ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงงานการประเมินโครงการบริหารจัดการเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในศตวรรษที่ 21 ภายใต้ยุคนิวนอร์มัลของโรงเรียนบ้านหัวโกรก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ประเมินโครงการบริหารจัดการเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในศตวรรษที่ 21 ภายใต้ยุคนิวนอร์มัลของโรงเรียนบ้านหัวโกรก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 โดยใช้รูปแบบซิปปัโมเดล (CIPP Model) ของสตัฟเฟิลบีม ซึ่งประกอบด้วยการประเมินด้านต่างๆ ดังนี้ 1) ประเมินด้านบริบท (Context Evaluation) 2) ประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) 3) ประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation) และ 4) ประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation) 2. ศึกษาความพึงพอใจต่อผลการดำเนินงานโครงการบริหารจัดการเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในศตวรรษที่ 21 ภายใต้ยุคนิวนอร์มัลของโรงเรียนบ้านหัวโกรก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 ในด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน และด้านความสำเร็จของโครงการ

ผลการประเมินโครงการ พบว่า

ประเมินบริบท (Context Evaluation) ได้แก่ ความสอดคล้องกับนโยบายหน่วยงานต้นสังกัด วัตถุประสงค์และความต้องการของผู้ที่เกี่ยวข้อง และเป้าหมายของโครงการ ระยะเวลาประเมิน เดือนมีนาคม 2563 - เมษายน 2563 ผู้ให้ข้อมูล คือ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 21 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน และผู้แทนบุคคลในชุมชน จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามเพื่อประเมินบริบท (Context) จำนวน 15 ข้อ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ผลการประเมินภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมิน และเมื่อจำแนกตามความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถาม มีความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมินทุกกลุ่ม ซึ่งเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ผู้แทนบุคคลในชุมชน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อพิจารณาความเหมาะสมตามตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดมีความเหมาะสมระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมิน โดยมีความสอดคล้องกับนโยบายหน่วยงานต้นสังกัดมากที่สุด รองลงมา คือ เป้าหมายของโครงการ และวัตถุประสงค์และความต้องการของผู้ที่เกี่ยวข้อง และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมิน โดยเรียงลำดับ 3 ลำดับแรกจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ โครงการมีความสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กิจกรรมของโครงการมีความเหมาะสม และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง และโครงการมีความสอดคล้องกับนโยบายและทิศทางการจัดการศึกษาของโรงเรียน

ประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ได้แก่ ความรู้ ความเข้าใจของบุคลากร การ

ให้ความสนับสนุนของผู้บริหาร/เครือข่าย ความพร้อมของวัสดุอุปกรณ์ อาคารสถานที่ แหล่งเรียนรู้และงบประมาณ ระยะเวลาประเมิน เดือนมีนาคม 2563 - เมษายน 2563 ผู้ให้ข้อมูล คือ

ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 21 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

จำนวน 13 คน และผู้แทนบุคคลในชุมชน จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล

ได้แก่ แบบสอบถามเพื่อประเมินปัจจัยนำเข้า (Input) จำนวน 15 ข้อ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ผลการประเมินภาพรวม พบว่า ความพร้อมและพอเพียงอยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมิน และเมื่อจำแนกตามความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถาม มีความคิดเห็นเกี่ยวกับความพร้อมและพอเพียงอยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมินทุกกลุ่มซึ่งเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ผู้แทนบุคคลในชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เมื่อพิจารณาตามตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดบ่งบอกถึงความพร้อมและพอเพียงระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมิน โดยความรู้ ความเข้าใจ ของบุคลากรมีความพร้อมระดับมากสุด รองลงมา คือ ความพร้อมของวัสดุอุปกรณ์ อาคารสถานที่ แหล่งเรียนรู้และงบประมาณ และสุดท้ายคือการให้ความสนับสนุนของผู้บริหาร/เครือข่าย และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อมีความพร้อมและพอเพียงอยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมิน โดยเรียงลำดับ 3 ลำดับแรกจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ผู้บริหารมีความรู้ ความเข้าใจและมีความสามารถในการขับเคลื่อนโครงการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ บุคลากรที่ร่วมดำเนินโครงการมีความสามารถในการจัดกระบวนการเรียนสอน และมีเครือข่ายร่วมพัฒนาสถานศึกษาที่พร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการ

ประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) ได้แก่ การวางแผน การปฏิบัติงาน

การนิเทศกำกับติดตาม และการให้ข้อมูลป้อนกลับเพื่อการปรับปรุงพัฒนาโครงการ ระยะเวลา

ประเมิน เดือนเมษายน 2564 ผู้ให้ข้อมูล คือ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 21คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน และผู้แทนบุคคลในชุมชน จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามเพื่อประเมินกระบวนการ (Process) จำนวน 20 ข้อ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ผลการประเมินภาพรวมพบว่า มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมิน และเมื่อจำแนกตามความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถาม มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมินทุกกลุ่ม ซึ่งเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ผู้แทนบุคคลในชุมชน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อพิจารณาตามตัวชี้วัดพบว่า ทุกตัวชี้วัดมีการปฏิบัติระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมิน โดยมีการวางแผน การปฏิบัติงาน การนิเทศกำกับ ติดตามมากที่สุด รองลงมาคือ การให้ข้อมูลป้อนกลับเพื่อการปรับปรุงพัฒนโครงการ และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมิน โดยเรียงลำดับ 3 ลำดับแรกจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ มีเกณฑ์หรือพฤติกรรมบ่งชี้พฤติกรรมที่แสดงออกจากผลการดำเนินงาน รองลงมา คือ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มีการบูรณาการเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสุดท้ายมีระบบการนิเทศ กำกับ ติดตามเพื่อหาแนวทางการปรับปรุงวิธีการดำเนินโครงการอย่างเป็นระบบ

ประเมินผลผลิต (Product Evaluation) ได้แก่ คุณภาพผู้เรียนด้านคุณลักษณะอันพึง

ประสงค์ของนักเรียน ครูได้รับการพัฒนาให้มีความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน และผลงานรางวัลที่โรงเรียน ครูและนักเรียนได้รับด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระยะเวลาประเมิน เดือนมีนาคม 2565 ผู้ให้ข้อมูล คือ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 19 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน และผู้แทนบุคคลในชุมชน จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามเพื่อประเมินผลผลิต (Product) จำนวน 15 ข้อ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ผลการประเมินภาพรวม พบว่า มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมิน และเมื่อจำแนกตามความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงานอยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมินทุกกลุ่ม ซึ่งเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ผู้แทนบุคคลในชุมชน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อพิจารณาตามตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดมีผลการดำเนินงานระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมิน โดยตัวชี้วัดครูได้รับการพัฒนาให้มีความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนมีระดับมากที่สุด รองลงมาคือคุณภาพผู้เรียนด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนและสุดท้ายผลงานรางวัลที่โรงเรียน ครูและนักเรียนได้รับด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อมีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมินโดยเรียงลำดับ 3 ลำดับแรกจมากไปหาน้อยได้ดังนี้ นักเรียนแสดงพฤติกรรมบ่งชี้ และพฤติกรรมแสดงออกตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามเป้าหมาย รองลงมา คือ ครูผู้สอนเป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเพื่อนครูและนักเรียนในการเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสุดท้ายโรงเรียนมีผลงานและได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติในด้านการเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ประเมินความพึงพอใจ ได้แก่ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน และด้าน

ความสำเร็จของโครงการ ระยะเวลาประเมิน เดือนมีนาคม 2565 ผู้ให้ข้อมูล คือ ข้าราชการครู

และบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 19 คน คณะกรรมการสถานศึกษาชั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน

ผู้แทนบุคคลในชุมชน จำนวน 5 คน ผู้ปกครอง จำนวน 185 คน และนักเรียน จำนวน 125 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 25 ข้อ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ผลการประเมินภาพรวม พบว่า ผู้ให้ข้อมูลทุกกลุ่มมีระดับความพึงพอใจมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมิน ทั้งทางด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน และด้านความสำเร็จของโครงการ และเมื่อจำแนกตามความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามพบว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมินทุกกลุ่ม ซึ่งเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้แทนบุคคลในชุมชน นักเรียน และผู้ปกครอง และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด สูงกว่าเกณฑ์การประเมิน โดยเรียงลำดับ 3 ลำดับแรกจากมากไปหาน้อย ตามด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน และด้านความสำเร็จของโครงการได้ดังนี้

ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน มีความพึงพอใจระดับมากที่สุด คือ

นักเรียนมีจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน สังคม รองลงมาคือ นักเรียนเป็นพลเมืองดีของชาติ และนักเรียนยึดมั่นและปฏิบัติตนตามหลักศาสนา

ด้านความสำเร็จของโครงการ มีความพึงพอใจระดับมากที่สุด คือ นักเรียนมีคุณลักษณะ

อันพึงประสงค์ที่ดีตามต้องการ และเป็นแบบอย่างได้ในสังคม รองลงมาคือ ผู้บริหารสนับสนุน ส่งเสริม จนโครงการประสบความสำเร็จ และสุดท้ายความพึงพอใจที่ครูดำเนินการจัดกิจกรรมอย่างกระตือรือร้นและสนุกสนาน

โพสต์โดย รัศมี ฉิมขันธ์ : [25 มี.ค. 2565 เวลา 12:15 น.]
อ่าน [682] ไอพี : 223.204.220.180
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,337 ครั้ง
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน

เปิดอ่าน 15,733 ครั้ง
จุดที่เย็นที่สุดในโลก
จุดที่เย็นที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 3,279 ครั้ง
บุหรี่มวน (Cigarette) ผลกระทบต่อสุขภาพ
บุหรี่มวน (Cigarette) ผลกระทบต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 13,802 ครั้ง
ฟื้นฟูผิวหลังถูกแดดเผา
ฟื้นฟูผิวหลังถูกแดดเผา

เปิดอ่าน 10,943 ครั้ง
ทำไม ห้ามดื่มเหล้าแกล้มทุเรียน ???
ทำไม ห้ามดื่มเหล้าแกล้มทุเรียน ???

เปิดอ่าน 18,635 ครั้ง
การทดลอง LHC ของเซิร์น ที่คล้องกับพุทธศาสนา
การทดลอง LHC ของเซิร์น ที่คล้องกับพุทธศาสนา

เปิดอ่าน 18,439 ครั้ง
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18

เปิดอ่าน 17,329 ครั้ง
1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่
1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่

เปิดอ่าน 68,506 ครั้ง
เครื่องแบบข้าราชการ
เครื่องแบบข้าราชการ

เปิดอ่าน 20,257 ครั้ง
เกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

เปิดอ่าน 82,627 ครั้ง
วิธีทำ  น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ
วิธีทำ น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ

เปิดอ่าน 12,949 ครั้ง
รัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
รัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐

เปิดอ่าน 36,633 ครั้ง
ศึก เอล กลาซิโก้ คืออะไร
ศึก เอล กลาซิโก้ คืออะไร

เปิดอ่าน 7,050 ครั้ง
รัฐบาลทำงานอย่างไร? จึงจะถูกใจประชาชน
รัฐบาลทำงานอย่างไร? จึงจะถูกใจประชาชน

เปิดอ่าน 21,741 ครั้ง
วิธีเลือกของขวัญมีค่า-ไม่แพง
วิธีเลือกของขวัญมีค่า-ไม่แพง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
Koi360
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
ตู้แช่ไวน์
BestKru
ตู้แช่ไวน์
Neonics.co.th
Tools.in.th
clonedbabies.com
gameszone.biz
nainokk.com
thechetter.com
รถมือสอง
คลินิกเสริมความงาม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร

เปิดอ่าน 52,264 ครั้ง
ตารางธาตุ
ตารางธาตุ

เปิดอ่าน 51,602 ครั้ง
วิธีตอนกิ่งมะละกอ ให้ผลผลิตเร็ว ต้นเตี้ยไม่กลัวลม
วิธีตอนกิ่งมะละกอ ให้ผลผลิตเร็ว ต้นเตี้ยไม่กลัวลม

เปิดอ่าน 10,076 ครั้ง
เตือนผู้ป่วยเบาหวานหมั่นตรวจตา ลดความเสี่ยงตาบอด
เตือนผู้ป่วยเบาหวานหมั่นตรวจตา ลดความเสี่ยงตาบอด

เปิดอ่าน 165,064 ครั้ง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 12,767 ครั้ง
8 กลเม็ดใช้ชีวิตปลอดหนี้!!!...
8 กลเม็ดใช้ชีวิตปลอดหนี้!!!...



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 081-3431047

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ