แบบฝึกเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์เป็นนวัตกรรมที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้และฝึกปฏิบัติได้ตามความต้องการของแต่ละบุคคล การศึกษาครั้งนี้ มีความมุ่งหมาย คือ

1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80

2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 โรงเรียนทับกุงประชานุกูล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 2 จำนวน 30 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนก รายข้อตั้งแต่ 0.24 - 0.67 ค่าความเชื่อมั่น 0.88 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test (Dependent Samples)

ผลการศึกษาพบว่า แบบฝึกเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 83.34/81.44 ค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.6744 และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ .05

โดยสรุป การเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นและสามารถนำไปเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้สอนควรมีการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับวิธีการสอนแบบต่างๆเพื่อนำไปใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มสาระอื่นซึ่งจะช่วยให้นักเรียนมีความสนใจและนักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ

เว็บน่าสนใจ