประกาศสงกรานต์ ปี ๒๕๕๒
ประกาศสงกรานต์ ปี ๒๕๕๒

เปิดอ่าน 15,444 ครั้ง
ชาวเน็ตชื่นชมมาก วงดนตรีเด็ก ร.ร.เล็กในทุ่งกว้าง
ชาวเน็ตชื่นชมมาก วงดนตรีเด็ก ร.ร.เล็กในทุ่งกว้าง

เปิดอ่าน 19,491 ครั้ง
เหรียญปราบฮ่อ
เหรียญปราบฮ่อ

เปิดอ่าน 27,364 ครั้ง
E-mail Scams คืออะไร?
E-mail Scams คืออะไร?

เปิดอ่าน 20,038 ครั้ง
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า

เปิดอ่าน 3,205 ครั้ง
กระทรวงศึกษาธิการ ปลดล็อคการศึกษาไทย พลิกฟื้นวิกฤติด้วยนโยบาย "ซ่อม สร้าง ป้องกัน"
กระทรวงศึกษาธิการ ปลดล็อคการศึกษาไทย พลิกฟื้นวิกฤติด้วยนโยบาย "ซ่อม สร้าง ป้องกัน"

เปิดอ่าน 87,323 ครั้ง
แบบฟอร์มขอมีบัตรข้าราชการ ต่าง ๆ
แบบฟอร์มขอมีบัตรข้าราชการ ต่าง ๆ

เปิดอ่าน 28,708 ครั้ง
ม.44 ศธ. เรื่องข่าวลือที่สร้างความเข้าใจผิด
ม.44 ศธ. เรื่องข่าวลือที่สร้างความเข้าใจผิด

เปิดอ่าน 31,826 ครั้ง
"ฮาร์เล็ม เชค (Harlem Shake)" ขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดแล้ว มาชมคลิปกันครับ
"ฮาร์เล็ม เชค (Harlem Shake)" ขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดแล้ว มาชมคลิปกันครับ

เปิดอ่าน 13,192 ครั้ง
ภัยลิปสติกเจล เสี่ยงมะเร็ง!
ภัยลิปสติกเจล เสี่ยงมะเร็ง!

เปิดอ่าน 21,486 ครั้ง
คุณสมบัติของ e-Learning
คุณสมบัติของ e-Learning

เปิดอ่าน 14,659 ครั้ง
อบเชย
อบเชย

เปิดอ่าน 16,851 ครั้ง
ติดตั้งสายดินปักขวด อันตราย
ติดตั้งสายดินปักขวด อันตราย

เปิดอ่าน 13,316 ครั้ง
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ

เปิดอ่าน 128,418 ครั้ง
น้ำค้างเกิดขึ้นจากอะไร
น้ำค้างเกิดขึ้นจากอะไร

เปิดอ่าน 3,940 ครั้ง
ทำไมอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นผู้เล่นใหญ่ในเศรษฐกิจของหลายประเทศ
ทำไมอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นผู้เล่นใหญ่ในเศรษฐกิจของหลายประเทศ
เปิดอ่าน 20,276 ครั้ง
20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์
20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์
เปิดอ่าน 74,844 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด (ฉบับปรับปรุง)
ดาวน์โหลดเอกสารแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด (ฉบับปรับปรุง)
เปิดอ่าน 10,536 ครั้ง
วิธีตรวจเช็คระบบไฟฟ้า-อาคาร หลังน้ำลด
วิธีตรวจเช็คระบบไฟฟ้า-อาคาร หลังน้ำลด
เปิดอ่าน 47,586 ครั้ง
111 ประโยคอังกฤษสั้นๆ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา
111 ประโยคอังกฤษสั้นๆ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ