|
|
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านร่วมกับวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นที่ส่งเสริมความ สามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับประถมศึกษา 2) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านร่วมกับวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับประถมศึกษา 3) เพื่อศึกษาผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านร่วมกับวัฏจักรการสืบเสาะ หาความรู้ 5 ขั้นที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับประถมศึกษา กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนสาธิตองค์การบริหารส่วนจังหวัด1(บ้านท่าเรือมิตรภาพที่ 30) จำนวน 28 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ค่าทีแบบไม่อิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านร่วมกับวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนระดับประถมศึกษา มีองค์ประกอบคือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการจัดการเรียนรู้และเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ ขั้นตอนการการจัดการเรียนรู้ด้วยNONGLAG Model 7 ขั้น 1) แจ้งกิจกรรมใหม่(Notification : N) 2) สังเกตการณ์และคิดวางแผน(Observe action Or things : O) 3) ลงมือกระทำ(New movement : N) 4) กำหนดแนวทางค้นหาความรู้เพิ่มเติม(Guidelines more knowledge : G) 5) การแสดงออก(learners in the expression : L) 6) ประยุกต์ความรู้(Apply knowledge : A) และ7) เป้าหมายผลลัพธ์ในการเรียนรู้(Goal& Result in Learning : G) โดยที่รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนา ขึ้นมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.50/81.83 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง แรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า ของผู้เรียนหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้มีค่าเฉลี่ย(x̄ = 23.32, S.D = 2.69) สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 2) ผู้เรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหานักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 จำนวน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 96.67 3) ผู้เรียนมีความความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ย(x̄= 4.67, S.D.=0.61) อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด
|
โพสต์โดย เพ็ญนภา คงใหม่ : [12 ส.ค. 2564 เวลา 10:42 น.] อ่าน [4211] ไอพี : 171.6.233.202
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 35,301 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 37,453 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 36,169 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 122,543 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,260 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,140 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,910 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,359 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 93 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,277 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,161 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 42,331 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,668 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,146 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 33,164 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 9,679 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 26,972 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,565 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,671 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,738 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|