ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้วิจัย สาวนี คุ่ยเจริญ
ปีที่ศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาทักษะการฟังและ การพูด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อประเมินผลและถอดบทเรียนรูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดเนินสุทธาวาส (สุทธิพงษ์ประชานุกูล) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ที่ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย สุ่มได้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 นักเรียน 25 คน เครื่องมือที่ใช้การวิจัย ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน แบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ t test (dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า
1. การศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาทักษะการฟังและการพูด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 สรุปว่าการจัดการเรียนต้องสนองต่อ ความแตกต่างระหว่างกลุ่มของนักเรียน กิจกรรมการเรียนควรมีหลากหลายมีการโต้ตอบและวัดผล ได้ทันที และด้านนักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองไม่มีขีดจำกัด อีกทั้งการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เป็นการสอนที่สามารถพัฒนาและส่งเสริมทักษะทางภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการสอนที่มุ่งเน้นการสื่อสาร โดยอาศัยหลักการและแนวคิดทฤษฎี ด้านความรู้ความเข้าใจ (Cognitive Science) มุ่งเน้นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างจิตใจกับสมองของมนุษย์
2. การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 องค์ประกอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ใช้รูปแบบ ACLC Model ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน การทบทวนความรู้เดิม (Activate Prior Knowledge : A) การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning : C) ขั้นเรียนรู้สิ่งใหม่ (Learning : L) และสรุป และขยายผล (Conclusion and Extend Results : C) การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด ผลการทดลองภาคสนาม มีประสิทธิภาพ 80.57/80.17
3. การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด การทดสอบหาค่าประสิทธิภาพ ประสิทธิภาพขั้นทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง เท่ากับ 83.18/83.60 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน พบว่าแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ประเมินระดับความสามารถในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ อยู่ในระดับมาก
4. การประเมินผล และถอดบทเรียนรูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
การถอดบทเรียน พบว่า นักเรียนชอบวิธีการสอนของครูที่ให้นักเรียนสรุปข้อมูลโดยการเรียบเรียงความคิดของนักเรียนออกมาเป็นเรื่องราว มีกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งใบงานต่างๆ เกมคำศัพท์ และการใช้รูปประกอบในการอธิบายคำศัพท์ ทำให้นักเรียนสามารถจดจำคำศัพท์ได้มากขึ้น การทำงานเป็นกลุ่มทำให้นักเรียนมีความสนุกสนานเพลิดเพลิน ทำให้นักเรียนเข้าใจในเนื้อหาของวิชาภาษาอังกฤษมากขึ้น การนำเสนองานหน้าชั้นเรียนทำให้นักเรียนมีความกล้าแสดงออก และการให้นักเรียนเขียนผลงานของตนเอง ทำให้สามารถเพิ่มทักษะ และพัฒนาความสามารถของตนเองได้ ส่วนการวัดประเมินผลที่ให้นักเรียนทำแบบทดสอบท้ายชั่วโมง สามารถทำให้นักเรียนมีความเข้าใจในเนื้อหาเพิ่มมากขึ้น มีการวัดประเมินที่ชัดเจน สรุปได้ว่านักเรียนสามารถเขียนภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น