ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการนิเทศภายในของโรงเรียนพระแสงวิทยา

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร

ชื่อผู้ประเมิน นางสาวจารุณี บัวแย้ม

รองผู้อำนวยการโรงเรียนพระแสงวิทยา

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร

ปีที่ประเมิน ปีการศึกษา 2564

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

การประเมินโครงการนิเทศภายในของโรงเรียนพระแสงวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตของโครงการนิเทศภายในของโรงเรียน พระแสงวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ผู้ประเมินได้ใช้รูปแบบซิปป์โมเดล ของสตัฟเฟิลบีม ในการประเมินโครงการ โดยมีวิธีดำเนินการประเมิน ดังนี้ แบ่งการประเมินออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ก่อนการดำเนินโครงการ ประเมินด้านบริบท โดยมีเป้าหมายเพื่อศึกษาความต้องการจำเป็นของโครงการ ความเป็นไปได้ของโครงการ และความสอดคล้องเหมาะสมของวัตถุประสงค์ของโครงการ ตลอดจนความพร้อมของบุคลากร ความพอเพียงของงบประมาณ ความพร้อมของสื่อและเครื่องมือที่ใช้ในการนิเทศ และความเหมาะสมของการบริหารจัดการ ระยะที่ 2 ระหว่างการดําเนินโครงการ ผู้ประเมินได้ประเมินด้านกระบวนการเกี่ยวกับความเหมาะสมของกระบวนการดำเนินโครงการ ด้านการวางแผนการนิเทศ ด้านการดำเนินการนิเทศ ด้านการประเมินผลการนิเทศ และด้านการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และระยะที่ 3 หลังสิ้นสุดโครงการ ผู้ประเมินได้ประเมินผลผลิตของโครงการ ตัวชี้วัด การนำผลการนิเทศไปใช้ และความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้องที่มีต่อโครงการ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ฝ่ายบริหารของโรงเรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และผู้ปกครอง จำนวน 715 คนใช้เครื่องมือประเภทแบบสอบถามประมาณค่า 5 ระดับ ตามรูปแบบของลิเคิร์ท วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมิน พบว่า

1. ผลการประเมินด้านบริบทของโครงการนิเทศภายในของโรงเรียนพระแสงวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ตามความคิดเห็นของฝ่ายบริหารของโรงเรียน และครู ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄= 4.60, S.D. = 0.43) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ความเป็นไปได้ของโครงการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.65, S.D. = 0.46) รองลงมาคือ ความต้องการจำเป็นของโครงการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มากที่สุด ( x̄ = 4.60, S.D. = 0.48) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ความสอดคล้องเหมาะสมของวัตถุประสงค์ของโครงการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄= 4.54, S.D. = 0.36) ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการนิเทศภายในของโรงเรียนพระแสงวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ตามความคิดเห็นของฝ่ายบริหารของโรงเรียน และครู ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.49, S.D. = 0.50) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ความพร้อมของบุคลากร มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.54, S.D. = 0.50) รองลงมาคือ ความเหมาะสมของการบริหารจัดการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.51, S.D. = 0.50) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ความเพียงพอของงบประมาณ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( x̄= 4.40, S.D. = 0.49) ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการของโครงการนิเทศภายในของโรงเรียนพระแสงวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ของฝ่ายบริหารของโรงเรียน และครู ในภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.55, S.D. = 0.49) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านการวางแผน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄= 4.60, S.D. = 0.48) รองลงมาคือ ด้านการดำเนินการนิเทศภายใน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄= 4.57, S.D. = 0.49) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ด้านการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( x̄= 4.48, S.D. = 0.50) ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการนิเทศภายในของโรงเรียนพระแสงวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร มี 2 ตัวชี้วัด ดังนี้

4.1 ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการนิเทศภายในของโรงเรียนพระแสงวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ตัวชี้วัด การนำผลการนิเทศไปใช้ ตามความคิดเห็นของครู ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.54, S.D. = 0.49) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ความสามารถในการนิเทศการจัดการเรียนรู้ของครูผู้นิเทศ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄= 4.69, S.D. = 0.46) รองลงมาคือ ครูผู้รับการนิเทศสามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักสูตรสู่การปฏิบัติในชั้นเรียนได้อย่างมีคุณภาพ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.64, S.D. = 0.48) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ความสามารถในการเขียนรายงานการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการพัฒนางานสู่วิธีปฏิบัติที่ดีของครูผู้รับการนิเทศ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( x̄= 4.38, S.D. = 0.48) ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด

4.2 ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการนิเทศภายในของโรงเรียนพระแสงวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ตัวชี้วัด ความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้องที่มีต่อโครงการ ตามความคิดเห็นของนักเรียน ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.52, S.D. = 0.50) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ นักเรียนได้รับการพัฒนาคุณภาพตามหลักสูตรสู่การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄= 4.59, S.D. = 0.49) รองลงมาคือ นักเรียนมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมตามโครงการนิเทศภายในของโรงเรียนพระแสงวิทยา มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.56, S.D. = 0.50) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ การมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นเสนอแนะแนวทางในการดำเนินโครงการนิเทศภายในของโรงเรียนพระแสงวิทยา มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.47, S.D. = 0.50) ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด

เว็บน่าสนใจ