แบบรายงานประวัติและผลงานเพื่อพิจารณาคัดเลือกวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ(Best Practice)
การนำหลักสูตรสถานศึกษาสู่การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ประสบผลสำเร็จ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต ๒
เรื่อง กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการสู่ความเป็นเลิศในด้านทัศนศิลป์
นางโชคดี มากพูน
ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเมืองเกษตรวิสัย
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต2
ในการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษา มาตราที่ 22 ระบุไว้ว่าการจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่า ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด (Children Center) กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและ เต็มตามศักยภาพ ดังนั้นการจัดการเรียนการสอน ที่จะทำให้นักเรียนสามารถพัฒนาตนเองได้ตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพเราต้องเริ่มต้นสอนในสิ่งที่นักเรียนชอบ มีความถนัด สอนจากสิ่งที่ง่ายไปหายากและ มีรางวัลหรือคะแนนเป็นตัวกระตุ้นให้นักเรียนได้มีการพัฒนาตนเองไปในทางที่ครูตั้งเป้าหมายไว้ ข้าพเจ้าเป็น ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเมืองเกษตรวิสัย ข้าพเจ้าทำการสอนในรายวิชาภาษาไทยในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งมีทั้งหมด 3 ห้องเรียน ข้าพเจ้าสอนในรายวิชาศิลปะในชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 ชั้นเดียว ข้าพเจ้ามีความชื่นชอบในรายวิชาศิลปะเป็นอย่างมากและ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้นักเรียนมีความเป็นเลิศในด้านนี้ ซึ่งก่อนที่ข้าพเจ้าจะมีการใช้นวัตกรรมนี้ ข้าพเจ้าได้ทำการสอบถามนักเรียนเกี่ยวกับรายวิชาที่นักเรียนชอบและไม่ชอบเพื่อทำการบันทึกลงในแบบ ปพ.8และได้ผลสรุปว่านักเรียนส่วนมากชื่นชอบในรายวิชาศิลปะ ข้าพเจ้าจึงเกิดแนวความคิดในการที่จะสร้างให้นักเรียนเกิดความเป็นเลิศในด้านทัศนศิลป์ แต่เนื่องจากวิชานี้มีเรียนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จึงไม่เพียงพอต่อการฝึกให้นักเรียนเกิดความเป็นเลิศในด้านทัศนศิลป์ได้ ข้าพเจ้าจึงใช้นวัตกรรมกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการและการจัดกิจกรรมสอนเสริมเพื่อพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศในด้านทัศนศิลป์ จากนวัตกรรมดังกล่าวส่งผลให้นักเรียนมีทักษะและ มีความรู้ความสามารถด้านทัศนศิลป์มากขึ้น นักเรียนมีผลงานเชิงประจักษ์จากการแข่งขันทักษะทางวิชาการด้านทัศนศิลป์ และทำให้สถานศึกษาได้รับชื่อเสียงและเกียรติประวัติจากผลงานนักเรียน ข้าพเจ้าจึงเชื่อมั่นในนวัตกรรมกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการเป็นที่สุดเพราะนวัตกรรมนี้ไม่เพียงแค่ส่งเสริมความเป็นเลิศเท่านั้นยังช่วยแก้ไขปัญหาในหลายๆด้านได้อีกด้วย
นางโชคดี มากพูน ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเมืองเกษตรวิสัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต2
ในการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษา มาตราที่ 22 ระบุไว้ว่าการจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่า ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด (Children Center) กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและ เต็มตามศักยภาพ ดังนั้นการจัดการเรียนการสอน ที่จะทำให้นักเรียนสามารถพัฒนาตนเองได้ตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพเราต้องเริ่มต้นสอนในสิ่งที่นักเรียนชอบ มีความถนัด สอนจากสิ่งที่ง่ายไปหายากและ มีรางวัลหรือคะแนนเป็นตัวกระตุ้นให้นักเรียนได้มีการพัฒนาตนเองไปในทางที่ครูตั้งเป้าหมายไว้ ข้าพเจ้าเป็น ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเมืองเกษตรวิสัย ข้าพเจ้าทำการสอนในรายวิชาภาษาไทยในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งมีทั้งหมด 3 ห้องเรียน ข้าพเจ้าสอนในรายวิชาศิลปะในชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 ชั้นเดียว ข้าพเจ้ามีความชื่นชอบในรายวิชาศิลปะเป็นอย่างมากและ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้นักเรียนมีความเป็นเลิศในด้านนี้ ซึ่งก่อนที่ข้าพเจ้าจะมีการใช้นวัตกรรมนี้ ข้าพเจ้าได้ทำการสอบถามนักเรียนเกี่ยวกับรายวิชาที่นักเรียนชอบและไม่ชอบเพื่อทำการบันทึกลงในแบบ ปพ.8และได้ผลสรุปว่านักเรียนส่วนมากชื่นชอบในรายวิชาศิลปะ ข้าพเจ้าจึงเกิดแนวความคิดในการที่จะสร้างให้นักเรียนเกิดความเป็นเลิศในด้านทัศนศิลป์ แต่เนื่องจากวิชานี้มีเรียนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จึงไม่เพียงพอต่อการฝึกให้นักเรียนเกิดความเป็นเลิศในด้านทัศนศิลป์ได้ ข้าพเจ้าจึงใช้นวัตกรรมกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการและการจัดกิจกรรมสอนเสริมเพื่อพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศในด้านทัศนศิลป์ จากนวัตกรรมดังกล่าวส่งผลให้นักเรียนมีทักษะและ มีความรู้ความสามารถด้านทัศนศิลป์มากขึ้น นักเรียนมีผลงานเชิงประจักษ์จากการแข่งขันทักษะทางวิชาการด้านทัศนศิลป์ และทำให้สถานศึกษาได้รับชื่อเสียงและเกียรติประวัติจากผลงานนักเรียน ข้าพเจ้าจึงเชื่อมั่นในนวัตกรรมกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการเป็นที่สุดเพราะนวัตกรรมนี้ไม่เพียงแค่ส่งเสริมความเป็นเลิศเท่านั้นยังช่วยแก้ไขปัญหาในหลายๆด้านได้อีกด้วย