ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานผลการประเมินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการมีส่วนร่วม แบบไทยแลนด์ 4.0 ของโรงเรียนสัตตปทุมบำรุง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พ

บทคัดย่อ

รายงานผลการประเมินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการมีส่วนร่วม แบบไทยแลนด์ 4.0 ของโรงเรียนสัตตปทุมบำรุง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2 ปีการศึกษา 2563 ครั้งนี้ ใช้รูปแบบการประเมินโครงการแบบซิป (CIPP Model) ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) ในการประเมินโครงการ ซึ่งการประเมินโครงการมีรูปแบบการประเมินครบทุกกระบวนการ ครอบคลุมองค์ประกอบ และวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยมีองค์ประกอบทั้งหมด 4 ด้าน ประกอบด้วยด้านบริบท (Context Evaluation) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ด้านกระบวนการ (Process Evaluation) และ ด้านผลผลิต ( Product Evaluation) ของโครงการ ประชากรที่ใช้ในการประเมินโครงการ จำนวน 45 คน ได้แก่ 1) ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนสัตตปทุมบำรุง จำนวน 6 คน 2) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนสัตตปทุมบำรุง ยกเว้นผู้บริหารสถานศึกษา และตัวแทนครู ในคณะกรรมการขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน 3) นักเรียนของโรงเรียนสัตตปทุมบำรุง ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 16 คน 4) ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนสัตตปทุมบำรุงในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 16 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในการประเมิน ประกอบด้วยแบบประเมิน จำนวน 5 ฉบับ แบบบันทึกผล 1 ฉบับ แบบตรวจสอบจำนวน 1 ฉบับ มีการหาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบประเมินโดยการใช้วิธีการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาตามวิธีของครอนบาค (Cronbach’s alpha coefficient) วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ(Percentage) ค่าเฉลี่ย(Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ผลการประเมินโครงการพบว่า

1. ผลการประเมินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการมีส่วนร่วม แบบไทย

แลนด์ 4.0 ของโรงเรียนสัตตปทุมบำรุง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2 ปีการศึกษา 2563 ในภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับดีมากที่สุด ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ด้านผลผลิต ( Product Evaluation) อยู่ในระดับดีมากที่สุด รองลงมาคือ ด้านปัจจัยนำเข้า(Input Evaluation) มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และ ด้านกระบวนการอยู่ในระดับมาก

2. ผลการประเมินด้านบริบท (Context Evaluation) ตามความคิดเห็นของครูและ

บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก( μ = 4.33 , σ = 0.16 ) ผ่านเกณฑ์การประเมิน

3. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า(Input Evaluation) ตามความคิดเห็นของครูและ

บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( μ = 4.65 , σ = 0.18 ) ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4. ผลการประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation) ตามความคิดเห็นของครูและ

บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และนักเรียน ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก( μ = 4.40 , σ = 0.19 ) ผ่านเกณฑ์การประเมิน

5. ผลการประเมินด้านผลผลิต ( Product Evaluation) ของโครงการยก

ระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการมีส่วนร่วม แบบไทยแลนด์ 4.0 ของโรงเรียนสัตตปทุมบำรุง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2 ปีการศึกษา 2563 ในภาพรวม พบว่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด( μ = 4.68 , σ = 0.17 ) ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยผลการประเมินด้านผลผลิต มีดังนี้

5.1 ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีต่อโครงการตามความคิดเห็นของ

ครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และ ผู้ปกครองในค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด( μ = 4.68 , σ = 0.18 ) ผ่านเกณฑ์การประเมิน

5.2 ผลการประเมินความพึงพอใจ ตามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อโครงการ โดยมี

ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด( μ = 4.67 , σ = 0.16 ) ผ่านเกณฑ์การประเมิน

5.3 ผลการทดสอบระดับชาติ (O – NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563

และปีการศึกษา 2562 ในภาพรวมของโรงเรียน พบว่า ปีการศึกษา 2563 มีผลการทดสอบสูงกว่า ปีการศึกษา 2562 เท่ากับ 5.72 ผลการทดสอบระดับชาติ (O – NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563 พบว่า เมื่อเปรียบเทียบจากปีการศึกษา 2562 ในระดับกลุ่มสาระ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ทุกกลุ่มสาระ ยกเว้น กลุ่มสาระวิชาคณิตศาสตร์ ค่าเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น เท่ากับ ร้อยละ 75 ของจำนวนกลุ่มสาระ โดยวิชาวิทยาศาสตร์ มีผลการทดสอบเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ 16.52 และสูงกว่าระดับประเทศ

5.4 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ 5 กลุ่มสาระวิชาหลัก ได้แก่

ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม และวิชาภาษาต่างประเทศ(อังกฤษ) ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563 พบว่ามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น คะแนนเพิ่มสูงขึ้นจากปีการศึกษา 2562 ในภาพรวมของโรงเรียน เท่ากับ 3.92 และเมื่อเปรียบเทียบจากร้อยละเฉลี่ย ของผู้เรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแต่ละกลุ่มสาระวิชาการเรียนรู้ ระดับ 3 ขึ้นไปพบว่า เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา 2562 เท่ากับ 23.67

โพสต์โดย อ้อย ยั่นทั่ง : [17 ก.ย. 2564 เวลา 20:41 น.]
อ่าน [65653] ไอพี : 1.46.129.95
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 908 ครั้ง
5 ข้อควรรู้ก่อนต่อพ.ร.บ. รถยนต์ราคาถูกให้คุ้มค่าที่สุด
5 ข้อควรรู้ก่อนต่อพ.ร.บ. รถยนต์ราคาถูกให้คุ้มค่าที่สุด

เปิดอ่าน 3,639 ครั้ง
น้ำมะนาวจี๊ดจ๊าด สูงวัยสุขภาพดี
น้ำมะนาวจี๊ดจ๊าด สูงวัยสุขภาพดี

เปิดอ่าน 18,566 ครั้ง
5 วิธีทำให้รวยเร็ว
5 วิธีทำให้รวยเร็ว

เปิดอ่าน 14,807 ครั้ง
แนะนำ 10 เครื่องมือดี ๆ ช่วยครูในการสอนออนไลน์
แนะนำ 10 เครื่องมือดี ๆ ช่วยครูในการสอนออนไลน์

เปิดอ่าน 66,465 ครั้ง
พืชที่ใช้ทำกระดาษ
พืชที่ใช้ทำกระดาษ

เปิดอ่าน 17,608 ครั้ง
ฮือฮา พญานาคโผล่รับเครื่องสักการะ หลังพิธีบุญกฐินน้ำ
ฮือฮา พญานาคโผล่รับเครื่องสักการะ หลังพิธีบุญกฐินน้ำ

เปิดอ่าน 10,653 ครั้ง
หนังสือเสียงสร้างสุขในโลกมืด
หนังสือเสียงสร้างสุขในโลกมืด

เปิดอ่าน 11,014 ครั้ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง

เปิดอ่าน 21,911 ครั้ง
7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง
7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง

เปิดอ่าน 6,717 ครั้ง
กรมอนามัย ย้ำดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด ดื่มให้เหมาะสม พอเพียง ดีต่อร่างกาย
กรมอนามัย ย้ำดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด ดื่มให้เหมาะสม พอเพียง ดีต่อร่างกาย

เปิดอ่าน 1,004 ครั้ง
คู่มือดูแลเครื่องถ่ายเอกสารสำนักงาน ใช้งานได้ทนทานขึ้น
คู่มือดูแลเครื่องถ่ายเอกสารสำนักงาน ใช้งานได้ทนทานขึ้น

เปิดอ่าน 22,821 ครั้ง
อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซ้ำร้าย "อ่านน้อย" จับประเด็นไม่ได้ วิกฤตใหญ่ที่ไทยต้องแก้
อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซ้ำร้าย "อ่านน้อย" จับประเด็นไม่ได้ วิกฤตใหญ่ที่ไทยต้องแก้

เปิดอ่าน 20,549 ครั้ง
จอดรถแบบนี้ เจ๊ซื้อใบขับขี่มาจากไหน
จอดรถแบบนี้ เจ๊ซื้อใบขับขี่มาจากไหน

เปิดอ่าน 15,302 ครั้ง
เปลี่ยนระบบโทรศัพท์ใหม่ แต่ใช้เบอร์เดิมได้ เริ่ม 1 ก.ย.
เปลี่ยนระบบโทรศัพท์ใหม่ แต่ใช้เบอร์เดิมได้ เริ่ม 1 ก.ย.

เปิดอ่าน 20,968 ครั้ง
การประเมินความจำเป็นในการกำหนดวัตถุประสงค์
การประเมินความจำเป็นในการกำหนดวัตถุประสงค์

เปิดอ่าน 32,981 ครั้ง
หลักเกณฑ์สอบบรรจุครูผู้ช่วย
หลักเกณฑ์สอบบรรจุครูผู้ช่วย
เปิดอ่าน 4,644 ครั้ง
วิธีคลายร้อนให้บ้านปูน
วิธีคลายร้อนให้บ้านปูน
เปิดอ่าน 39,804 ครั้ง
ประณีตศิลป์ไทย
ประณีตศิลป์ไทย
เปิดอ่าน 10,063 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 80 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง Active Learning ทางรอดของการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21
จดหมายฉบับที่ 80 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง Active Learning ทางรอดของการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21
เปิดอ่าน 58,247 ครั้ง
วิธีเด็ดช่วยจำศัพท์อังกฤษ
วิธีเด็ดช่วยจำศัพท์อังกฤษ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ