ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อเสริมสร้าง ทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้ร

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเพื่อ

ความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้

KRUTIP Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อผู้วิจัย นางทิพยาภรณ์ สมปอง

ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2563

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” เทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ปีการศึกษา 2563 มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการพัฒนาการอ่าน การจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” เทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ 2) เพื่อสร้างและหาคุณภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ร้อยละ 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ เรื่อง การอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

4) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของนักเรียนที่เรียน เรื่อง การอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน เรื่อง การอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” สังกัดเทศบาลเมืองสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 31 คนได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) กำหนดระยะเวลาในการทดลอง 15 ชั่วโมง รูปแบบของการทดลองใช้แบบแผนการทดลอง One Group Pre –test Post-test Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถามความคิดเห็น 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. นักเรียน ครู และผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับบทความ นิทาน และเพลง การออกแบบการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด ผลการปรับโครงสร้างเวลาเรียนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยภาพรวมมีความต้องการเรียน เรื่อง การอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model เมื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ด้านสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรรายวิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้แก่สาระที่ 1 การอ่าน โดยเนื้อหาที่นำมาอ่านมีหลากหลาย และเห็นควรให้เพิ่มการฝึกการอ่านนอกเวลา เพื่อให้นักเรียนสามารถอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สามารถสรุปความรู้ ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และสร้างนิสัยรักการอ่านการค้นคว้า มีพื้นฐานด้านการคิดที่ดีทำให้การเรียนรู้มีความทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ และสามารถนำไปเป็นพื้นฐานการเรียนรู้และเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รูปแบบการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมี 6 ขั้นตอน ได้แก่ กระบวนการเรียนรู้ 6 ขั้นตอนของ KRUTIP Model ได้แก่ ขั้นที่ 1 K (Knowledge) ขั้นการเรียนรู้, ขั้นที่ 2 R (Reading) ขั้นอ่านและตรวจสอบความเข้าใจ, ขั้นที่ 3 U (Understand) ขั้นเข้าใจพร้อมปฏิบัติภาระงาน, ขั้นที่ 4 T (Team) ขั้นปฏิบัติภาระงานเป็นทีม, ขั้นที่ 5 I (Insert) ขั้นต่อเติมคำศัพท์ให้สมบูรณ์ และขั้นที่ 6 P (Performance) ขั้นปฏิบัติการตีความและประเมินชิ้นงาน ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวม

มีประสิทธิภาพ 87.35/86.55 (S.D. = 0.95, 0.54) มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80

เมื่อพิจารณารายวงจร พบว่า วงจรที่ 1 มีประสิทธิภาพ 86.92/85.81 (S.D. = 0.97, 0.49) วงจรที่ 2 มีประสิทธิภาพ 87.20/86.75 (S.D. = 0.93, 0.54) และ วงจรที่ 3 มีประสิทธิภาพ87.92/87.10 (S.D. = 0.94, 0.59) ตามลำดับ มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานทุกวงจร เมื่อพิจารณารายขั้นของรูปแบบ พบว่า ขั้นที่ 1-2 (K –R) มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 88.07 (S.D. = 0.70), ขั้นที่ 3 (U) มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 88.23 (S.D. = 1.02) , ขั้นที่ 4 (T) มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 88.07 (S.D. = 0.99), ขั้นที่ 5 (I )

มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 88.07 (S.D. = 1.02), และขั้นที่ 6 (P)มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 87.26 (S.D. = 0.96) ตามลำดับ

3. ผลการศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กำหนดเกณฑ์ผ่าน 80% ก่อนเรียน จำนวนนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ผ่านเกณฑ์ คิดเป็นร้อยละ16.13 ไม่ผ่านเกณฑ์ คิดเป็นร้อยละ 83.87 ( = 20.13 S.D. = 2.47) หลังเรียน จำนวนนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ คิดเป็นร้อยละ100.00 ( = 26.58 S.D. = 0.96) ก่อนเรียนนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เฉลี่ยร้อยละ 67.10 ( = 20.13 S.D. = 2.47) หลังเรียนนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เฉลี่ยร้อยละ 88.60 ( = 26.58 S.D. = 0.96) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ผลการศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าดัชนีปนระสิทธิผล เท่ากับ 0.4529 คิดเป็นร้อยละ 45.29

5. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 “เทศบาลอนุสรณ์” เทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ หลังใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่านเพื่อความเข้าใจ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.47 ,S.D.= 0.68) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมาก ถึง มากที่สุด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ รูปแบบการเรียนรู้ KRUTIP Model ส่งเสริมการอ่านเพื่อความเข้าใจและความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน, รองลงมาคือนักเรียนสร้างความรู้ด้วยตนเองด้วยอาศัยความร่วมมือจากกลุ่ม และ บรรยากาศในการเรียนการสอนมีความเป็นกันเอง ตามลำดับ

โพสต์โดย KruTip : [10 ก.ค. 2564 เวลา 22:13 น.]
อ่าน [64812] ไอพี : 182.232.91.191
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,208 ครั้ง
กระโดดเชือกแบบทีมเจ๋งๆ ลีลาเทพโคตร! ขอบอก
กระโดดเชือกแบบทีมเจ๋งๆ ลีลาเทพโคตร! ขอบอก

เปิดอ่าน 88,298 ครั้ง
วิธีทำ  น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ
วิธีทำ น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ

เปิดอ่าน 13,983 ครั้ง
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี

เปิดอ่าน 15,063 ครั้ง
คลิปอันดับ 1 ประกวดคลิป "ไข้เลือดออก"
คลิปอันดับ 1 ประกวดคลิป "ไข้เลือดออก"

เปิดอ่าน 32,411 ครั้ง
เกลือในทะเล มาจากไหน?
เกลือในทะเล มาจากไหน?

เปิดอ่าน 88,686 ครั้ง
ผักพื้นบ้าน 13 ชนิด ที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ไม่ทำลายตับ
ผักพื้นบ้าน 13 ชนิด ที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ไม่ทำลายตับ

เปิดอ่าน 24,191 ครั้ง
ตำนานพระโกศ
ตำนานพระโกศ

เปิดอ่าน 53,089 ครั้ง
หลักสูตรการสอบภาค ก ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558
หลักสูตรการสอบภาค ก ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558

เปิดอ่าน 13,275 ครั้ง
บัญญัติ 10 ประการอำพรางหุ่น
บัญญัติ 10 ประการอำพรางหุ่น

เปิดอ่าน 3,418 ครั้ง
วิธีขอใบกำกับภาษี 7-Eleven เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีผ่าน EASY E-Receipt
วิธีขอใบกำกับภาษี 7-Eleven เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีผ่าน EASY E-Receipt

เปิดอ่าน 5,355 ครั้ง
ทำไมอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นผู้เล่นใหญ่ในเศรษฐกิจของหลายประเทศ
ทำไมอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นผู้เล่นใหญ่ในเศรษฐกิจของหลายประเทศ

เปิดอ่าน 13,243 ครั้ง
เจาะนวัตกรรม 4 ล้อ ในปี 2553
เจาะนวัตกรรม 4 ล้อ ในปี 2553

เปิดอ่าน 18,373 ครั้ง
สาววัย 27 ปีบริจาคตับช่วยชีวิตครูวัย 57 ปี เพราะซาบซึ้งบุญคุณที่เคยสอน
สาววัย 27 ปีบริจาคตับช่วยชีวิตครูวัย 57 ปี เพราะซาบซึ้งบุญคุณที่เคยสอน

เปิดอ่าน 36,796 ครั้ง
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ

เปิดอ่าน 8,324 ครั้ง
รวมสื่อการสอน Back to School 2565
รวมสื่อการสอน Back to School 2565

เปิดอ่าน 10,998 ครั้ง
นโยบายการศึกษามาจากไหน-ทำไมถึงไม่สำเร็จ
นโยบายการศึกษามาจากไหน-ทำไมถึงไม่สำเร็จ
เปิดอ่าน 310,437 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาลบาดแผลจากสัตว์มีพิษกัดต่อย
วิธีปฐมพยาบาลบาดแผลจากสัตว์มีพิษกัดต่อย
เปิดอ่าน 15,881 ครั้ง
สมูทตี้สมุนไพร อร่อยได้ประโยชน์
สมูทตี้สมุนไพร อร่อยได้ประโยชน์
เปิดอ่าน 9,965 ครั้ง
นอนมากเกิน-น้อยเกิน เสี่ยงเบาหวาน
นอนมากเกิน-น้อยเกิน เสี่ยงเบาหวาน
เปิดอ่าน 2,271 ครั้ง
7 ที่เที่ยวหน้าหนาวใกล้กรุงเทพฯ ขับรถชิล วันหยุดสั้นๆ ก็เที่ยวได้
7 ที่เที่ยวหน้าหนาวใกล้กรุงเทพฯ ขับรถชิล วันหยุดสั้นๆ ก็เที่ยวได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ