ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการประเมินโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนวัดบางเคียน

ชื่อเรื่อง รายงานผลการประเมิน โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อ

ต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนวัดบางเคียน

ผู้รายงาน นางสาวศิริพร ไชยชมภู ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบางเคียน

ปีการศึกษา 2562

บทสรุปสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา

รายงานผลการประเมิน โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนวัดบางเคียน ปีการศึกษา 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อรายงานผลการประเมินโครงการ ด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต

การประเมินโครงการครั้งนี้ ใช้รูปแบบการประเมินโครงการของ CIPP Model มาใช้ในการประเมิน

เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน เป็น แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า จำนวน

3 ฉบับ ได้แก่ 1) แบบสอบถามความคิดเห็นของบุคลากรภายในโรงเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต 2) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อผลผลิตของโครงการ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนต่อผลผลิตของโครงการ

กลุ่มตัวอย่างได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ได้แก่ บุคลากรและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 14 คน นักเรียน 60 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 60 คน รวมทั้งสิ้น 134 คน การวิเคราะห์ข้อมูล โดยการวิเคราะห์เอกสาร การหาค่าดัชนีความสอดคล้อง การหาค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมินโครงการ สรุปได้ดังนี้

1. ด้านสภาพแวดล้อมของโครงการ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด พบว่า มีผลการประเมินระดับมากที่สุด 3 อันดับแรกเรียงตามลำดับได้แก่ 1) โครงการสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในชุมชน 2) โครงการเหมาะสมกับสภาพความต้องการของนักเรียน 3) ผลการประเมินเท่ากันสามโครงการ คือ โครงการเหมาะสมกับศักยภาพและทรัพยากรของโรงเรียนและชุมชน โครงการสอดคล้องกับสภาพของชุมชน และ โครงการเหมาะสมกับเวลาและสถานการณ์ของสังคมในปัจจุบัน และผลการประเมินรายการที่อยู่ในระดับต่ำสุด คือ โครงการเหมาะสมกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าประสงค์ของโรงเรียน

2. ด้านปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายละเอียด พบว่า ผลการประเมินที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1) มีบุคลากรจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องร่วมมือสนับสนุน 2) มีคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานเป็นผู้มีความสนใจมีความรู้ความสามารถเหมาะสม 3) งบประมาณดำเนินกิจกรรมในโรงเรียนเพียงพอเหมาะสม ส่วนผลการประเมินน้อยที่สุดอยู่ในเกณฑ์ระดับมากที่สุด คือ สถานที่ดำเนินโครงการเพียงพอเหมาะสม

3. ด้านกระบวนการดำเนินงานโครงการ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ทุกรายการ เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละรายการ พบว่า ทุกรายการมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเรียงตามลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ 1) ขั้นการศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาและความต้องการ 2) การวางแผนงานและโครงการ 3) ขั้นการนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผล และ 4) และผลการประเมินอันดับสุดท้าย คือ ขั้นการดำเนินงานตามแผนงานและโครงการ และผลการดำเนินงานในแต่ละขั้นตอนมีดังนี้

3.1 ขั้นการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการ มีค่าเฉลี่ยโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ปรากฏว่า เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละรายการ พบว่า ทุกรายการมีผลการประเมินเท่ากัน และอยู่ในระดับมากที่สุด

3.2 ขั้นการวางแผนงานและโครงการ มีค่าเฉลี่ยโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ทุกรายการ พบว่า ผลการประเมินที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1)มีการกำหนดนโยบายการพัฒนาสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ จากข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง 2) มีการร่วมกำหนดนโยบายด้านการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้โดยคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีการลงมติร่วมกัน และ 3) นโยบายด้านการพัฒนาสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ มุ่งประโยชน์แก่นักเรียนและชุมชน และผลการประเมินที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ได้แก่ แผนงาน/โครงการครอบคลุมองค์ประกอบของการพัฒนาสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ 6 ด้าน

3.3 ขั้นการดำเนินงานตามแผนงานและโครงการมีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกรายการ พบว่า มีผลประเมินค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1) มีการจัดระบบบริหารให้เอื้อต่อการพัฒนาสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้โดยกำหนดบทบาท ภารกิจ ขั้นตอนการดำเนินงานอย่างเหมาะสม 2) มีการร่วมมือของนักเรียน บุคลากรในโรงเรียนเพื่อการพัฒนาสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ 3) ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของโรงเรียนอย่างเป็นระบบทุกขั้นตอน อันดับสุดท้ายที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ โรงเรียนมีคณะทำงานรับผิดชอบแผนงาน/โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้

3.4 ขั้นการนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลมีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกรายการ พบว่า ผลการประเมินที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1) มีการมอบหมายผู้รับผิดชอบในการกำกับติดตาม นิเทศงานไว้ชัดเจน 2) มีการนำผลการนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลไปใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง และ 3) มีเครื่องมือนิเทศ กำกับ ติดตามประเมินผลงาน และผลการประเมินที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ มีการมอบหมายผู้รับผิดชอบในการกำกับติดตามนิเทศงานไว้ชัดเจน

4. ด้านผลผลิตมีค่าเฉลี่ยโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด พบว่า ผลประเมินระดับมากที่สุดกลุ่มแรก คือ บุคลากรและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน รองลงมา คือ นักเรียน และน้อยสุดคือผู้ปกครอง โดยมีรายละเอียดผลการประเมินในแต่ละด้านและกลุ่มผู้ประเมิน ดังนี้

4.1 กลุ่มบุคลากรและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความพึงพอใจ ต่อผลผลิตของโครงการ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินความพึงพอใจส่วนใหญ่อยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินเรียงลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ 1) บุคลากร 2) ห้องเรียน 3) บรรยากาศการเรียนการสอน 4) อาคารสถานที่ 5) นักเรียน และ 6) การจัดสภาพแวดล้อมทางวิชาการ เป็นลำดับสุดท้าย

4.2 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อผลของโครงการ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุดทุกรายการ เมื่อพิจารณารายละเอียดทุกด้าน พบว่า ผลการประเมินทุกรายการอยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ 1) ด้านห้องเรียน 2) ด้านอาคารสถานที่ 3) ด้านบรรยากาศการเรียนการสอน 4) ด้านบุคลากร และ 5) ผลการประเมินเท่ากันสองด้าน คือ ด้านนักเรียน และ ด้านสภาพแวดล้อมทางวิชาการ

4.3 ผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจต่อผลผลิตของโครงการ มีค่าเฉลี่ยโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ทุกด้าน มีผลการประเมินในทุกรายการอยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ 1) ด้านห้องเรียน 2) ด้านบรรยากาศการเรียนการสอน 3) ด้านอาคารสถานที่ 4) ด้านบุคลากร 5) ด้านการจัดสภาพแวดล้อมทางวิชาการ ส่วนผลการประเมินน้อยที่สุด คือ ด้านนักเรียน

โพสต์โดย ศิริพร ไชยชมภู : [17 ก.พ. 2565 เวลา 13:32 น.]
อ่าน [2171] ไอพี : 161.202.144.249
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,581 ครั้ง
วิธีล้างคราบน้ำชาที่ติดแก้ว
วิธีล้างคราบน้ำชาที่ติดแก้ว

เปิดอ่าน 16,852 ครั้ง
3 โรค ที่กระเทียมสามารถป้องกันได้
3 โรค ที่กระเทียมสามารถป้องกันได้

เปิดอ่าน 13,599 ครั้ง
วันตรุษจีน
วันตรุษจีน

เปิดอ่าน 12,083 ครั้ง
ภัยเงียบของเด็กไทย
ภัยเงียบของเด็กไทย

เปิดอ่าน 18,040 ครั้ง
ฮือฮา เปิดภาพลับ"สตีฟ จ็อบส์"คิดค้น"ไอแพด"ได้ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน
ฮือฮา เปิดภาพลับ"สตีฟ จ็อบส์"คิดค้น"ไอแพด"ได้ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน

เปิดอ่าน 9,678 ครั้ง
อะแคนทะมีบา ภัย คอนแทคเลนส์
อะแคนทะมีบา ภัย คอนแทคเลนส์

เปิดอ่าน 21,731 ครั้ง
เอกสารประกอบการบรรยายการประชุมทางวิชาการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของครู(7ส.ค.53)
เอกสารประกอบการบรรยายการประชุมทางวิชาการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของครู(7ส.ค.53)

เปิดอ่าน 30,810 ครั้ง
สารทเดือนสิบ ประเพณีประจำภาคใต้ ร่วมระลึกถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ
สารทเดือนสิบ ประเพณีประจำภาคใต้ ร่วมระลึกถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ

เปิดอ่าน 33,219 ครั้ง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับค่ารากของสมการ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับค่ารากของสมการ

เปิดอ่าน 18,016 ครั้ง
การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์
การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์

เปิดอ่าน 16,471 ครั้ง
เคล็ดลับเร่ง "ผม" ให้ยาวเร็วขึ้น
เคล็ดลับเร่ง "ผม" ให้ยาวเร็วขึ้น

เปิดอ่าน 2,432 ครั้ง
ประโยชน์ของน้ำขิง
ประโยชน์ของน้ำขิง

เปิดอ่าน 13,201 ครั้ง
ในปี 2561 แมชชีนเลิร์นนิ่งจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุด นับตั้งแต่โลกใบนี้มีอินเทอร์เน็ต
ในปี 2561 แมชชีนเลิร์นนิ่งจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุด นับตั้งแต่โลกใบนี้มีอินเทอร์เน็ต

เปิดอ่าน 9,339 ครั้ง
การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT)
การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT)

เปิดอ่าน 11,365 ครั้ง
Paperman การ์ตูนสั้น ชิงรางวัลออสการ์ การ์ตูนสุดโรแมนติกจาก ดิสนี่ย์
Paperman การ์ตูนสั้น ชิงรางวัลออสการ์ การ์ตูนสุดโรแมนติกจาก ดิสนี่ย์

เปิดอ่าน 9,596 ครั้ง
ไอ้หยา!ด.ญ.ร้องพิธีเปิดโอลิมปิกก็ลวง
ไอ้หยา!ด.ญ.ร้องพิธีเปิดโอลิมปิกก็ลวง
เปิดอ่าน 14,736 ครั้ง
"กูเกิล"เผยสุดยอดคำค้นหาปี 59
"กูเกิล"เผยสุดยอดคำค้นหาปี 59
เปิดอ่าน 15,178 ครั้ง
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก
เปิดอ่าน 20,179 ครั้ง
การวัดระยะบนผิวทรงกลม
การวัดระยะบนผิวทรงกลม
เปิดอ่าน 35,818 ครั้ง
หยุด การศึกษาที่สร้างทุกข์ให้นักเรียน และผู้ปกครอง
หยุด การศึกษาที่สร้างทุกข์ให้นักเรียน และผู้ปกครอง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ