ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการ โดยใช้ระบบเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงาน

ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

ชื่อผู้วิจัย นายสุวิจักขณ์ สาระศาลิน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ในรูปแบบการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพและปัญหาระบบการบริหารจัดการ การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ 2) สร้างรูปแบบการบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ 3) ใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียน กาญจนานุเคราะห์ 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ มีขั้นตอนดังนี้

ผลการประเมิน พบว่า

ตอนที่ 1 การศึกษาสภาพและปัญหาระบบการบริหารจัดการการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ เป็นการวิจัย (Research: R1) ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis: A) เป็นการศึกษาสภาพและปัญหาระบบการบริหารจัดการการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียน กาญจนานุเคราะห์

ผลการศึกษาวิเคราะห์เอกสาร แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง มีสาระสำคัญที่สามารถนำไปใช้เป็นกรอบแนวคิดในการวิจัยได้ รูปแบบการบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

ส่วนที่ 1 กระบวนการบริหารงานกิจการนักเรียน

ส่วนที่ 2 โครงสร้างการบริหารงานกิจการนักเรียน

ส่วนที่ 3 แนวการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี Understand Model

ตอนที่ 2 การสร้างรูปแบบการบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ เป็นการพัฒนา (Development: D1) ออกแบบและพัฒนา (Design and Development: D&D) เป็นสร้างรูปแบบ การบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

ผลจากการปรับปรุงแก้ไขร่างรูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ พบว่ามีความเป็นไปได้ ความเป็นประโยชน์ ความเหมาะสม ความถูกต้อง และครอบคลุม อยู่ในระดับดีมาก

ตอนที่ 3 การใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์เป็นการวิจัย (Research: R2) ทดลองใช้ (Implementation)

ผลการนำรูปแบบให้ครูที่ปรึกษา นักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ไปทดลองใช้หลังได้รับการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี พบว่า เมื่อทำการตรวจสอบวิเคราะห์ค่าสถิติพื้นฐานของตัวแปรที่ทำการศึกษา วิเคราะห์ค่าสถิติพื้นฐานของตัวแปรที่ทำการศึกษา ผลการทดลองใช้รูปแบบครูที่ปรึกษา นักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ทำแบบประเมินความพึงพอใจการใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ที่มีต่อรูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ พบว่า ผลการวิเคราะห์ราบข้ออยู่ระหว่าง 0.672 – 0.842 ในภาพรวม มีค่าเท่ากับ 0.959

ตอนที่ 4 การประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริม การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ เป็นการพัฒนา (Development: D2) ประเมินผล (Evaluation: E) เป็นการประเมินความพึงพอใจในการใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

ผลการประเมินแบบประเมินความพึงพอใจการใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ หาค่าเฉลี่ย ( ) และค่าส่วนเบนมาตรฐาน (S.D.) ของผลการใช้โมดูลให้ครูที่ปรึกษานักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยไปทดลองใช้หลังได้รับการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี และการทดสอบค่า t-test หาค่าเฉลี่ย ( ) มีค่าระหว่าง 4.63 – 4.91 และค่าส่วนเบนมาตรฐาน (S.D.) มีค่าระหว่าง 0.28 – 0.48

คำสำคัญ การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริม

การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

บทนำ

สังคมยุคข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ได้แทรกซึมสู่วิถีชีวิตของผู้คนในสังคมทุกรูปแบบ ทำให้คนไทยโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รุนแรง และเต็มไปด้วยสถานการณ์ปัญหาที่มีความซับซ้อน นอกจากนี้การไหลบ่าของวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาสู่สังคมไทย ด้วยกระบวนการทางทุนนิยมและบริโภคนิยม ในขณะที่วัฒนธรรมดั้งเดิมนับวันแต่จะอ่อนแอลง ทำให้เด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมดังกล่าว จนนำไปสู่การมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและความล้มเหลวทางการเรียน ความไม่มั่นคงในอนาคตเด็กและเยาวชนในปัจจุบันจำนวนไม่น้อยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาและสภาพแวดล้อมที่ไม่สร้างสรรค์ในสังคมทำให้มีพฤติกรรมแตกต่างไปจากเด็กและเยาวชนในอดีต แม้ว่าผู้ปกครองครู อาจารย์และคนทำงานด้านเด็กจะให้ความรักความปรารถนาดีอย่างมากมายเพียงใดก็ตาม ก็ไม่อาจปกป้องและคุ้มครองเด็กและเยาวชนให้ปลอดภัยหรือมีพฤติกรรมตามที่สังคมคาดหวังได้ จากการประมวลสถิติข้อมูลสถานการณ์ปัญหาเด็กและเยาวชนของหน่วยงานต่าง ๆ พบว่า เด็กและเยาวชนที่เป็นนักเรียน ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับอื่นๆ ส่วนหนึ่งมักมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้เด็กและเยาวชนยังมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสังคม ติดการพนัน นิยมเสี่ยงโชค การมั่วสุมในหอพัก ไม่ชอบไปโรงเรียน หนีโรงเรียน ทำร้ายรังแกกันเอง หมกมุ่นกับสื่อที่ไม่สร้างสรรค์ นิยมบริโภคอาหารที่ไม่มีประโยชน์ อาหารที่ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ เครียดซึมเศร้า มองโลกในแง่ร้าย ไม่สนใจต่อปัญหาสังคม นับว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2552)

ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงจัดทำระบบ การดูแลช่วยเหลือนักเรียนขึ้น เพื่อมุ่งหวังให้สถานศึกษา ในฐานะที่หน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบในการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตป้องกัน ช่วยเหลือและแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับนักเรียนมีกระบวนการทำงานเป็นระบบมีความชัดเจนมีกิจกรรมและเครื่องมือต่างๆ ที่มีคุณภาพในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในด้านต่าง ๆ อันจะส่งผลให้ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนประสบความสำเร็จ (กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, 2554)

ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาเป็นระบบการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพระบบหนึ่งที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมสุขภาพจิต ได้ร่วมกันวางรากฐานเพื่อการพัฒนาคุณภาพนักเรียน ซึ่งมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ 1) ปรับเปลี่ยนบทบาทและเจตคติของผู้บริหารและครูอาจารย์ให้ส่งเสริมและพัฒนานักเรียนทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์และสังคม 2) วางระบบที่จะสร้างความมั่นใจว่า นักเรียนทุกคนมีครูอาจารย์อย่างน้อยหนึ่งคนที่จะคอยดูแลทุกข์สุขอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง 3) สนับสนุนให้ครูอาจารย์มีความใกล้ชิดกับผู้บกครอง เพื่อให้บ้าน โรงเรียนและชุมชนรวมกลุ่มกันเป็นเครือข่ายช่วยกันเฝ้าระวังดูแลช่วยเหลือนักเรียน 4) ประสานสัมพันธ์ระหว่างนักเรียน ชุมชนและผู้ชำนาญการในสาขาต่าง ๆ เพื่อให้มีการส่งต่อและรับช่วงการแก้ไข ส่งเสริมพัฒนานักเรียนและเยาวชนในรูปแบบสหวิทยาการการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน จึงมีคุณค่าและความจำเป็นที่สถานศึกษาจะต้องนำไปปฏิบัติให้เกิดผลกับนักเรียนอย่างเป็นระบบต่อเนื่องและยั่งยืน (กระทรวงศึกษาธิการ, 2552)

สถานศึกษายุคดิจิทัล (Digital Ela School) ดิจิทัลเทคโนโลยีมีผลกระทบต่อการบริหารงานของสถานศึกษาในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารงานวิชาการ การจัดการเรียนการสอน การบริหารทรัพยากรบุคคล การบริหารอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อม การบริหารกิจการนักเรียน และการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน ซึ่งงานของสถานศึกษาในทุกด้านจะต้องมีระบบจัดการฐานข้อมูลของสถานศึกษา เพื่อการตัดสินใจใน การบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ICT มาใช้การเพื่อสร้างระบบฐานข้อมูลเพื่อการบริหารและการจัดการความรู้ เพื่อการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับ (เอกชัย กี่สุขพันธ์: 2559) เทคโนโลยีดิจิทัลส่งผลกระทบต่อการบริหารงานในสถานศึกษา ทั้ง 4 ด้าน 1) ด้านการบริหารวิชาการ 2) ด้านการบริหารงานงบประมาณ 3) ด้านการบริหารงานบุคคล 4) ด้าน การบริหารทั่วไป ซึ่งงานของสถานศึกษาในทุกด้านจะต้องมีระบบจัดการฐานข้อมูลของสถานศึกษาเพื่อการตัดสินใจในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ICT มาใช้การเพื่อสร้างระบบฐานข้อมูล การบริหารและการจัดการความรู้ในงานด้านต่าง ๆ ตามที่กล่าวมาแล้วของสถานศึกษาเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องรู้จักนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหาร จัดการสถานศึกษา (เอกชัย กี่สุขพันธ์, 2559)

วัตถุประสงค์

1. เพื่อศึกษาสภาพและปัญหาระบบการบริหารจัดการงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียน กาญจนานุเคราะห์

2. เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริม การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

3. เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

4. เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

วิธีดำเนินการวิจัย

ตอนที่ 1 การวิจัย (Research : R1) ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis : A) เป็นการศึกษาสภาพและปัญหาระบบการบิหารจัดการการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

ตอนที่ 2 การพัฒนา (Development : D1)ออกแบบและพัฒนา (Design and Development : D&D) เป็นสร้างรูปแบบการบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

ตอนที่ 3 การวิจัย (Resarch : R2) ทดลองใช้ (Implementation) เป็นการใช้รูปแบบและศึกษาสภาพปัญหาการใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

ตอนที่ 4 การพัฒนา (Development : D2) ประเมินผล (Evaluation : E) เป็นการประเมินความพึงพอใจในการใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

สรุปผลการวิจัย

ตอนที่ 1 การศึกษาสภาพและปัญหาระบบการบริหารจัดการการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ เป็นการวิจัย (Research: R1) ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis: A) เป็นการศึกษาสภาพและปัญหาระบบการบริหารจัดการการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียน กาญจนานุเคราะห์

ผลการศึกษาวิเคราะห์เอกสาร แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง มีสาระสำคัญที่สามารถนำไปใช้เป็นกรอบแนวคิดในการวิจัยได้ รูปแบบการบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

ส่วนที่ 1 กระบวนการบริหารงานกิจการนักเรียน

ส่วนที่ 2 โครงสร้างการบริหารงานกิจการนักเรียน

ส่วนที่ 3 แนวการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี Understand Model

ผลการศึกษาสภาพและปัญหาระบบการบริหารจัดการการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ปัญหาจากการทำ SWOT Analysis โดยใช้แบบบันทึกการวิเคราะห์ปัญหาการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ พบว่า สถานการณ์ Question Marks Situation (W : จุดอ่อน O : โอกาส) สถานการณ์ที่สถานศึกษามีโอกาสเป็นข้อได้เปรียบด้านการพัฒนาสถานศึกษา อยู่หลายประการ แต่มีปัญหาอุปสรรคที่เป็นจุดอ่อนอยู่หลายประการเช่นกัน พบว่า สภาพแวดล้อมภายนอกเป็นโอกาส เป็นปัจจัยเอื้อ แต่สภาพแวดล้อมภายในเป็นจุดอ่อน ส่งผลให้มีข้อจำกัดในการพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพเรียก สภาพปัญหา ดังนั้น ผู้บริหารสถานศึกษาควรกำหนดทางออก คือ กลยุทธ์เพื่อจัดการหรือแก้ไขจุดอ่อนภายในต่าง ๆ ให้มี การปรับปรุง พัฒนา แก้ไข ทบทวน ประสานความร่วมมือ ขอรับการสนับสนุน สอดคล้องกับผลศึกษาสภาพแวดล้อมของการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ของ SWOT Analysis พบว่า สถานภาพของการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์อยู่ในรูปเครื่องหมายคำถาม (Question Marks) หมายถึง สภาพแวดล้อมภายในของโรงเรียนมีปัญหา ได้แก่ นักเรียนกลุ่มเสี่ยง และ กลุ่มมีปัญหาบางคนไม่สามารถปรับพฤติกรรมของตนเองได้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการจัดการส่งเสริมป้องกัน และแก้ไขปัญหาบางกิจกรรมไม่บรรลุวัตถุประสงค์ และ จุดอ่อนภายในที่ต้องแก้ไขปัญหาโดยนำนโยบายของต้นสังกัดที่ต้องการลดปริมาณนักเรียนกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มมีปัญหาในแต่ละด้าน โรงเรียนมีจุดแข็งในด้านการให้ความร่วมมือในการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

ตอนที่ 2 การสร้างรูปแบบการบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ เป็นการพัฒนา (Development: D1) ออกแบบและพัฒนา (Design and Development: D&D) เป็นสร้างรูปแบบ การบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

ผู้วิจัยนำข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์เนื้อหา เกี่ยวกับองค์ประกอบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนมาสร้างเป็นข้อคำถาม ในแบบสอบถาม แล้วนำแบบสอบถามที่ได้ไปพิจารณา ตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (content validity) โดยหาค่า IOC (Index 0f item Objective Congruence) จากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 ท่านนำแบบสอบถามที่ได้ไปพิจารณาตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (content validity) นำผลที่ได้มาวิเคราะห์หาค่าดัชนีความสอดคล้อง ตามวัตถุประสงค์โดยใช้เทคนิค IOC (Index 0f item Objective Congruence) เลือกข้อคำถามซึ่งพิจารณาค่าดัชนีความสอดคล้องมากกว่า 0.50 ขึ้นไป คัดเลือกไว้ใช้ได้ ต่ำกว่า 0.50 ปรับปรุงแก้ไขสำนวนภาษาที่ใช้ ตลอดจนเนื้อหาให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ และนิยามตัวแปรตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิผ่านการปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิแล้วไปทดลองใช้กับ ประชากรที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างผู้ให้ข้อมูลคือ ผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียน หัวหน้าระดับและครูที่ปรึกษาแล้วนำผลมาวิเคราะห์นำผลที่ได้มาคำนวณหาค่าเชื่อมั่นช่วงคงที่ภายใน โดยใช้วิธีสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (α- Coefficient) ได้ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับจุด 0.959 วิเคราะห์โดย ใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS (Statistical Package for the Social Sciences) ซึ่งผลการวิเคราะห์เหลือข้อคำถามจำนวน 132 ข้อ

การปรับปรุงแก้ไขร่างรูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญแล้วให้ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 ท่านตรวจสอบรูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์อีกครั้ง เพื่อรับรองรูปแบบ การบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียน กาญจนานุเคราะห์ เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ พบว่า มีความเป็นไปได้ ความเป็นประโยชน์ ความเหมาะสม ความถูกต้อง และครอบคลุม อยู่ในระดับดีมาก

ตอนที่ 3 การใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์เป็นการวิจัย (Research: R2) ทดลองใช้ (Implementation) เป็นใช้รูปแบบและศึกษาสภาพปัญหาการใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริม การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

ผลการวิเคราะห์โดยสกัดองค์ประกอบ (factor extraction) พบว่า ตัวแปรองค์ประกอบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ สามารถจัดกลุ่มองค์ประกอบทั้งหมด 4 องค์ประกอบ ประกอบด้วย องค์ประกอบที่ 1) ระบบข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียน องค์ประกอบที่ 2) การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนองค์ประกอบที่ 3) การสนับสนุนระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และองค์ประกอบที่ 4) การป้องกันและการแก้ไขปัญหานักเรียน และมีค่าไอเกน (eigenvalue) ที่มากกว่า 1.00 พบว่าผลจากการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ (exploratory factor analysis ด้วยวิธีการสกัดองค์ประกอบแบบการวิเคราะห์องค์ประกอบหลักหรือ (Principal Component Analysis) หรือ PCA และด้วยการหมุนแกนแบบตั้งฉาก (Orthogonal rotation) โดยวิธีแวริแมกซ์ (varimax rotation) ได้ 4 องค์ประกอบ โดยพิจารณาจาก ค่าความแปรปรวนของตัวแปร (eigenvalue) ที่มากกว่า 1.00 ตามวิธีของไกเซอร์ (Kaiser)และการเลือกตัวชี้วัดจากจำนวนตัวแปรในแต่ละตัวชี้วัดที่ต้องมีตัวแปรบรรยายตัวชี้วัดนั้น ๆ ตั้งแต่ 3 ตัวแปรขึ้นไป และมีค่าน้ำหนักองค์ประกอบ (factor loading) แต่ละองค์ประกอบเท่ากับ 0.600 ขึ้นไป ซึ่งพบว่าเป็นไปตามเกณฑ์ ทั้ง 4 องค์ประกอบ แต่มีบางตัวที่มีค่าน้ำหนักองค์ประกอบไม่ถึง 0.600 ทำให้ตัวแปรในการพิจารณาเลือกเหลือเพียง 68 ปัจจัย จากตัวแปรทั้งหมด 132 ปัจจัย สามารถอธิบายค่าความแปรปรวนของตัวแปรทั้งหมดได้เท่ากับ ร้อยละ 72.46

ตอนที่ 4 การประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริม การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ เป็นการพัฒนา (Development: D2) ประเมินผล (Evaluation: E) เป็นการประเมินความพึงพอใจในการใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์

ผลการประเมินแบบประเมินความพึงพอใจการใช้รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ หาค่าเฉลี่ย ( ) และค่าส่วนเบียงเบนมาตรฐาน (S.D.) ของผลการใช้โมดูลให้ครูที่ปรึกษานักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยไปทดลองใช้หลังได้รับการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี และการทดสอบค่า t-test หาค่าเฉลี่ย ( ) มีค่าระหว่าง 4.63 – 4.91 และค่าส่วนเบนมาตรฐาน (S.D.) มีค่าระหว่าง 0.28 –0.48

ข้อเสนอแนะ

ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะเพื่อนำผลการศึกษาไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาดังต่อไปนี้

1. เพื่อนำรูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแล

ช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ที่สมบูรณ์แล้ว ใช้เป็นรูปแบบในการพัฒนาสถานศึกษา เพื่อสามารถบริหารจัดการ ตรวจสอบ และประเมินผลระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างครอบคลุม ผู้บริหารสถานศึกษาสามารถนำผลลัพธ์ที่ได้ได้จากรูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ จัดทำรายงานประจำปี ไปจัดทำรายงานประจำปี จัดทำสารสนเทศที่สร้างความโดดเด่นเป็นสากลให้เป็นที่ประจักษ์และสะท้อนถึงประสิทธิภาพที่เข้มแข็งทั้งในระดับชาติและก้าวสู่สากลด้วยความภาคภูมิมากขึ้น

2. ผู้บริหารและครูโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ควรนำรูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี

เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ไปดำเนินการใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์เดิมให้สมบูรณ์มากขึ้น สอดคล้องกับสภาพการณ์ในขณะนั้นและสามารถเตรียมความพร้อมเพื่อให้การบริหารจัดการระบบดูแลนักเรียนบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ได้

3. การนำรูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแล

ช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ไปใช้สามารถปรับกิจกรรมตามความเหมาะสมของบริบทโรงเรียน

4. เมื่อนำรูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแล

ช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ไปใช้ในระดับการปฏิบัติงานและบริบทโรงเรียนที่ต่างไปของสถานศึกษา หากสถานศึกษานำไปทดลองใช้สามารถพัฒนาองค์ประกอบดังกล่าวส่งผลให้การบริหารระบบดูแลนักเรียนประสบความสำเร็จได้ ซึ่งหมายถึงภาพรวมการบริหารระบบดูแลนักเรียนมีประสิทธิผลและเกิดประสิทธิภาพ

ข้อเสนอแนะงานวิจัยครั้งต่อไป

เพื่อให้งานวิจัยเกี่ยวกับรูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ เป็นประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้า ผู้วิจัยจึงมีข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไปดังนี้

1. การศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิภาพ

ในสถานศึกษาสังกัดอื่น ๆ

2. การศึกษาเกี่ยวกับการนำรูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริม

การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ที่ได้ครั้งนี้ไปทดลองใช้กับสถานศึกษาต่างบริบทและขนาด เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของรูปแบบ

3. ควรศึกษาวิจัยเชิงสหสัมพันธ์ระหว่างการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนกับประสิทธิภาพ

ของสถานศึกษาด้านอื่น ๆ เพื่อนำไปสู่ข้อค้นพบใหม่ที่เป็นประโยชน์ในการบริหารพัฒนาสถานศึกษาต่อไปในอนาคต

4. ควรศึกษาสังเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบของกิจกรรมที่เหมาะสมในการจัดระบบดูแล

ช่วยเหลือนักเรียนให้เหมาะสมกับบริบทในประเทศไทย

บรรณานุกรม

กระทรวงศึกษาธิการ. แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2545-2559.กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2552.

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือครูที่ปรึกษาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน. กรุงเทพมหานคร: ยูเรนัสอิมเมจกรุ๊ป, 2554.

เอกชัย กี่สุขพันธ์ และคณะ. การบริหารสถานศึกษายุคดิจิทัล School Management in Digital Era . 2559.

โพสต์โดย สุวิจักขณ์ สาระศาลิน : [24 มิ.ย. 2565 เวลา 07:27 น.]
อ่าน [1853] ไอพี : 14.207.112.232
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,430 ครั้ง
อันตราย! ดื่มน้ำเกินพิกัด
อันตราย! ดื่มน้ำเกินพิกัด

เปิดอ่าน 15,452 ครั้ง
เทคนิคซ้อนฉากหลังของหนังฮอลลีวูด เจ๋งจริงๆ
เทคนิคซ้อนฉากหลังของหนังฮอลลีวูด เจ๋งจริงๆ

เปิดอ่าน 34,153 ครั้ง
ประวัติ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ (พระเทพวิทยาคม)
ประวัติ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ (พระเทพวิทยาคม)

เปิดอ่าน 31,818 ครั้ง
คำศัพท์คุ้นหูที่แปลว่า “ครู” เหมือนกัน แต่ใช้ไม่เหมือนกัน มาดูกันว่า…มีอะไรบ้าง
คำศัพท์คุ้นหูที่แปลว่า “ครู” เหมือนกัน แต่ใช้ไม่เหมือนกัน มาดูกันว่า…มีอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 73,958 ครั้ง
แบบคำขอให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ
แบบคำขอให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ

เปิดอ่าน 18,930 ครั้ง
เหรียญกล้าหาญ
เหรียญกล้าหาญ

เปิดอ่าน 8,909 ครั้ง
นอนมากเกิน-น้อยเกิน เสี่ยงเบาหวาน
นอนมากเกิน-น้อยเกิน เสี่ยงเบาหวาน

เปิดอ่าน 28,393 ครั้ง
พระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2)
พระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2)

เปิดอ่าน 18,173 ครั้ง
เริ่มแล้ว! กล้องไฮเทค จับผิด 30 แยกทั่วกรุงเทพฯ
เริ่มแล้ว! กล้องไฮเทค จับผิด 30 แยกทั่วกรุงเทพฯ

เปิดอ่าน 34,776 ครั้ง
ย้อนอดีตสอนภาษาไทย : แจกลูก-สะกดคำ
ย้อนอดีตสอนภาษาไทย : แจกลูก-สะกดคำ

เปิดอ่าน 14,701 ครั้ง
Flash Drive ปัญหาไวรัสเรื่องใหญ่
Flash Drive ปัญหาไวรัสเรื่องใหญ่

เปิดอ่าน 9,031 ครั้ง
ISCi : episode 53 - น้ำเรืองแสง
ISCi : episode 53 - น้ำเรืองแสง

เปิดอ่าน 13,143 ครั้ง
10 ทริคเพื่อสุขภาพประจำวัน รู้ไว้ได้ใช้แน่
10 ทริคเพื่อสุขภาพประจำวัน รู้ไว้ได้ใช้แน่

เปิดอ่าน 12,713 ครั้ง
ดื่มน้ำอัดลม…ระวังกระดูกพรุน!
ดื่มน้ำอัดลม…ระวังกระดูกพรุน!

เปิดอ่าน 24,489 ครั้ง
เมฆสีรุ้ง
เมฆสีรุ้ง

เปิดอ่าน 50,087 ครั้ง
เก่งภาษาอังกฤษ...แบบนีน่า
เก่งภาษาอังกฤษ...แบบนีน่า
เปิดอ่าน 30,760 ครั้ง
การประเมินผลการเรียนโดยการสัมภาษณ์
การประเมินผลการเรียนโดยการสัมภาษณ์
เปิดอ่าน 461,294 ครั้ง
สมรรถนะของครู
สมรรถนะของครู
เปิดอ่าน 10,638 ครั้ง
เทคโนโลยีแห่งอนาคต ขับเคลื่อนสังคมโลกยุคใหม่!
เทคโนโลยีแห่งอนาคต ขับเคลื่อนสังคมโลกยุคใหม่!
เปิดอ่าน 165,461 ครั้ง
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2550
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2550

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ