ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการประเมินโครงการพัฒนาอาคารเรียน อาคารประกอบและภูมิทัศน์แวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑”

รายงานผลการประเมินโครงการพัฒนาอาคารเรียน อาคารประกอบและภูมิทัศน์แวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” มีวัตถุประสงค์ เพื่อการประเมินโครงการ 4 ด้าน ได้ประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินซิปป์ (CIPP Model) ประกอบด้วย การประเมินด้านบริบท การประเมินด้านปัจจัยนำเข้า การประเมินด้านกระบวนการและการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินโครงการ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 4 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 69 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน นักเรียน จำนวน 224 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 224 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 534 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินเป็นแบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ รวมทั้งสิ้น 5 ฉบับ ทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ ได้ค่าความเชื่อมั่นฉบับที่ 1 ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .915 ฉบับที่ 2 ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .915 ฉบับที่ 3 ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .921 ฉบับที่ 4 ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .915 และฉบับที่ 5 ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .930 การวิเคราะห์ข้อมู]โดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมินโครงการ พบว่า

1. ผลการประเมินด้านบริบทของโครงการพัฒนาอาคารเรียน อาคารประกอบและภูมิทัศน์แวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยภาพรวม มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.37, S.D. = 0.79) เมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า มีระดับความคิดเห็นในระดับมากทุกรายการ โดยเรียงจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก ได้แก่ วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของโรงเรียน (x̄ = 4.50, S.D. = 0.68) รองลงมา คือ วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด ( x̄ = 4.48, S.D. = 0.72) และโครงการสอดคล้องกับสภาพปัญหาของโรงเรียนและชุมชน ( x̄ = 4.47, S.D. = 0.73) ส่วนรายการที่มีระดับความคิดเห็นต่ำสุด คือ นักเรียนได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาคารเรียนและอาคารประกอบและภูมิทัศน์แวดล้อม แหล่งเรียนรู้ ( x̄ = 4.20, S.D. = 0.91) มีระดับความคิดเห็นในระดับมากตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้มีผลปรากฏว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิOสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการพัฒนาอาคารเรียน อาคารประกอบและภูมิทัศน์แวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” ก่อนการดำเนินโครงการ ตามความคิดเห็น ของผู้บริหารสถานศึกษา และครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยภาพรวม มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.75, S.D. = 0.55) เมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า ระดับความคิดเห็นในระดับมากที่สุดทุกรายการ โดยเรียงจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก ได้แก่ นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ ( x̄ = 4.97, S.D. = 0.16) รองลงมาอาคารเรียนและอาคารประกอบและภูมิทัศน์แวดล้อมในโรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” เอื้อต่อการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ( x̄ = 4.84, S.D. = 0.50) และมีงบประมาณที่ได้รับจัดสรรเพื่อการดำเนินโครงการมีเพียงพอ ( x̄ = 4.79, S.D. = 0.52) ส่วนรายการที่มีระดับความคิดเห็นต่ำสุด คือ มีระบบการบริหารภายในโรงเรียนเอื้ออำนวยต่อการดำเนินกิจกรรม ( x̄ = 4.53, S.D. = 0.76) มีระดับความคิดเห็นในระดับมากที่สุด ตามลำดับเมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ มีผลปรากฏว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการของโครงการพัฒนาอาคารเรียน อาคารประกอบและภูมิทัศน์แวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” ระหว่างดำเนินการ ตามการปฏิบัติของผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และนักเรียน โดยภาพรวม มีระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.76, S.D. = 0.43) เมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า ระดับการปฏิบัติในระดับมากที่สุดทุกรายการ โดยเรียงจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก ได้แก่ การศึกษาสภาพปัญหา และความต้องการจำเป็นของโรงเรียนในการดำเนินโครงการ ( x̄ = 4.97, S.D. = 0.17) รองลงมา คือ การประสานงานและการสร้างความเข้าใจกับผู้เกี่ยวข้อง ( x̄ = 4.96, S.D. = 0.19) และมีความรับผิดชอบในการดำเนินโครงการของคณะกรรมการดำเนินโครงการ ( x̄ = 4.87, S.D. = 0.25) ส่วนรายการที่มีระดับการปฏิบัติต่ำสุด คือ การเปิดโอกาสให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนการดำเนินโครงการ( x̄ = 4.57, S.D.= 0.65) มีระดับการปฏิบัติในระดับมากที่สุด ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้มีผลปรากฏว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้

4. ผลการวิเคราะห์การประเมินด้านผลผลิตของโครงการพัฒนาอาคารเรียน อาคารประกอบและภูมิทัศน์แวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” หลังเสร็จสิ้นโครงการ ดังนี้

4.1 ผลการประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับระดับความคิดเห็นของนักเรียนจากการดำเนินงานโครงการพัฒนาอาคารเรียน อาคารประกอบและภูมิทัศน์แวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” หลังเสร็จสิ้นโครงการ โดยภาพรวม มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.77, S.D. = 0.44) เมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า ระดับความคิดเห็นในระดับมากที่สุดทุกรายการ โดยเรียงจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา มีการวางแผนใช้อาคารสถานที่และห้องปฏิบัติการต่างๆ อย่างเหมาะสมและส่งเสริมให้เป็นไป ตามแผนที่กำหนด ( x̄ = 4.96, S.D. = 0.24) รองลงมา คือ ผู้บริหารสถานศึกษาส่งเสริมการจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ระหว่างครูกับนักเรียนและระหว่างนักเรียนกันเองเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี (x̄ = 4.86, S.D. = 0.36) และโรงเรียนมีภูมิทัศน์แวดล้อมที่ร่มรื่นอื้อต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ( x̄ = 4.84, S.D. = 0.37) ส่วนรายการที่มีระดับความคิดเห็นต่ำสุด คือ มีอาคารเรียนและอาคารประกอบที่ส่งเสริมบรรยากาศในการเรียนรู้ (x̄ = 4.56, S.D. = 0.70) มีระดับความคิดเห็นในระดับมากที่สุด ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้มีผลปรากฏว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้

4.2 ผลการประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับระดับความพึงพอใจของผู้บริหารสถานศึกษาครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองและนักเรียนที่มีต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาอาคารเรียน อาคารประกอบและภูมิทัศน์แวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบางปะอิน “ราชานุเคราะห์ ๑” หลังเสร็จสิ้นโครงการ โดยภาพรวมมีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.87, S.D. = 0.32) เมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า ระดับความพึงพอใจในระดับมากที่สุดทุกรายการ โดยเรียงจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาส่งเสริมให้ครูมีการติดต่อสื่อสารกับครอบครัวของนักเรียน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลของนักเรียน อันเป็นประโยชน์ในด้านการเรียนและมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ( x̄ = 4.98, S.D. = 0.12) รองลงมา คือ ผู้บริหารสถานศึกษาส่งเสริมให้ครูมีการติดต่อสื่อสารกับครอบครัวของนักเรียนเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลของนักเรียนอันเป็นประโยชน์ในด้านการเรียนและมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์

( x̄ = 4.97, S.D. = 0.19) และโรงเรียนมีการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรักในระบอบประชาธิปไตย ผูกพันและภูมิใจในสถานศึกษาของตนและปลูกฝังระเบียบวินัย ค่านิยมและคุณธรรม แก่นักเรียนตามวิถีสังคมไทย ( x̄ = 4.96, S.D. = 0.20) ส่วนรายการที่มีระดับความพึงพอใจต่ำสุด คือ ความปลอดภัยของอาคารเรียน อาคารประกอบ ห้องเรียนและห้องปฏิบัติการที่จัดให้นักเรียน และการเปิดโอกาสให้นักเรียน ครู ผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีส่วนร่วมในการพัฒนาภูมิทัศน์แวดล้อม ( x̄ = 4.75, S.D.= 0.46) มีระดับความพึงพอใจในระดับมากที่สุด ตามลำดับเมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้มีผลปรากฏว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้

โพสต์โดย กรชนก : [4 ก.ค. 2565 เวลา 08:13 น.]
อ่าน [1900] ไอพี : 171.97.48.121
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,210 ครั้ง
แชร์กระจาย ฝีมือการแต่งนิทานของเด็ก 7 ขวบ ครีเอทได้น่ารักมาก
แชร์กระจาย ฝีมือการแต่งนิทานของเด็ก 7 ขวบ ครีเอทได้น่ารักมาก

เปิดอ่าน 30,702 ครั้ง
กระบี่กระบอง
กระบี่กระบอง

เปิดอ่าน 7,536 ครั้ง
สุดเจ๋ง! หนุ่มจบ ม.6 ประดิษฐ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ยกหมู่บ้าน
สุดเจ๋ง! หนุ่มจบ ม.6 ประดิษฐ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ยกหมู่บ้าน

เปิดอ่าน 16,980 ครั้ง
"จันทรุปราคา"กับ"ทางช้างเผือก" 15มิถุนาฯ-ค่ำคืนมองฟ้าสุดอัศจรรย์
"จันทรุปราคา"กับ"ทางช้างเผือก" 15มิถุนาฯ-ค่ำคืนมองฟ้าสุดอัศจรรย์

เปิดอ่าน 13,689 ครั้ง
เปิดเลคเชอร์ของ น้องปราง ศิรดา เด็กเก่งคะแนนแอดมิชชั่นสูงสุด ปี 2558
เปิดเลคเชอร์ของ น้องปราง ศิรดา เด็กเก่งคะแนนแอดมิชชั่นสูงสุด ปี 2558

เปิดอ่าน 22,565 ครั้ง
"มองการศึกษาในมุมใหม่" การ์ตูนสะท้อนการศึกษาไทย ที่ "ผู้ใหญ่" ควรทำความเข้าใจ
"มองการศึกษาในมุมใหม่" การ์ตูนสะท้อนการศึกษาไทย ที่ "ผู้ใหญ่" ควรทำความเข้าใจ

เปิดอ่าน 75,402 ครั้ง
งดข้าวเช้า…ตายเร็ว
งดข้าวเช้า…ตายเร็ว

เปิดอ่าน 12,245 ครั้ง
การยื่นขอรับบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองทางอิเล็กทรอนิกส์และระบบบำเหน็จบำนาญ
การยื่นขอรับบำเหน็จบำนาญด้วยตนเองทางอิเล็กทรอนิกส์และระบบบำเหน็จบำนาญ

เปิดอ่าน 32,853 ครั้ง
ดร.อาจอง เผยหิมะตก ในประเทศไทย ม.ค. ปีหน้า
ดร.อาจอง เผยหิมะตก ในประเทศไทย ม.ค. ปีหน้า

เปิดอ่าน 16,750 ครั้ง
สมุนไพรไทย
สมุนไพรไทย

เปิดอ่าน 15,256 ครั้ง
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8

เปิดอ่าน 505 ครั้ง
เหตุผลที่ควรเลือกใช้แฟลชไดร์ฟสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ แทนการจัดเก็บบนคลาวด์
เหตุผลที่ควรเลือกใช้แฟลชไดร์ฟสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ แทนการจัดเก็บบนคลาวด์

เปิดอ่าน 11,283 ครั้ง
7 หลักเลี่ยงไขมันพอกตับ
7 หลักเลี่ยงไขมันพอกตับ

เปิดอ่าน 10,578 ครั้ง
ดื่มนม ช่วยป้องกันโรคอ้วน อย่างนี้ก็มีด้วย
ดื่มนม ช่วยป้องกันโรคอ้วน อย่างนี้ก็มีด้วย

เปิดอ่าน 9,428 ครั้ง
เผย"แรม"รุ่นใหม่-มาตรฐานใหม่ต้องเก็บความจำไว้ได้แม้ไม่มีไฟฟ้า
เผย"แรม"รุ่นใหม่-มาตรฐานใหม่ต้องเก็บความจำไว้ได้แม้ไม่มีไฟฟ้า

เปิดอ่าน 51,914 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 13 การเตะโทษ
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 13 การเตะโทษ
เปิดอ่าน 16,429 ครั้ง
กระเทียม....เปี่ยมคุณค่า
กระเทียม....เปี่ยมคุณค่า
เปิดอ่าน 3,324 ครั้ง
วัยทำงาน มีภาวะอ้วน แนะหลัก "3อ 2ส 1ฟ 1น" ลดเสี่ยง
วัยทำงาน มีภาวะอ้วน แนะหลัก "3อ 2ส 1ฟ 1น" ลดเสี่ยง
เปิดอ่าน 13,321 ครั้ง
"กาบา (GABA)" สารอาหารในเมล็ดข้าว
"กาบา (GABA)" สารอาหารในเมล็ดข้าว
เปิดอ่าน 11,692 ครั้ง
พบสัตว์ประหลาดทะเลลึกเฉียด 2 หมื่นสายพันธุ์
พบสัตว์ประหลาดทะเลลึกเฉียด 2 หมื่นสายพันธุ์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ