ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึม เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั

ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึม

เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย นางสุภาภรณ์ หมั่นถนอม

สถานศึกษา โรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก เทศบาลนครนครศรีธรรมราช

ปีการวิจัย 2563

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย (1)เพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึมเพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึมเพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึมเพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึมเพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึม เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ห้อง 102 โรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 รวมจำนวนคน 34 คน ซึ่งเป็นห้องเรียนที่มีสัดส่วนของนักเรียนกลุ่มเก่ง ปานกลาง และอ่อนเท่าๆ กัน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย (1) รูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึมเพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (2)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องทศนิยมและเศษส่วน วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ (3) แบบทดสอบวัดความคงทนในการเรียนรู้ เรื่องทศนิยมและเศษส่วน วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นข้อสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึมเพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวนทั้งหมด 20 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าสถิติ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิตินอนพาราเมตริก (Nonparametric Statistics) คือ Wilcoxon Signed Ranks Test และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

สรุปผลการวิจัย

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึม เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่ารูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึม เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรักติวิซึม ครูผู้สอนมีบทบาทสำคัญในการจัดประสบการณ์/ขั้นตอนในการเรียนให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยนำเอาความรู้ใหม่และความรู้เดิมมาผสมผสานเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ สามารถสร้างความรู้ใหม่ได้ด้วยตนเอง มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรียนแบบร่วมมือกับสมาชิกในกลุ่มสร้างสรรค์ผลงาน สามารถนำเสนอได้ มีการวัดและประเมินผลด้วยรูปแบบที่หลากหลาย การเรียนรู้เป็นกระบวนการที่ผู้เรียนสร้างความคิดรวบยอดใหม่ โดยมีความรู้ปัจจุบัน และความรู้ในอดีตเป็นฐาน การเรียนรู้เรื่องใหม่ ผู้เรียนสร้างความรู้ความเข้าใจด้วยตนเอง จากการได้ปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น และสิ่งแวดล้อมอย่างกระตือรือร้น การจัดสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม ทำให้ผู้เรียนมีการเรียนรู้อย่างมีความหมาย

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึม เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่าได้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึม เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีองค์ประกอบของรูปแบบ 4 องค์ประกอบ คือ 1)หลักการของรูปแบบการเรียนการสอน 2)วัตถุประสงค์ของรูปแบบการจัดการเรียนการสอน 3) กระบวนการจัดการเรียนการสอนประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 ตะลุยความคิดด้วยเกมส์ออนไลน์ word wall ขั้นที่ 2 กระตุ้นต่อมคิดด้วยชีวิตประจำวัน ขั้นที่ 3 ระดมความคิดแก้ไขปัญหา ขั้นที่ 4 ผังมโนทัศน์เชื่อมความคิดที่หลากหลาย ขั้นที่ 5 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ขั้นที่ 6 ฝึกฝนทักษะและนำไปใช้ และ 4) เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึม เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีดังนี้ (1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึม เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 (2) ความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดย ใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึม เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นไปตามเกณฑ์ร้อยละ 70

4. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีคอนสตรักติวิซึม เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและวัดความคงทนในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมากที่สุด (X=4.55, S.D. = 0.69) และผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด

โพสต์โดย กุ้ง : [29 ก.ย. 2564 เวลา 09:43 น.]
อ่าน [2076] ไอพี : 110.77.225.39
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,227 ครั้ง
ดูแลขั้นพื้นฐานสู่ผิวสุขภาพดี
ดูแลขั้นพื้นฐานสู่ผิวสุขภาพดี

เปิดอ่าน 15,856 ครั้ง
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

เปิดอ่าน 19,477 ครั้ง
อวสาน อ.ก.ค.ศ. โดย อดิศร เนาวนนท์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
อวสาน อ.ก.ค.ศ. โดย อดิศร เนาวนนท์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

เปิดอ่าน 10,041 ครั้ง
คุณสมบัติของคนที่ประสบความสำเร็จ (1)
คุณสมบัติของคนที่ประสบความสำเร็จ (1)

เปิดอ่าน 89,515 ครั้ง
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : พีธาคอรัส (Pythagorus)
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : พีธาคอรัส (Pythagorus)

เปิดอ่าน 9,509 ครั้ง
ห้องสมุดในมัสยิด อีกย่างก้าวของความรู้
ห้องสมุดในมัสยิด อีกย่างก้าวของความรู้

เปิดอ่าน 12,809 ครั้ง
4 คุณสมบัติหลัก ที่ Netbook ควรมี
4 คุณสมบัติหลัก ที่ Netbook ควรมี

เปิดอ่าน 21,788 ครั้ง
ยุบ สพฐ. จัดตั้งของใหม่ คิดกันดีแล้วเหรอ?? ไม่เหนื่อยต่อการพายเรือในอ่างหรือ?!
ยุบ สพฐ. จัดตั้งของใหม่ คิดกันดีแล้วเหรอ?? ไม่เหนื่อยต่อการพายเรือในอ่างหรือ?!

เปิดอ่าน 54,913 ครั้ง
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ"คำนำหน้านาม"
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ"คำนำหน้านาม"

เปิดอ่าน 33,188 ครั้ง
เผยสำรวจพบ8อาชีพมีรายได้เกินแสน นักบิน เงินเดือนสูงสุด
เผยสำรวจพบ8อาชีพมีรายได้เกินแสน นักบิน เงินเดือนสูงสุด

เปิดอ่าน 27,364 ครั้ง
ตัวถ่วงความเจริญการศึกษาไทย
ตัวถ่วงความเจริญการศึกษาไทย

เปิดอ่าน 10,622 ครั้ง
แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3
แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3

เปิดอ่าน 11,898 ครั้ง
เจาะนวัตกรรม 4 ล้อ ในปี 2553
เจาะนวัตกรรม 4 ล้อ ในปี 2553

เปิดอ่าน 41,687 ครั้ง
Animation สอนภาษาอังกฤษ (การทักทาย)
Animation สอนภาษาอังกฤษ (การทักทาย)

เปิดอ่าน 11,915 ครั้ง
ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เป็นเบาหวาน กินอย่างไรดี
ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เป็นเบาหวาน กินอย่างไรดี

เปิดอ่าน 14,944 ครั้ง
น้ำผึ้ง...หวานเป็นยา
น้ำผึ้ง...หวานเป็นยา
เปิดอ่าน 25,224 ครั้ง
มะนาววงบ่อ นอกฤดู 1 ไร่ 100 ต้น
มะนาววงบ่อ นอกฤดู 1 ไร่ 100 ต้น
เปิดอ่าน 7,883 ครั้ง
เตรียมตัวก่อนพบหมอ
เตรียมตัวก่อนพบหมอ
เปิดอ่าน 19,957 ครั้ง
จังหวัดไหนมีความสุขมากที่สุดในประเทศไทย ปี 2557?
จังหวัดไหนมีความสุขมากที่สุดในประเทศไทย ปี 2557?
เปิดอ่าน 13,273 ครั้ง
โฆษณาเด็กน่ารักที่สุด ประจำปี 2013
โฆษณาเด็กน่ารักที่สุด ประจำปี 2013

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ